กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) จับมือ กรมการกงสุล เปิดบริการ จัดส่งเอกสารเพื่อแปลและรับรองทางไปรษณีย์ ใน 2 สัปดาห์ ด้วยระบบบริการ EMS ที่มุ่งตอบสนองความต้องการประชาชนด้านการแปลและขอรับรองเอกสารทางการไทย อาทิ สูติบัตร บัตรประชาชน ทะเบียนสมรส หนังสือเปลี่ยนชื่อตัว-นามสกุล ฯลฯ เพื่อใช้ในการทำงาน เรียนต่อ หรือ ย้ายถิ่นฐานไปยังต่างประเทศ ให้สามารถรอรับเอกสารอยู่ที่บ้านได้อย่างสบายใจ โดยสามารถตรวจสถานะการนำจ่ายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซต์ http://track.thailandpost.co.th หรือ แอพพลิเคชั่น Track & Trace บนสมาร์ทโฟน ทั้งนี้ บริการดังกล่าวเริ่มเปิดให้ใช้บริการวันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป ณ พื้นที่ทำการไปรษณีย์ 1,200 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับผู้สนใจหรือมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.consular.go.th และ สายด่วนกรมการกงสุล โทรศัพท์ 02 572 8442 หรือ ฝ่ายตลาดขนส่ง บจก.ไปรษณีย์ไทย โทรศัพท์ 0-2831-3183 (ในวันและเวลาราชการ), THP Contact Center 1545 และเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th
นางสมร เทิดธรรมพิบูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส รักษาการในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า จากผลการตอบรับเป็นอย่างดีของผู้ใช้บริการจัดส่งหนังสือเดินทางด่วนพิเศษทางไปรษณีย์ (Passport Speed Post) บริการจัดส่งหนังสือเดินทางแบบเร่งด่วน ภายใน 3 วัน ด้วยระบบ EMS เอาใจผู้ยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางไปต่างประเทศ และ ไม่สะดวกมารับเล่มด้วยตนเอง ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างไปรษณีย์ไทย และ กรมการกงสุล เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดบริการใหม่ คือ บริการรับจัดส่งเอกสารเพื่อแปลและรับรองทางไปรษณีย์ ที่มุ่งอำนวยความสะดวกประชาชนด้านการแปลและขอรับรองเอกสารทางการไทย เพื่อทำงาน เรียนต่อ ท่องเที่ยว ตลอดจนย้ายถิ่นฐานไปยังต่างประเทศที่ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ให้สามารถรอรับเอกสารอยู่ที่บ้านได้อย่างสบายใจ ด้วยระบบขนส่งทางไปรษณีย์ที่รวดเร็ว ปลอดภัย ตรวจสอบได้ 24 ชั่วโมง
โดยประชาชนสามารถเข้าถึงบริการดังกล่าวได้ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ดาวน์โหลดแบบคำร้อง ขอใช้บริการที่เว็บไซต์ www.consular.go.th ก่อนเตรียมเอกสารต้นฉบับที่ต้องการแปลพร้อมสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง ฯลฯ
ยื่นขอใช้บริการ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ใกล้บ้าน โดยเตรียมซองใส่เอกสาร ขนาด C4 จำนวน 2 ซอง ฝากส่งถึงศูนย์การแปลและจ่าหน้าที่อยู่ผู้รับ พร้อมระบุเบอร์โทรศัพท์ของผู้รับ เพื่อความสะดวกในการติดต่อ
ชำระค่าธรรมเนียม การแปลและรับรองเอกสาร (เริ่มต้นที่ 200 บาทต่อชิ้น) รวมถึงค่าจัดส่ง
จากนั้น เอกสารดังกล่าวจะถูกจัดส่งมายัง ศูนย์การแปลกรมการกงสุล เพื่อประสานงานการแปลจากผู้เชี่ยวชาญที่ได้มาตรฐานและรับรองความถูกต้องตามกฎหมาย จากกองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล ทั้งนี้ เมื่อเอกสารผ่านการรับรองเรียบร้อยแล้ว (พร้อมต้นฉบับ) จะถูกนำส่งไปยังผู้รับปลายทางด้วยมาตรฐานบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS ใน 2 สัปดาห์ นับจากวันที่ฝากส่ง (รวมระยะเวลาแปลและรับรองเอกสาร) ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการและกรมการกงสุล สามารถติดตามและตรวจสอบสถานะการนำจ่ายทุกขั้นตอน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซต์ http://track.thailandpost.co.th/ หรือแอพพลิเคชั่น Track & Trace บนสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ท
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทย ยังมีบริการที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศ อาทิ การยื่นคำร้องขอวีซ่าผ่านที่ทำการไปรษณีย์ บริการส่งคืนหนังสือเดินทางที่ตรวจลงตรา (วีซ่า) จากสถานทูตต่างๆ (Courier Pass Back) บริการจัดส่งหนังสือเดินทางด่วนพิเศษทางไปรษณีย์ (Passport Speed Post) ฯลฯ ซึ่งเป็นบริการที่มุ่งตอบสนองการให้บริการภาคประชาชนเพื่อให้ได้รับความสะดวก และประหยัดในการติดต่อใช้บริการกับภาครัฐ อันสอดรับกับแนวนโยบายของไปรษณีย์ไทยที่มุ่งมั่นพัฒนาในทุกระบบบริการเพื่อสนองทุกความต้องการของประชาชนได้อย่างครอบคลุม เพื่อให้ไปรษณีย์ไทย เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนชีวิตและเศรษฐกิจไทยอย่างเต็มภาคภูมิ นางสมร กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้สนใจหรือมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.consular.go.th และ สายด่วนกรมการกงสุล โทรศัพท์ 02 572 8442 หรือ ฝ่ายตลาดขนส่ง บจก.ไปรษณีย์ไทย โทรศัพท์ 0-2831-3183 (ในวันและเวลาราชการ), THP Contact Center 1545 และเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th