กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เตรียมพร้อมให้บริการลูกค้าทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อความสะดวก ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น
นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) เปิดเผยว่า "ปัจจุบันบริษัทฯ มีจำนวนบัญชีลูกค้าเกือบ 200,000 บัญชี เพื่อเพิ่มความสะดวก และให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพแก่ลูกค้าทุกราย บริษัทฯ จึงได้ร่วมหารือกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) ผลักดันให้อุตสาหกรรมหลักทรัพย์เข้าสู่ Digital Industry ลดการใช้กระดาษ ลดต้นทุนการดำเนินงาน เพิ่มความรวดเร็วในการบริการ และเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น"
จากเดิมเมื่อลูกค้าโอนเงินหลักประกันผ่านธนาคารแล้วส่งหลักฐานการโอนเงินมายังบริษัทฯ ผ่านทางแฟกซ์หรืออีเมล์ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องแล้ว จึงโอนเงินหลักประกันเข้าสู่บัญชีลูกค้า และปรับเพิ่มวงเงินการซื้อขายให้ ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2559 ลูกค้าจะไม่ยุ่งยากในการส่งหลักฐานเข้ามา โดยให้ลูกค้าแจ้งเลขบัญชีธนาคาร เพื่อทำการผูกบัญชีหักเงินฝาก (ATS) ไว้ที่บริษัทฯ เพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นเมื่อต้องการโอนเงิน ลูกค้าเพียงแค่แจ้งผ่านหน้าเว็บไซต์ หรือแจ้งผ่านแบบฟอร์มของบริษัทฯ ระบบจะตัด ATS และส่งเงินเข้าบัญชีลูกค้า พร้อมทั้งปรับเพิ่มวงเงินของลูกค้าอย่างรวดเร็ว การทำธุรกรรมลักษณะนี้จะทำให้เกิดความสะดวก ปลอดภัย และมั่นใจได้ว่าเงินเข้าบัญชีถูกต้อง
นอกจากวิธีการ ATS แล้ว บริษัทฯ ยังมีอีกหนึ่งบริการที่สะดวกรวดเร็วคือ "e-payment" ลูกค้าสามารถแจ้งขอตัดเงินหลักประกันโดยระบุ Internet Banking ที่ต้องการทำรายการครั้งแรกครั้งเดียว จากนั้นลูกค้าสามารถทำรายการผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ ระบบจะเพิ่มวงเงินให้กับลูกค้าอัตโนมัติทันทีที่ลูกค้าทำรายการ
บริษัทฯ คาดว่าจะยกเลิกการรับหลักฐานโอนเงินหลักประกันทางแฟกซ์หรืออีเมล์ และเปลี่ยนมาทำผ่านระบบ ATS หรือ e-payment ทั้งหมด ในต้นปี พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป ลูกค้าสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 02-658-5050 หรือ เว็บไซต์ http://www.maybank-ke.co.th/