กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
เพราะเชื่อมั่นว่าการปลูกฝังจิตสำนึกสาธารณะ จะสร้างความสุขและอนาคตที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง ล่าสุด โรงเรียนนานาชาติ ภูเก็ตอะคาเดมี (Phuket International Academy) นำโดย มร.จูเลียน ไวท์ลีย์ กรรมการผู้บริหารโรงเรียนฯ ได้เผยถึงวิสัยทัศน์ของโรงเรียนฯ ที่จะเป็นแบบอย่างของชุมชนการเรียนรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่มีพื้นฐานด้วยความเอื้ออาทร ฝึกฝนเยาวชนให้มีจิตสำนึกในการทำงานเพื่อสังคม ควบคู่ไปกับการใช้ชีวิต พร้อมกับเสริมมุมมองในการสร้างเยาวชนคนดีว่า "สิ่งที่อยากเห็นคือ เด็กมีความสุข เมื่อมีความสุข เด็กจะมีพลัง มีแรงจูงใจใฝ่เรียนรู้ วางแผนด้วยตัวเอง เป็นการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด ไม่ต้องให้อาจารย์บังคับ เราเชื่อมั่นว่าการศึกษาจะช่วยพัฒนาศักยภาพของเยาวชนได้ ทั้งจิตใจ ร่างกาย อารมณ์ สังคมและปัญญาวันนี้เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าโลกอนาคตจะเปลี่ยนไปอย่างไร มีเทคโนโลยีอะไรใหม่ ดังนั้นสิ่งที่โรงเรียนทำได้ คือเตรียมความพร้อมเรื่องทักษะชีวิต สอนให้เยาวชนรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนไปได้ เราแทบจะไม่เห็นภาพเยาวชนก้มหน้าก้มตา จดจ่ออยู่กับโทรศัพท์มือถือที่นี่ ไม่ใช่ว่าเราห้ามใช้ แต่เราสอนให้เยาวชนได้รู้จักตัวตน รู้ว่าความสุขอยู่ที่ไหน ทำตัวอย่างไรให้มีความสุข และคิดต่อเพื่อสังคม ว่าจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ โลกเราคงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป"
โรงเรียนนานาชาติ ภูเก็ตอะคาเดมี เปิดสอนตั้งแต่เตรียมอนุบาลจนถึงเกรด 12 หรือมัธยมศึกษาปีที่ 6 จะเป็นโรงเรียนนานาชาติแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกขององค์การสหสากลวิทยาลัยโลก (United World College หรือ UWC) องค์กรเครือข่ายที่มุ่งมั่นให้การศึกษาเป็นพลังในการนำพาประเทศและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปสู่สันติภาพและโลกอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน โดยจะเป็นสถาบันการศึกษา 1 ใน 16 แห่งทั่วโลกที่ได้รับการคัดเลือกโดยจะเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมปี 2016 โรงเรียนนานาชาติ ภูเก็ตอะคาเดมี เปิดสอนในหลักสูตรนานาชาติ International Baccalaureate (IB) อย่างเต็มรูปแบบ และเน้นการพัฒนาผู้เรียนเป็นองค์รวม ทั้งด้านปัญญา อารมณ์และสังคม
ส่วนเยาวชนหนุ่มสาวของโรงเรียนนานาชาติ ภูเก็ตอะคาเดมี ต่างเผยถึงความคิดเห็นของการเรียนรู้ อาทิ
ซาเวียร์ เกทส์ (Zavier Gates) หนุ่มน้อยชาวออสซี่วัย 13 ปี เกรด 8 ที่ย้ายตามพ่อแม่ที่มาทำงานที่เมืองไทย เล่าให้ฟังว่า "วิชาโปรดของผมคือ คลาสฝึกพัฒนาจิตใจ ให้รู้จักตัวเองและ มีสติ ตอนแรกฟังเป็นเรื่องตลก แต่พอได้เรียนจริงๆ แล้ว รู้สึกดีมาก คือมันมีเหตุมีผลในตัวเอง พอเราได้ฝึกให้ใจสงบ สมาธิเราดีขึ้น มีสติ เกิดปัญญาครับ" นี ทรัน (Nhi Tran)สาวน้อยชาวเวียดนามวัย 17 ปี เกรด 11 ที่ได้ทุนการศึกษา เผยว่า "โรงเรียนสอนให้พวกเราที่มาจากหลายประเทศ ได้รู้จักช่วยเหลือ พึ่งพากัน และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จากบ้านและยังเป็นครั้งแรกที่เรียนโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งปัญหาก็พอจะมีบ้าง แต่ละคนก็ต้องหาทางออกที่จะอยู่ร่วมกันได้ ยิ่งกับหลักสูตร IB ที่นี่ เราจะต้องเรียนรู้การเป็นผู้ให้ โรงเรียนส่งเสริมให้นักเรียนทำกิจกรรมนอกหลักสูตร ทุกวันหยุด
วีคเอนด์ เราจะไปช่วยงานอาสาสมัครที่ศูนย์ช่วยเหลือสุนัข พวกเราจะทำงานอาสาสมัคร 3ชั่วโมง หลังจากนั้น เราจะช่วยเหลือเรื่องประชาสัมพันธ์ออนไลน์" ส่วน นันทิตา เศรษฐี สาวไทยวัย 18 ปี เรียนอยู่เกรด 12 เผยว่า "สิ่งที่เราเรียนรู้ที่นี่ ทำให้เรารู้จักตัวเอง รู้ว่าเราชอบที่จะสอน ชอบเด็ก ภูมิใจเวลาที่เราได้ช่วยสอนเพื่อนที่เรียนไม่ทัน มีเป้าหมายอยากที่จะเป็นครูค่ะ"
ถ้าเยาวชนมีจิตสำนึกสาธารณะ รู้จักรับผิดชอบตนเอง คนรอบข้าง และแบ่งเบาภาระของสังคมเมื่อเยาวชนเป็นอนาคตของประเทศ สังคมเราก็จะเข้มแข็งและยั่งยืนได้อย่างแท้จริง