กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--เวิรฟ
สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) ผนึกสมาชิกฯ เสริมระบบรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการย่านราชประสงค์ "Ratchaprasong Integrated Security System" ขยายขอบเขตการดูแลนักท่องเที่ยวทั้งพื้นที่ภายในอาคารและพื้นที่สาธารณะ อาทิ ติดตั้งกล้อง CCTV คุณภาพสูง เพิ่มไฟส่องสว่าง คอร์สอบรมเสริมทักษะบุคลากร พร้อมภาคีระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินการร่วมมือเพื่อเตรียมแผนรักษาความปลอดภัย เพิ่มความมั่นใจและต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกตลอดช่วงเทศกาล
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) เปิดเผยว่า "ในช่วงไฮซีซั่นของทุกปี ย่านราชประสงค์ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของการท่องเที่ยวระดับโลกที่มีกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะกิจกรรมเคาท์ดาวน์ Bangkok Countdown At Ratchaprasong ที่นับว่าเป็น Top of mind ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในปีนี้ทางสมาคมฯ จึงได้ขยายและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยร่วมกับเครือข่ายสมาชิกผู้ประกอบการ 13 อาคาร ได้แก่ ศูนย์การค้าเกษร, ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก, โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ, โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ, โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ กรุงเทพฯ, โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ, มณียาเซ็นเตอร์, เดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์, โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ, เพรสิเด้นท์ ทาวเวอร์ อาเขต, โรงแรมเรเนซองซ์ กรุงเทพ ราชประสงค์ รวมทั้งพันธมิตร ได้แก่ มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมยกระดับศักยภาพ 'ระบบรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการย่านราชประสงค์' (Ratchaprasong Integrated Security System) ให้อยู่ในระดับสูงสุดทั้งพื้นที่ภายในอาคารและพื้นที่สาธารณะ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
ล่สุดได้เสริมประสิทธิภาพความปลอดภัยด้วยกลยุทธ์ 3 ด้าน คือ ด้านมาตรการป้องกันและการรองรับ ด้านเทคโนโลยี และด้านบุคลากร เพื่อขยายขอบเขตการดูแลนักท่องเที่ยวทั้งพื้นที่ภายในอาคารและพื้นที่สาธารณะ ภายใต้การดำเนินงานของระบบรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการย่านราชประสงค์ "Ratchaprasong Integrated Security System" ครอบคลุมการทำงาน ทั้งมาตรการควบคุมอาชญากรรมด้วยเทคโนโลยี การอัพเกรดคุณภาพกล้องความละเอียดสูง 4K และการเพิ่มกำลังบุคลากรด้านความปลอดภัย พร้อมจัดอบรมสูตรพิเศษ
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการย่านราชประสงค์ "Ratchaprasong Integrated Security System"
กลยุทธ์ ปี พ.ศ.2557 ปี พ.ศ. 2558
การรักษาความปลอดภัยของย่านฯ
1. ด้านมาตรการป้องกันและการรองรับ สร้างแผนยุทธศาสตร์ประกอบด้วย สร้างแผนยุทธศาสตร์ประกอบด้วย
· มาตรการประสานงานหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง · มาตรการ บูรณาการรักษาความปลอดภัย
· มาตรการป้องกันการประทุษร้ายต่อทรัพย์ · มาตรการ ป้องกันการประทุษร้ายต่อทรัพย์
· มาตรการป้องกันการก่อการร้าย · มาตรการ ป้องกันการก่อการร้ายในพื้นที่
· มาตรการ ควบคุมอาชญากรรมด้วยเทคโนโลยี
2. ด้านเทคโนโลยี จำนวนกล้องCCTV จำนวนกล้องCCTV
· กล้องCCTV และระบประมวลผลอัจฉริยะ– ร่วมมือกับ บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด รวมทั้งจำนวนทั้งสิ้น1,300 ตัว โดยแบ่งเป็นกล้องความละเอียดสูงสองล้านพิกเซล จำนวน 34 ตัว คุณสมบัติทำให้ภาพคมชัดมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น2,155 ตัว โดยมีกล้องความละเอียดสูงในพื้นที่สาธารณะ ประกอบด้วย กล้อง 4K ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้อง 360 องศา คุณสมบัติ มองเห็นภาพได้รอบทิศทาง
การเพิ่มประสิทธิภาพกล้อง โดยนำเทคโนโลยี 4K เข้ามา เพื่อเพิ่มความคมชัดในบางพื้นที่ สามารถเก็บภาพได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น อีกทั้งยังมีการปรับแต่งค่าความละเอียดในการซูมภาพไปยังวัตถุเป้าหมายนั้นๆ ให้มีความคมชัดเพิ่มมากขึ้น
ระบบประมวลผล โดยนำซอฟท์แวร์อัจฉริยะในการวิเคราะห์ภาพ (Analytic) มาใช้วิเคราะห์ภาพ มีการแจ้งเตือนหากกล้องจับภาพได้ว่ามีบุคคลที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง หรือ วัตถุต้องสงสัย ที่เข้าข่ายต้องเฝ้าระวัง เพื่อจะได้มีการดูแลด้านความปลอดภัยได้อย่างประสิทธิภาพมากขึ้น
· ห้องปฏิบัติการCCTV หรือศูนย์รักษาความปลอดภัยราชประสงค์ ดำเนินการอัพเกรดระบบเชื่อมต่อกล้องCCTV ด้วยระบบ Fiber Optic และ Wi-Fi และเปลี่ยนจอมอนิเตอร์เพื่อให้ภาพมีความคมชัดระดับปกติ ดำเนินการอัพเกรดระบบเชื่อมต่อกล้องCCTV ด้วยระบบ Fiber Optic และ Wi-Fi และเปลี่ยนจอมอนิเตอร์เพื่อให้ภาพมีความคมชัดมากขึ้น ระดับ Full HD
3. ด้านบุคลากร รวมทั้งสิ้นกว่า 482 นาย แบ่งเป็น รวมทั้งสิ้นกว่า 482 นาย แบ่งเป็น
· เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย · ภายในอาคาร (13 อาคาร สมาชิก) กว่า 470 นาย · ภายในอาคาร (13 อาคาร สมาชิก) กว่า 470 นาย/ผลัด
· สายตรวจเดินเท้า 12 นาย ครอบคลุมพื้นที่ สกายวอล์กและพื้นที่สาธารณะ · สายตรวจเดินเท้า 12 นาย ครอบคลุมพื้นที่ สกายวอล์กและพื้นที่สาธารณะ
· ภายในบริเวณศาลท่านท้าวมหาพรหม 1นาย
· การจัดคอร์สอบรมเพิ่มทักษะและฝึกฝนบุคคลากรด้านการรักษาความปลอดภัยภายในย่าน สมาคมฯ ได้ร่วมสมาชิกจัดอบรมทักษะต่างๆ ปีละ 2 ครั้ง เพิ่มการอบรมทักษะต่างๆ เป็นปีละ 4 ครั้ง ครอบคลุมเรื่อง ทักษะในการเฝ้าระวังทั้งในด้านการประทุษร้ายต่อทรัพย์และการลักลอบวางระเบิด ตลอดจนข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น
· ความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานงานตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลในพื้นที่ 2 นาย ต่อวัน และในช่วงเทศกาลต่างๆจำนวนเจ้าหน้าที่มากน้อยขึ้นอยู่กับกับความเสี่ยงของงานเทศกาลนั้นๆ ประสานงานตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลในพื้นที่ 2 นาย ต่อวัน และในช่วงเทศกาลต่างๆ จำนวนเจ้าหน้าที่มากน้อยขึ้นอยู่กับกับความเสี่ยงของงานเทศกาลนั้นๆ
พล.ต.ท อนันต์ ศรีหิรัญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญในการดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นลำดับต้นๆ มีการบูรณาการกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ (สน.ลุมพินี), ตำรวจนครบาล, สายตรวจปฏิบัติการพิเศษ, หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด (EOD), ตำรวจท่องเที่ยว กองปราบฯ และ ตำรวจสันติบาล รวมถึงได้รับความร่วมมือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในการดูแลรักษาความสงบและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนทั่วไปในทุกพื้นที่ทั้งในช่วงเวลาปกติและในช่วงเทศกาลต่างๆ ด้านการดูแลความปลอดภัยในย่านราชประสงค์ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการพูดคุยและวางมาตรการรักษาความปลอดภัยร่วมกับทางสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกอาคารรองรับอยู่แล้ว โดยเน้นไปที่การมีส่วนร่วมของภาคเอกชน กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการตรวจตราหาผู้กระทำผิด(Biometric) หรือ ตรวจสิ่งของที่น่าจะเป็นอันตราย(VDO Analytic) นอกจากนี้ยังจัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเสี่ยงและประสานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในแต่ละอาคารช่วยดูแลเรื่องสภาพแวดล้อมภายนอกในจุดมุมอับต่างๆ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลความปลอดภัยรอบนอกพื้นที่"
ทางด้าน นางสาวราณี สิทธิแก้ว ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายขายและการตลาดผลิตภัณฑ์ซีเคียวริตี้ โซลูชั่น บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงการเตรียมพร้อมทางด้านประสิทธิภาพของการกล้อง CCTV ว่า "เรามีการเพิ่มเติมในเรื่องของคุณสมบัติกล้องให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยติดตั้งกล้องที่เป็น 4K เพื่อเพิ่มความคมชัดที่เหนือกว่า และได้มีการปรับแต่งค่าความละเอียดในการซูมภาพไปยังวัตถุเป้าหมายนั้นๆ ให้มีความคมชัดเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีการปรับมุมกล้องให้แคบลงเพื่อที่จะจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวหรือความผิดปกติต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ล่าสุดเราพัฒนาในเรื่องของการ Analytic โดยนำซอฟท์แวร์อัจฉริยะในการวิเคราะห์ภาพซึ่งเป็นเทคโนโลยีของพานาโซนิคโดยเฉพาะมาใช้ โดยทันทีกล้องจับภาพได้ว่ามีบุคคลที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง หรือ วัตถุต้องสงสัย จะมีการแจ้งเตือนในทันที พร้อมการ Monitor ภาพแบบองค์รวมจากกล้องบริเวณห้างสรรพสินค้าโดยรอบมารวมกันไว้ที่ห้อง Control Room ดังนั้นเรียกได้ว่าพื้นที่ภายนอกบริเวณย่านนี้จะเป็นพื้นที่ที่มีการเฝ้าระวังด้านความปลอดภัยสูงมาก"