กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--กรีนพีซ
นักกิจกรรมกรีนพีซนำแบบจำลองกระป๋องปลาทูน่าขนาดใหญ่แบรนด์ซีเล็ค โดยมีอาสาสมัครในชุดชาวประมงถือปลาทูน่าจำลองอยู่ด้านใน พร้อมป้ายข้อความ "Not Just Tuna : สร้างความเป็นธรรมต่อแรงงานและปกป้องมหาสมุทร"วางด้านหน้าอาคารบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) สำนักงานใหญ่ เพื่อหยิบยกปัญหาที่เป็นความท้าทายต่อบริษัทไทยยูเนี่ยนเพื่อเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติที่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมและเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิแรงงานและสิทธิมนุษยชน
"ไทยยูเนี่ยนต้องแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนที่มีนัยสำคัญ มีรูปธรรมและกรอบเวลาที่ชัดเจนในการบรรลุถึงพันธกิจด้านความยั่งยืนของตนที่ตั้งเอาไว้ กรีนพีซเรียกร้องไทยยูเนี่ยนระบุแผนงานที่มีรายละเอียดพร้อมหลักไมล์และตารางเวลาที่ชัดเจนซึ่งอธิบายว่าบริษัทตั้งใจจะขับเคลื่อนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงตลอดห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดอย่างไร ทั้งนี้เพื่อให้สามารถติดตามความก้าวหน้าในเรื่องนี้อย่างมีประสิทธิภาพ " อัญชลี พิพัฒนวัฒนากุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านทะเลและมหาสมุทร กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
กิจกรรมรณรงค์ของกรีนพีซกับแบรนด์ปลาทูน่ากระป๋องของไทยยูเนี่ยนที่กรุงเทพฯในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่เกิดขึ้นในอีกหลายประเทศ อาทิเช่น การรณรงค์ที่สำนักงานจอห์น เวสต์ซึ่งเป็นแบรนด์ปลาทูน่ากระป๋องในประเทศอังกฤษ มาเร บลู ในอิตาลี และชิกเก้นออฟเดอะซีในสหรัฐอเมริกา ที่เกิดขึ้นแล้วเมื่อวานนี้
ผู้บริโภคจำนวนกว่า 250,000 คนจากทั่วโลกร่วมลงชื่อเพื่อผลักดันให้บริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ในฐานะที่เป็นบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋องรายใหญ่ที่สุดในโลก ก้าวออกมาเป็นผู้นำในการสร้างความเป็นธรรมต่อแรงงานและปกป้องมหาสมุทรโลกโดยการขจัดปัญหาการบังคับใช้แรงงาน การละเมิดสิทธิมนุษยชนและวิธีการทำประมงแบบทำลายล้างในห่วงโซ่อุปทานของตนเอง
บริษัทไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋องที่จัดจำหน่ายในทั่วโลก อาทิเช่น ซีเล็คทูน่าและโอเชียนเวฟในประเทศไทย ชิกเก้นออฟเดอะซีในสหรัฐอเมริกา และจอห์นเวสต์ในสหราชอาณาจักร
"ผู้นำระดับสูงของไทยยูเนี่ยนไม่สามารถเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องของผู้บริโภคจากทั่วโลกที่ต้องการให้ไทยยูเนี่ยนสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ เราต้องการการลงมือทำอย่างจริงจังแทนที่จะเป็นเพียงใบแถลงการณ์และคำประกาศ" อัญชลี กล่าวสรุป
กรีนพีซได้เปิดตัวงานรณรงค์เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้ไทยยูเนี่ยนดำเนินขั้นตอนที่เร่งด่วนและครอบคลุมเพื่อขจัดปัญหาการบังคับใช้แรงงาน และวิธีการทำประมงแบบทำลายล้างและสิ้นเปลืองจากห่วงโซ่อุปทาน สามารถติดตามงานรณรงค์ ได้ที่www.greenpeace.or.th/oceans
ข้อเรียกร้องของกรีนพีซต่อบริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
1. ให้คำมั่นสัญญาที่จะจัดหาปลาทูน่าที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่มีที่มาจากการบังคับใช้แรงงงาน การละเมิดสิทธิมนุษยชน และสามารถให้หน่วยงานที่สามสามารถเข้าตรวจสอบได้
2. ให้คำมั่นสัญญาในการยกเลิกการขนถ่ายปลาทูน่าและสินค้าสัตว์น้ำกลางทะเล
3. หยุดการใช้ปลาทูน่าและสินค้าสัตว์น้ำที่ได้มาจากการทำประมงแบบทำลายล้างและการใช้เบ็ดราวซึ่งทำให้สัตว์น้ำพลอยได้ เช่น ฉลามซึ่งเป็นสัตว์น้ำประจำถิ่นที่มีความเสี่ยงสูงในการถูกจับติดมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
4. หยุดการทำประมงปลาทูน่าที่ใช้อวนล้อมร่วมกับเครื่องมือล่อปลา(FADs)
หมายเหตุ
(1) บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงซีเล็คทูน่าและโอเชียนเวฟในไทย ชิกเก้นออฟเดอะซีในสหรัฐอเมริกา และจอห์นเวสต์ในสหราชอาณาจักร
(2) กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดอันดับความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ทูน่ากระป๋องในไทย พบว่า แบรนด์ซีเล็คทูน่าและโอเชียนเวฟยังไม่ผ่านเกณฑ์ด้านความยั่งยืนและความเป็นธรรม สามารถดูรายงานได้ที่http://www.greenpeace.org/seasia/th/campaigns/Ocean/Thailand-canned-tuna-ranking/
(3) เอกสารข้อเรียกร้องถึงไทยยูเนี่ยน ฉบับเต็ม สามารถดูได้ที่ www.greenpeace.or.th/oceans/Greenpeace-Tuna-Markets-Asks.pdf
(4) รายงานข่าวเชิงสืบสวนที่เชื่อมโยงไทยยูเนี่ยนกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน การบังคับใช้แรงงาน และการประมงทำลายล้าง ดูที่ :http://bigstory.ap.org/article/b9e0fc7155014ba78e07f1a022d90389/ap-investigation-are-slaves-catching-fish-you-buy
และ 'Sea Slaves': The Human Misery That Feeds Pets and Livestock : http://www.nytimes.com/2015/07/27/world/outlaw-ocean-thailand-fishing-sea-slaves-pets.html?_r=2