กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
'แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้' ในเครือ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดตัวทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) วงเงินไม่เกิน 4,010 ล้านบาท เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 เป็นเวลาประมาณ 25 ปี ชูศักยภาพทำเลที่ตั้งโดดเด่นบนทำเลทองอโศก-สุขุมวิท ในย่านใจกลางเมือง จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS และ MRT รวมถึงศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ การลงทุนและการท่องเที่ยว ช่วยหนุนอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีในช่วงปี 2555 – 2557 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 85
นางสาวกนกวลี วิริยประไพกิจ กรรมการ บริษัท แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล หรือ LHHOTEL ซึ่งนับเป็นทรัสต์กองแรกที่เข้าลงทุนในโรงแรมที่อยู่ในบริเวณใจกลางเมือง จุดเชื่อมต่อขนส่งมวลชนทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT โดยจะเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 เป็นระยะเวลาประมาณ 25 ปี
สำหรับที่ตั้งของโรงแรมอยู่ในทำเลอโศก-สุขุมวิท มีพื้นที่ติดกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ซึ่งอยู่บนทำเลช้อปปิ้งสตรีทของกรุงเทพฯ โดยมีร้านอาหาร แฟชั่น โรงภาพยนตร์และซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำมากกว่า 500 ร้านค้าและยังเป็นจุดเชื่อมภาคธุรกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว บันเทิงและไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบ ส่งผลให้โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ได้รับความสนใจเข้าพักจากกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ และสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีมาตลอด
ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพทำเลที่ตั้งของโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ทำให้มีอัตราการเข้าพักและรายได้ค่าห้องพักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวของไทยที่มีอัตราการขยายตัวที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากฝั่งเอเชีย ทั้งญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี ฯลฯ ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของโรงแรมได้เดินทางมาท่องเที่ยวในไทยอย่างต่อเนื่อง
นางจันทนา กาญจนาคม กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า ทรัสต์ LHHOTEL อยู่ระหว่างการพิจารณาขออนุญาตออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. โดย LHHOTEL นี้นับเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่สนใจเข้าลงทุนในทรัพย์สินประเภทโรงแรมที่ทันสมัยในทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งแวดล้อมด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอ ศูนย์การค้าชั้นนำและจุดเชื่อมต่อของระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าและรถไฟฟ้าใต้ดิน ส่งผลดีต่ออัตราการเข้าพักและรายได้ค่าห้องพักมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก
ทั้งนี้ บริษัท แอล แอนด์ เอช โฮเทล แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้เช่าช่วงของโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ยังได้ทำข้อตกลงกับกองทรัสต์ในการชำระค่าเช่า ซึ่งแบ่งเป็นค่าเช่าแบบคงที่ในอัตรารวมปีละ 240 ล้านบาท โดยแบ่งชำระเป็นรายไตรมาส เป็นเวลา 3 ปีนับตั้งแต่วันที่เริ่มต้นเช่าช่วง บวกกับการชำระค่าเช่าแบบแปรผันทุกไตรมาสตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาเช่าช่วงให้กับกองทรัสต์อีกด้วย
กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า โรงแรม แกรนด์เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 เปิดให้บริการมากว่า 3 ปี นับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นมา โดยเป็นอาคารสูง 28ชั้นและชั้นใต้ดิน 2 ชั้น มีพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 47,298 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เปิดให้บริการโรงแรมมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นมาโดยตลอด มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีในช่วงปี 2555-2557 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 85 และมีอัตราค่าเช่าห้องพักในปี 2555-2557 รวมถึงในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เติบโตเฉลี่ยปีละประมาณร้อยละ 13
นางสาววรดา ตั้งสืบกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวเพิ่มเติมว่า โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 นับเป็นทรัพย์สินที่เป็นความภาคภูมิใจของกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ด้วยจุดเด่นในด้านศักยภาพทำเลที่อยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ การค้าและแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันทรัพย์สินยังอยู่ในสภาพใหม่และมีการดูแลบำรุงรักษาที่ดีช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน จึงมั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนจากรายได้ที่เติบโตสม่ำเสมอเมื่อเทียบกับโรงแรมระดับเดียวกันที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ สำหรับวงเงินลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) มีจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน4,010 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินไม่เกิน 800 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นของเจ้าของทรัพย์สินหรือบริษัทในเครือเดียวกันกับผู้ถือหุ้นของเจ้าของทรัพย์สินประมาณร้อยละ 15 และอีกประมาณร้อยละ 85 จะจัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไป
คำเตือน
-การโฆษณานี้มิใช่การเสนอขายหลักทรัพย์ การเสนอขายหลักทรัพย์จะกระทำได้เมื่อสำนักงาน ก.ล.ต. อนุญาตให้เสนอขาย
หน่วยทรัสต์ และหนังสือชี้ชวนมีผลบังคับใช้
-ผลการดำเนินงานในอดีตของโครงการ ไม่สามารถยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคตได้
-ทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
-โปรดศึกษารายละเอียดความเสี่ยงเพิ่มเติมจากหนังสือชี้ชวน