กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--IR network
บมจ.สยามราช หรือ SR เคาะขายไอพีโอหุ้นละ 3.50 บาท ชูส่วนลด 57.23% เมื่อเทียบกับ P/E ย้อนหลังของบริษัทจดทะเบียนที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกับ SR ที่ 35.18 เท่า เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 4 - 6 พ.ย. ก่อนลงสนามเทรด ในกลุ่มทรัพยากร วันที่ 11 พ.ย.นี้ แต่งตั้ง บล. อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เป็นแกนนำจัดจำหน่ายหุ้น พร้อม 4 โบรกเกอร์ชั้นนำ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย), บล.เคที ซีมิโก้, บล. ฟินันเซีย ไซรัส , บล. โนมูระ พัฒนสิน ร่วมจัดจำหน่าย "รัฐชัย ธีระธนาวัฒน์" มั่นใจกระแสตอบรับจากนักลงทุนดีเยี่ยม จากปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และแนวโน้มอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง ด้านบอสใหญ่ "เกียรติ วิมลเฉลา" เตรียมนำเงินที่ได้ไปเป็นเงินทุนสนับสนุนโครงการและเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ รองรับการรับงานโครงการใหม่ในอนาคต โชว์จุดแข็งเพียบ! ปัจจัยพื้นฐานแน่นปึ๊ก ครึ่งแรกปี"58 กำไรสุทธิ 79.12 ล้านบาท
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของบริษัท สยามราช จำกัด (มหาชน) (SR) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท ระหว่างวันที่ 4 – 6 พฤศจิกายน นี้ และคาดว่า SR จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 โดยใช้ชื่อย่อ "SR" ซึ่งการเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ มีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ,บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ราคาไอพีโอที่ 3.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน โดยมีค่าอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ P/E ratio อยู่ที่ 15.05 เท่า โดยมีส่วนลดประมาณ 57.23% จาก P/E Ratio ของบริษัทจดทะเบียนที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกับ SR ซึ่งเท่ากับ 35.18 เท่า ซึ่งเป็น P/E Ratio เฉลี่ยในช่วงเวลา 3 เดือน ย้อนหลัง
"SR ถือเป็นบริษัทอันดับต้นๆ ของประเทศในงานทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ อาทิ การให้บริการงานวิศวกรรมก่อสร้างสถานีวัดและระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (MPT) ธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) และธุรกิจออกแบบและจำหน่ายระบบปั๊มอุตสาหกรรมและระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้า (EPS) นอกจากนี้ยังมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง อีกทั้งเพียบพร้อมด้วยทีมงานผู้บริหารและบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญพิเศษมากกว่า 30 ปี รวมถึงผลงานที่ผ่านมายังการันตีความสามารถของบริษัทได้เป็นอย่างนี้ ประกอบกับมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในหลากหลายอุตสาหกรรม ที่สำคัญต่อทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศอีกด้วย เราจึงเชื่อมั่นว่าหุ้น SR จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างอบอุ่น และจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนด้วย" นายรัฐชัย กล่าวในที่สุด
นายเกียรติ วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราช จำกัด (มหาชน) (SR) กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนสนับสนุนโครงการและเงินทุนหมุนเวียนในกิจการเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ เนื่องจากแนวโน้มการใช้ก๊าซธรรมชาติในอนาคตมีเพิ่มมากขึ้นทั้งจากแผนการขยายโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติสายหลักและแผนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติของประเทศไทย จึงเป็นโอกาสที่สำคัญทางธุรกิจของบริษัทในการเติบโตในอนาคต ดังนั้น เรามั่นใจว่าในอนาคต SR จะสามารถขยายตัวต่อไปได้อีกมากจากเงินทุนหมุนเวียนที่มีมากขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราช กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้เพิ่มการเป็นตัวแทนจำหน่ายปั๊มอุตสาหกรรมแบรนด์ ITT Goulds Pumps บริษัทผู้ผลิตชั้นนำของโลก ซึ่งเป็นปั๊มประเภท Process Centrifugal Pump ที่มีการใช้งานอย่างกว้างขวางในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่าจะเป็นสินค้าที่ได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และผลักดันให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทมีรายได้รวม 943.61 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 79.12 ล้านบาท และปัจจุบัน SR มีทุนจดทะเบียนจำนวน 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 225 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 450 ล้านหุ้น และภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรกจำนวน 150 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 25% ของทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วจำนวน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 600 ล้านหุ้น