กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--เซ็นทรัลเพาเวอร์เซ็นเตอร์
Central Power Center เซ็นทรัลเพาเวอร์เซ็นเตอร์ หัวหมาก One stop shopping center รูปแบบใหม่แห่งแรกของเมืองไทย
นายลิขิต ฟ้าปโยชนม์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารเซ็นทรัลเพาเวอร์เซ็นเตอร์ สาขาหัวหมาก เปิดเผยว่า "เพาเวอร์เซ็นเตอร์ เป็นศูนย์รวมของธุรกิจค้าปลีกที่มีองค์ประกอบของธุรกิจขนาดใหญ่มาอยู่ด้วย เช่นเดียวกับรูปแบบเพาเวอร์เซ็นเตอร์ในต่างประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จ และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก สำหรับเซ็นทรัลเพาเวอร์เซ็นเตอร์ หัวหมาก เราได้จัดให้มีองค์ประกอบของธุรกิจ 6 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกแคธิกรี คิลเลอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่จำหน่ายสินค้าเฉพาะอย่างขนาดใหญ่อย่าง Power Buy, Supersports, Homeworks, และ B2S กลุ่มที่สองสเปเชียลตี้ สโตร์ อย่าง Watsons และ Just 25 (ร้านจำหน่ายสินค้าราคา 25 บาททั้งร้าน) กลุ่มที่สามซูเปอร์เซ็นเตอร์อย่างบิ๊กซี กลุ่มที่สี่ ประกอบด้วย ร้านค้าย่อยต่างๆ กว่า 150 ร้าน จำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์ตกแต่งไอที ในรูปแบบของเพาเวอร์ไอที และสินค้าอื่นๆ กลุ่มที่ห้าภัตตาคารและร้านอาหาร ประกอบด้วยภัตตาคารขนาดใหญ่และร้านอาหารประเภทต่างๆ และ Power food court ด้วยองค์ประกอบของธุรกิจหลักเหล่านี้จะทำให้เพาเวอร์เซ็นเตอร์เป็นสถานที่ที่สะดวกสบายในการจับจ่ายสินค้าของผู้บริโภคในขณะเดียวกันก็ให้ความคุ้มค้าในเรื่องราคา"
"รูปแบบของเพาเวอร์เซ็นเตอร์นอกจากสาขาแรกที่หัวหมากแล้ว เรามีโครงการที่สาขาแฟชั่นไอร์แลนด์ ด้วยซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการตกแต่ง และเรามีความมั่นใจว่าคอนเซ็ปต์ของเพาเวอร์เซ็นเตอร์นี้จะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในย่านต่างๆ ดังนั้นในอนาคตคอนเซ็ปต์ของเพาเวอร์เซ็นเตอร์อาจจะดำเนินการในรูปแบบความร่วมมือทางธุรกิจกับเจ้าของธุรกิจค้าปลีกรายอื่นๆ หรือเจ้าของคอมเพล็กซ์ในย่านต่างๆ" นายลิขิต กล่าวเสริม
สำหรับการออกแบบและตกแต่งโครงการบริษัทฯ ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบทั้งสถาปัตยกรรมภายนอกและการออกแบบตกแต่งภายใน ซึ่งการปรับปรุงรูปโฉมภายนอกนั้น คำนึงถึงองค์ประกอบร้านค้าหลักของโครงการให้มีความชัดเจนและมีเอกลักษณ์ สีสันสดใส ส่วนการตกแต่งภายในจะเป็นการผสมผสานระหว่างธรรมชาติ (Nature) และความทันสมัย (Fashionable) เน้นความกว้าง สว่าง การใช้สีสันสดใส และการออกแบบโครงสร้างร้านค้าขนาดเล็กให้มีความโปร่ง สำหรับการวางผังนั้นคำนึงถึงมุมมอง และการจัดวางของกลุ่มร้านค้าให้มีความต่อเนื่องรวมถึงการกำหนดพื้นที่ส่วนกลางที่ดึงดูดความสนใจ เพื่อเน้นให้เป็นศูนย์รวมและแหล่งพบปะสังสรรค์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยรุ่น นักศึกษา สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเซ็นทรัลเพาเวอร์เซ็นเตอร์มุ่งเน้นในรัศมี 3 กิโลเมตร ประกอบด้วยครอบครัว ซึ่งอาศัยในหมู่บ้านต่างๆ จำนวนมาก คนทำงาน นักเรียน นักศึกษา รวมกว่า 7 แสนคน ซึ่งมีกำลังซื้อในระดับ C+ ถึง B และมีไลฟ์สไตล์ทันสมัย เลือกจับจ่ายของดี และราคาถูก ซึ่งในพื้นที่ของเซ็นทรัล เพาเวอร์เซ็นเตอร์แห่งนี้มีทั้งหมด 8 ชั้น รวมพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยหน่วยธุรกิจต่างๆ ดังนี้
ชั้น G และชั้น 1 (U-POINT) พื้นที่ 3,800 ตารางเมตร และพื้นที่ food & take home 1,000 ตารางเมตร
ชั้น 2-4 Big C พื้นที่รวม 16,000 ตารางเมตร
ชั้น 5 HOMEWORKS พื้นที่ 4,500 ตารางเมตร
ชั้น 6 POWER BUY พื้นที่ 880 ตารางเมตร
SUPERSPORTS MX พื้นที่ 1,200 ตารางเมตร
B2S พื้นที่ 1,400 ตารางเมตร
ชั้น 7 พื้นที่ 2,800 ตารางเมตร
และพื้นที่จอดรถยนต์จำนวนกว่า 1,000 คัน
ด้วยความเชี่ยวชาญของทีมงานที่บริหารเซ็นทรัล เพาเวอร์เซ็นเตอร์และด้วยศักยภาพของหน่วยธุรกิจ ต่างๆที่มาตั้งรวมอยู่ในเพาเวอร์เซ็นเตอร์นี้ ทำให้เรามีความมั่นใจว่าเซ็นทรัล เพาเวอร์ เซ็นเตอร์ จะเป็นศูนย์การค้า "One Stop Shopping" รูปแบบใหม่แห่งแรกในเมืองไทยที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี--จบ--
-นห-