กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า วธ.ได้ดำเนินโครงการวัฒนธรรมสัญจรสำหรับคณะทูตานุทูต เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งมรดกวัฒนธรรมและศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงเพื่อนำชมแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมและแหล่งที่มีศักยภาพจะเสนอชื่อขึ้นบัญชีแหล่งมรดกโลกในอนาคตให้เป็นที่รับรู้ในสังคมโลก ซึ่ง วธ.ได้ดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่องรวม 8 ครั้ง ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ที่แหล่งมรดกโลกสุโขทัย ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เมื่อปี 2551และปี 2552 ครั้งที่ 3 ที่แหล่งโบราณคดีบ้านเชียงและอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี เมื่อปี 2553 ครั้งที่ 4 เส้นทางวัฒนธรรมปราสาทพิมาย ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และแหล่งมรดกโลกเขาใหญ่ จ.นครราชสีมาและจ.บุรีรัมย์ เมื่อปี 2554 ครั้งที่ 5 นครประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อปี 2555 ครั้งที่ 6 จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2556 ครั้งที่ 7 ที่จ.น่าน เมื่อปี 2557 และครั้งที่ 8 ที่ จ.อุดรธานีและนครหลวงเวียงจันทร์ ต้นปี 2558 ที่ผ่านมาซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เพราะมีคณะทูตานุทูตเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นทุกปี
รมว.วธ. กล่าวอีกว่า โครงการวัฒนธรรมสัญจรสำหรับคณะทูตานุทูตครั้งที่ 9 วธ.นำคณะทูตานุทูตสัญจร ที่ จ.สระแก้ว และ จ.บันเตียเมียนเจย กัมพูชา วันที่ 6-8 พฤศจิกายน โดยมีคณะทูตานุทูตเข้าร่วมกิจกรรม 20 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา เบลเยี่ยม กัมพูชา ชิลี เช็ก เฮลเลนิก (กรีซ) อินโดนีเซีย อิสราเอล คูเวต ลาว ลิเบีย โอมาน ปานามา สเปน ศรีลังกา สวิส ติมอร์-เลสเต อินเดีย บังคลาเทศและเวียดนาม ทั้งนี้แหล่งโบราณคดีและแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ที่จัดกิจกรรมสัญจรของ จ.สระแก้วมีพื้นที่ชายแดนที่ติดต่อกับ จ.บันเตียนเมียนเจย ทำให้มีแหล่งมรดกวัฒนธรรมร่วมสมัยกัน อาทิ ปราสาทบันทายฉมาร์ และปราสาทบันทายทัพ แสดงถึงความสัมพันธ์มาอย่างยาวนานระหว่างสองประเทศ อีกทั้งยังมีปราสาทสด๊กก๊อกธม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ จึงเป็นโอกาส อันดีที่จะเผยแพร่แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมแก่คณะทูตานุทูตและสื่อมวลชน รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศและแสดงถึงการบูรณาการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งจะทำให้เกิดการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในด้านความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ระดับภูมิภาคร่วมกัน ซึ่งนำไปสู่ความร่วมมือและการสนับสนุนงานด้านต่างๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตามการนำคณะทูตานุทูตสัญจร เยี่ยมชมแหล่งมรดกวัฒนธรรมครั้งนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนด้วย และยังมีกิจกรรมอื่นๆที่น่าสนใจ อาทิ เยี่ยมชมโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ โครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้การดูแลของมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นศูนย์อนุรักษ์และพัฒนากระบือไทยควบคู่กับการพัฒนาด้านการเกษตรที่เหมาะสมกับประชาชน และเยี่ยมชมแหล่งหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงบ้านหันทราย อ.อรัญประเทศ ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้จะทำให้คณะทูตานุทูตที่เข้าร่วมโครงการเล็งเห็นถึงคุณค่าความสำคัญของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม แหล่งศิลปหัตถกรรม วิถีชีวิตและภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทย รวมทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การบริหารจัดการแหล่งมรดกวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนด้วย