กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--IR network
ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC) ขายไอพีโอ 168 ล้านหุ้น คาดเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในเดือนธ.ค.58 นี้ "ชัชชวี วัฒนสุข"ระบุนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตร ลงทุนตู้กดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ชูจุดเด่นเป็นหุ้นที่มีอนาคต ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง มีทีมงานวิจัยและพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญ คิดค้นโปรดักท์ใหม่โดนใจผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ"
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณานับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2558 ที่ผ่านมา โดย TACC มีแผนที่จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 168 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท แบ่งเป็นเสนอขายต่อประชาชนจำนวน 159 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ จำนวน 9 ล้านหุ้น โดยเตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้ลงทุนในโครงการเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
"TACC ถือเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจเครื่องดื่มมานานกว่า 20 ปี ทำให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจและสภาพตลาดเครื่องดื่มทั้งในประเทศและประเทศในแถบ อินโดไชน่าเป็นอย่างดี จนทำให้ปัจจุบัน TACC เป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มในโถกดที่จำหน่ายใน 7-Eleven รวมถึงเป็นผู้นำในตลาดชาเขียวของประเทศกัมพูชา
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับทีมงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างมาก ทำให้สามารถ คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ให้กับลูกค้าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของบริษัทอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญการที่ TACC เป็นพันธมิตรกับ 7-Eleven ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการค้าปลีกที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ถือเป็นช่องทางที่สำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภค จะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต" นายสมภพกล่าวในที่สุด
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) กล่าวว่า เตรียมนำเงินที่ได้จาก IPO ไปลงทุนในโครงการเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ (vending Machine) ร่วมกับพันธมิตรทางการค้า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการบริโภคที่เติบโตขึ้นในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ โดยวางเป้าหมายติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติแบบร้อนให้ได้ประมาณ 1,500 เครื่อง ภายในปี 2560 ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน โดยใช้จุดแข็งของผลไม้ไทยที่มีความอร่อยเป็นที่ชื่นชอบของชาวจีน มาพัฒนาเป็นเครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผง ตรา "สวัสดี" ที่มีส่วนผสมของชิ้นเนื้อผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นนมทุเรียนผสมเนื้อทุเรียน หรือนมมะม่วงผสมเนื้อมะม่วง ซึ่งปัจจุบัน เราได้เริ่มจำหน่ายเครื่องดื่มสวัสดีผ่านช่องทางออนไลน์เข้าไปในประเทศจีนแล้ว TACC เป็นผู้ดำเนินธุรกิจจัดหา ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟ ที่เน้นความเป็นเอกลักษณ์และแตกต่าง โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ได้แก่ เครื่องดื่มในโถกดที่ร่วมพัฒนากับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) เพื่อวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ "7-Eleven" ที่มีสาขากระจายทั่วประเทศ มากกว่า 8,000 สาขา เช่น กาแฟเย็น ซึ่งเป็นตราสินค้าของ 7-Eleven และชานม ภายใต้ตราสินค้า"เชนย่า" (Zenya) ซึ่งเป็นตราสินค้าของบริษัทฯ อีกทั้งยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตามฤดูกาล เช่น กาแฟลาเต้ ชากลิ่นจับเลี้ยง ชาเขียวมัทฉะ ชาเขียวนมกลิ่นแคนตาลูป โอเลี้ยง และกาแฟสูตรเย็นเจ ให้กับ 7-Eleven อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดช่วงกลางปี 2557 ได้มีการพัฒนาเครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผงพร้อมชง เพื่อจำหน่ายให้กับร้าน All Cafe' ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มชงสดที่ตั้งอยู่ในร้าน 7-Eleven ที่ได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง ได้แก่ ชาเขียวพร้อมดื่ม ตรา "เชนย่า",กาแฟปรุงสำเร็จ ตรา "วีสลิม" , เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผง ตรา "ชาช่า", "ตรา ณ อรุณ" และตรา"สวัสดี" ซึ่งจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับผลการดำเนินงานใน 6 เดือนแรกของปี 2558 มีรายได้รวม 498 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 38.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 69.05 ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2557 มีรายได้รวม 1,007.20 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51.84 ล้านบาท โดยบริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) ร้อยละ 93.39 ในปี 2557 และร้อยละ 75.52 ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2558