กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--IR PLUS
บมจ. ธนพิริยะ หรือ TNP เคาะราคาขายหุ้น IPO ที่ 1.75 บาท/หุ้น ได้เม็ดเงินระดมทุนรวม 350 ล้านบาท เงินที่ได้จากการระดมทุนนำไปใช้เป็นเงินทุนก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ ใช้ขยายสาขาเพิ่ม และชำระคืนเงินกู้บางส่วน ส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน "รัฐชัย ธีระธนาวัฒน์" บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาฯ และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เผยการกำหนดราคาที่ 1.75 บาท คิดเป็น P/E ที่ 21 เท่า มีส่วนลดให้นักลงทุนประมาณ 30% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาเหมาะสมที่บทวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ ช่วงราคา 2.20 – 2.50 บาท ซึ่งคิดเป็น P/E เฉลี่ยที่ 28 เท่า ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงเทรดอยู่ที่ P/E เฉลี่ย 32 เท่า เตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อระหว่าง 11-13 พ.ย. นี้ ผ่าน บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) และผู้ร่วมจัดจำหน่ายอีก 4 บริษัทหลักทรัพย์ เชื่อได้รับความสนใจจากนักลงทุนล้นหลาม คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาด เอ็ม เอ ไอ 18 พ.ย.นี้
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ RHBS ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP กล่าวว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกที่ 1.75 บาทต่อหุ้น โดยเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้น เพิ่มทุนในครั้งนี้ คิดเป็นเงินระดมทุนจำนวน 350 ล้านบาท
โดยเสนอขายแก่บุคคลทั่วไปประมาณ 80% และจัดสรรให้ผู้มีอุปการะคุณของบริษัทประมาณ 20% กำหนดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2558 โดยมีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเข้าร่วมอีก 4 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด, บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาด เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2558 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "TNP"
"การกำหนดราคาไอพีโอของ TNP ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีความน่าสนใจ อย่างมาก และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยกำหนดราคา IPO อยู่ที่ 1.75 บาท คิดเป็น P/E ที่ 21 เท่า มีส่วนลดประมาณ 30% เปรียบเทียบกับราคาเหมาะสมที่บทวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ ช่วงราคา 2.20 – 2.50 บาท ซึ่งคิดเป็น P/E เฉลี่ยที่ 28 เท่า ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงเทรดอยู่ที่ P/E เฉลี่ย 32 เท่า อย่างไรก็ตาม เรามั่นใจว่า ด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำในธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ในเชียงรายที่มีจำนวนสาขามากถึง 12 สาขา และมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่ง จึงทำให้เชื่อมั่นว่า TNP จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้ในระยะยาว" นายรัฐชัย กล่าว
ด้านนายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP กล่าวว่า เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ราว 350 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นเงินทุนก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่จำนวน 200 ล้านบาท , นำไปใช้ขยายสาขาเพิ่มจำนวน 45 ล้านบาท , นำไปชำระคืนเงินกู้ 70 ล้านบาท และส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยเงินกู้ยืมส่วนใหญ่ของบริษัทฯ เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น ซึ่งภายหลังการชำระคืนหนี้บางส่วนจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระ ดอกเบี้ยต่อทุนต่ำกว่า 0.5 เท่า ซึ่งเป็นตัวเลข ณ 30 มิถุนายน 2558
ทั้งนี้ ในปี 2559 บริษัทฯ จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 3 สาขา และตั้งเป้าหมายมีสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเน้นพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง โดยศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่จะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 8,000 – 10,000 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2559หากก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ และสามารถรองรับการขยายสาขาได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
"ธนพิริยะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่มีศักยภาพสูง และคาดว่าจะได้รับการต้อนรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นธุรกิจเข้าใจง่ายและเข้าถึงคนในทุกระดับ อีกทั้ง ธุรกิจดังกล่าวมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกท้องถิ่นในจังหวัดเชียงราย และบริษัทฯ จะได้รับประโยชน์เต็มๆ จากการเปิด AEC เพราะจังหวัดเชียงรายเชื่อมต่อได้ถึง 3 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา ลาว และจีนตอนใต้ ซึ่งต้องมีการขยายธุรกิจรองรับการเติบโตในอนาคต" นายธวัชชัย กล่าว
ด้านเภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP กล่าวว่า หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ธนพิริยะฯ มีเป้าหมายที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในจังหวัดเชียงรายเป็นหลัก เพื่อสร้างฐานลูกค้าและแบรนด์ของ "ธนพิริยะ" ให้แข็งแกร่ง ก่อนที่จะขยายวงกว้างไปสู่อำเภอรอบนอกและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์ทางธุรกิจที่สำคัญจากการ เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในช่วงต่อจากนี้ จะเป็นส่วนผลักดันการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายให้เติบโตมากยิ่งขึ้น รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของการค้าตามแนวเขตชายแดน ซึ่งน่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย เติบโตตามลำดับ
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขับเคลื่อนของการเปิดสาขาใน อนาคต และการบริหารจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพ โดยรายได้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2555 – 2557) บริษัทฯ มีการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 12.9 และเชื่อมั่นว่า ในปีนี้ บริษัทฯ จะมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องอีก
สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 633.6 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 14.8 ล้านบาท ส่วนปี 2557 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,201.7 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 45.4 ล้านบาท