กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--New Wave Marketing Network
สถาบันอุดมศึกษาทางด้านศิลปศาสตร์แห่งแรกของสิงคโปร์เลือก เรดแฮทและเดล สำหรับการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใช้ซอฟต์แวร์กำหนดบนเทคโนโลยี โอเพ่นสแตก (OpenStack-based Software-defined Datacenter)
วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอส (Yale-NUS College) ใช้โซลูชั่นโอเพ่นสแตกระดับองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากการร่วมมือกันทางวิศวกรรมระหว่างเรดแฮทและเดลเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบคลาวด์แบบผสม (hybrid cloud) ของวิทยาลัยทำให้ลดเวลาในการดำเนินการปรับใช้งานแอพพลิเคชั่น (application deployment) ลงถึง 80 เปอร์เซ็นต์
เรดแฮท อิงค์ (NYSE: RHT) ผู้นำทางด้านโซลูชั่นโอเพ่นซอร์สของโลก และเดลแถลงข่าวร่วมกันว่า วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสสถาบันอุดมศึกษาทางด้านศิลปศาสตร์แห่งแรกของสิงคโปร์ ได้สร้างระบบคลาวด์แบบผสมขึ้นนับเป็นหนึ่งในแห่งแรก ๆ ของภูมิภาคนี้ โดยวางรากฐานอยู่บนโซลูชั่นของเรดแฮทและเดล โดยใช้ Red Hat Cloud Infrastructure ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วนในการช่วยเหลือองค์กรต่าง ๆ ทำการเปลี่ยนแปลงจากระบบดาต้าเซ็นเตอร์เสมือนแบบเก่า (traditional datacenter virtualization) มาเป็นระบบคลาวด์บนโอเพ่นสแตก (OpenStack-powered cloud ) โดยทำงานอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ของเดลรุ่น PowerEdge และอุปกรณ์เครือข่ายของเดล วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอส สร้างแพลตฟอร์มระบบคลาวด์แบบผสมนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยให้นักวิจัย นักศึกษา และบุคลากรสามารถเข้าถึงบริการทางด้านไอทีได้โดยอัตโนมัติและทำการบริการด้วยตนเองได้ และต้องการ.ในการขอใช้เซริฟเวอร์ระบบที่นำมาพัฒนาใช้ (deployment) ได้อย่างรวดเร็ว
วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2554 (ค.ศ. 2011) โดยเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเยลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาและมหาวิทยาลัยแห่งชาติของสิงคโปร์ (National University of Singapore –NUS) เพื่อที่จะสร้างรูปแบบใหม่ทางการศึกษาศิลปศาสตร์ขึ้นในภูมิภาคเอเชีย ทางวิทยาลัยได้ตั้ง IT Infrastructure and Services team ขึ้นมาดูแลโครงสร้างพื้นฐานของระบบไอที เพื่อที่จะให้ระบบไอทีสามารถสนับสนุนจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของนักวิจัย นักศึกษาและบุคลากรของวิทยาลัยได้โดยใช้ทรัพยากรบุคลากรด้านไอทีที่มีอยู่จำนวนจำกัดเท่าเดิม วิทยาลัยสร้างคลาวด์ส่วนตัว(private cloud) สำหรับเก็บข้อมูลที่จำเป็นต้องเก็บไว้ที่วิทยาลัยด้วยเหตุผลทางกฎหมายและต้องการความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล (latency) นั้น โดยมีการปฏิสัมพันธ์เชื่อมต่อกับบริการของคลาวด์สาธารณะ (public cloud) ที่ค่อนข้างมีต้นทุนค่าใช้จ่ายถูกกว่ามากในขณะเดียวกัน ทางทีมได้เลือกทำโครงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นระบบคลาวด์แบบผสม (hybrid cloud) แทนที่จะใช้แนวคิดแบบเดิม ๆ เหมือนสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ที่แยกระบบไอทีสำหรับสนับสนุนงานวิจัยอออกจากระบบไอทีอื่น ๆ วิทยาลัยกลับเลือกสร้างระบบคลาวด์ขึ้นมาแทนซึ่งทำให้สามารถให้บริการ ๆ ทุกคนในองค์กรในเรื่องต่าง ๆ ทางไอทีโดยใช้ทรัพยากรจำนวนเท่าเดิมที่มีอยู่
วิทยาลับเยล-เอ็นยูเอสต้องการโซลูชั่นที่มีความยืดหยุ่นที่สามารถตอบสนองความต้องการได้หลากหลายในทุก ๆในการขยายได้อย่างรวดเร็วเพื่อรองรับความต้องการทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องการใช้พลังการประมวลผลปริมาณมาก ๆ มาก ๆ ไปจนถึงสภาพเสมือนสำหรับการเรียนการสอนและการบริหารทั่วไปของวิทยาลัย ทีมงานหาทางที่จะสร้างโซลูชั่นแบบคลาวด์ที่สามารถทำงานร่วมกัน (interoperable) และปรับปรุงตามความต้องการใช้งาน (customizable) ได้สูง โดยไม่เพียงตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและความต้องการใช้ปริมาณงาน (workload) ที่ต่างกันในปัจจุบันเท่านั้น แต่ต้องตอบสนองต่อการเจริญเติบโตของสถาบันในอนาคต โดยไม่ต้องใช้งบประมาณลงทุน (capital expenditure) สูง ๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีทีมงานไอทีที่ค่อนข้างเล็ก ทางวิทยาลัยจึงต้องการโซลูชั่นที่สนับสนุนระบบที่ค่อนข้างมีความเป็นอัตโนมัติสูงและมีความมั่นคงในระยะยาว โดยให้มีเวลาการหยุดชงักการทำงาน (downtime) ให้น้อยที่สุด
เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสจึงเลือกสร้างระบบดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใช้ซอฟต์แวร์กำหนด (software-defined datacenter) และเป็นระบบคลาวด์แบบผสมที่วางรากฐานอยู่บนการร่วมมือกันทางวิศวกรรมของเรดแฮทและเดล ในการทำโซลูชั่นคลาวด์แบบโอเพ่นสแตก (Openstack cloud solutions) โดยเลือก Red Hat Enterprise Linux OpenStack Platform ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Red Hat Cloud Infrastructure เป็นรากฐานของระบบคลาวด์ของวิทยาลัย ทำให้ง่ายขึ้นที่จะหาพนักงานไอทีที่มีทักษะความรู้เกี่ยวกับ Linux มาดูแลและง่ายในการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีอื่น ๆ บนโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นแบบเปิดได้ค่อนข้างกว้าง และวิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสเลือกที่จะนำ Red Hat Enterprise Linux มาใช้ทั่วทั้งองค์กรตลอดโครงสร้างพื้นฐานไอทีทั้งหมด เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ทำให้ควบคุมและบริหารจัดการได้ทั้งหมด บนทุก ๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งแบบจริง และเสมือน ( virtualre machine) ทั้งแบบคลาวด์ส่วนตัวและคลาวด์สา-ธารณะ
วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสเลือกเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของเดล รุ่น PowerEdge R720 และ R720XD ซึ่งมีการทดสอบร่วมกันโดยเดลและเรดแฮทแล้วและปรับจูนให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการรองรับ Linux workloads เพื่อสร้างโซลูชั่นที่สามารถปรับขยายได้ง่ายโดยถูกออกแบบมารองรับความต้องการของทางวิทยาลัยได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสยังต้องการระบบเครือข่ายที่สามารถรองรับอนาคตได้ด้วย จึงเลือกอุปกรณ์สวิตช์ของเดลในรุ่น S4810P และรุ่น S55 ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน ทำให้บริหารจัดการระบบง่ายและมีประสิทธิภาพที่สูง
ผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสสามารถลดความซับซ้อนของระบบดาต้าเซ็นเตอร์ลงอย่างสูง จนทำให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีของวิทยาลัยต้องการวิศวกรมาบริหารดูแลระบบเพียง 9 คน โดยเป็นผู้ที่มีความรู้ในเกี่ยวกับ Linux เพียงพอที่จะดูแลการทำงานของระบบคลาวด์แบบผสม ด้วยการใช้ระบบคลาวด์บนโอเพ่นสแตกบนความร่วมมือของเรดแฮทและเดล ทำให้วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสลดเวลาในการดำเนินการปรับใช้งานแอพพลิเคชั่นลงถึง 80 เปอร์เซ็นต์และสร้างความคล่องตัวให้แก่ระบบไอทีของวิทยาลัย ทำให้ในปัจจุบันการเพิ่มหรือโอนย้ายความสามารถในการประมวลผล การเก็บข้อมูล และระบบเครือข่ายสามารถทำได้รวดเร็วตามความต้องการในการใช้งานของผู้ใช้ และระบบแบบผสมนี้ทำให้วิทยาลัยสามารถจะทำงานบางงานบนหน่วยความจำ (in-memory) ได้ ในขณะที่ส่งงานอื่น ๆ ให้ไปทำบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์จริงหรือแบบเสมือนก็ได้ เดิมการติดตั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ใช้เวลาหลาย ๆ วัน ทุกวันนี้ใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง ทำให้ลดงานค้างลงและเพิ่มความยืดหยุ่นของระบบมากขึ้น วิทยาลัยยังสามารถลดงบประมาณที่ใช้ในการลงทุนไปบนระบบโซลูชั่นแบบโอเพ่นสแตกนี้อีกด้วย โดยไม่จำเป็นที่นักศึกษาจะต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่เฉพาะเจาอะจงอีกต่อไป ทำให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงระบบผ่านแล็บท็อปของตนเอง ลดความต้องการเวลาในการใช้คอมพิวเตอร์ในแล็บส่วนกลางลง
เดลและเรดแฮทได้ทำการร่วมมือกันมากว่า 15 ปีในการพัฒนาโซลูชั่นแบบโอเพ่นซอร์สสำหรับองค์กรขนาดใหญ่เพื่อจะเพิ่มความคล่องตัวให้แก่ลูกค้า โดย Red Hat Enterprise Linux OpenStack Platform software และ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เป็นส่วนประกอบของคลาวด์ของเดล ถูกออกแบบ ทำการพัฒนาร่วมกันและทดสอบการเชื่อมต่อเพื่อเร่งเวลาในการสร้างคุณค่าเพิ่มให้ลูกค้า โดยเน้นความสามารถในการทำ open and flexible configurations เพื่อจะให้ลูกค้าสามารถเลือกอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวางโดยไม่ถูกจำกัดอยู่กับผู้ขายรายใดรายหนึ่งตลอดไป โซลูชั่นนี้จะทำให้การสร้างและนำระบบคลาวด์มาใช้ในองค์กรทำได้ง่ายด้วยซอฟต์แวร์ที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว แพลตฟอร์มที่ได้รับการรับรอง การบริการจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพและมีบริการช่วยเหลือสนับสนุนตลอดอายุการใช้งาน OpenStack cloud solutions จากเรดแฮทและเดลจะช่วยเปลี่ยนแปลงบริการทางด้านไอทีขององค์กรให้สามารถก้าวสู่การบริการบนระบบคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว ยืดหยุ่น และขยายตัวได้ตามความต้องการทางธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคตขององค์กร
คำพูดสนับสนุน
Darwin Gosal ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริการไอทีแห่ง Office of Educational Resources & Technology ของวิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอส
"เราต้องการที่จะเป็นเจ้าของความสามารถที่ก้าวหน้าในอนาคตโดยไม่ต้องลงทุนงบประมาณมาก และ Cloud Infrastructure ของเรดแฮท บนโซลูชั่นของเดล ทำให้เราเห็นโซลูชั่นในการต่อเชื่อมระบบคลาวด์สาธารณะเข้ากับระบบคลาวด์ของเราได้อย่างง่ายดายและไม่แพง โดยใช้หลักการออกแบบขั้นพื้นฐานที่ใช้ฮาร์ดแวร์ทรงพลังเข้ากับซอฟต์แวร์ในระบบโอเพ่นซอร์สเพื่อที่จะสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ และเราอยากจะเห็นมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ปรับเอาสถาปัตยกรรมของเราไปใช้ประโยชน์เช่นกัน"
Radhesh Balakrishnan ผู้จัดการทั่วไปแผนก OpenStack ของเรดแฮท
"วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของเราในทุกวันนี้ในเรื่องการคิดใหม่ของลูกค้าเกี่ยวกับระบบดาต้าเซ็นเตอร์ว่าสำหรับยุคใหม่ควรจะเป็นอย่างไร วิทยาลัยไม่ได้ใช้เพียงสภาพแวดล้อมคลาวด์แบบผสมเพื่อตอบสนองความต้องการงานด้านไอทีของบุคลากรในองค์กรที่มีหลากหลายและตอบสนองได้เป็นอย่างดีเท่านั้น แต่ยังคงความสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตลอดทั้งระบบอีกด้วย วิทยาลัยใช้ Red Hat Enterprise Linux เพื่อสร้างระบบพื้นฐานที่ใช้งานได้จริงและคงความสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทั้งระบบจริงและเสมือน ทั้งคลาวด์แบบส่วนตัวและสาธารณะ และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่วิทยาลัยเลือก Cloud Infrastructure ของเรดแฮท บนโซลูชั่นของเดลเพื่อสร้างระบบคลาวด์ที่มีความสามารถในการขยาย (scalable)ได้ค่อนข้างสูงตามความต้องการใช้งาน เรดแฮทและเดลได้ทำการร่วมมือกันในการพัฒนา OpenStack เชิงลึกและเราภาคภูมิใจที่ได้เห็นความสำเร็จของวิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสในการนำมันมาใช้ได้จริง"
Jim Ganthier, VP and GM ของ Engineered Solutions and Cloud ของเดล
"เช่นเดียวกับองค์กรต่าง ๆ ในปัจจุบัน วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสมองหาแนวทางที่จะใช้งบประมาณด้านไอทีของตนให้มีประสิทธิภาพสูงสุดโดยนำคลาวด์โซลูชั่นมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านไอทีของตนทั้งในปัจจุบันและอนาคต OpenStack-based hybrid cloud infrastructure ของเดลและเรดแฮท ทำให้วิทยาลัยมีโซลูชั่นที่มีความยืดหยุ่น มีความเชื่อมโยงทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้สูง และปรับได้ตามความต้องการใช้งาน เพื่อที่จะลดความซับซ้อนของการมีคลาวด์หลาย ๆ ระบบและลดเวลาในการดำเนินการปรับใช้งานแอพพลิเคชั่นลงถึง 80 เปอร์เซ็นต์และใช้งบประมาณได้คุ้มค่าสูงสุด เดลและเรดแฮทมีประวัติการร่วมมือกันที่ยาวนานในการแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการใหม่ ๆ ที่ท้าทายของลูกค้า และเรามีความสุขอย่างยิ่งในการที่วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสสามารถทำได้สำเร็จ"
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
• Read the full Yale-NUS College success story
• Learn more about Red Hat Cloud Infrastructure
• Learn more about OpenStack
• Learn more about Red Hat's collaboration with Dell on OpenStack
• Read more Red Hat customer success stories
เชื่อมต่อกับเรดแฮท
• Learn more about Red Hat
• Get more news in the Red Hat newsroom
• Read the Red Hat blog
• Follow Red Hat on Twitter
• Like Red Hat on Facebook
• Watch Red Hat videos on YouTube
• Join Red Hat on Google+