กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
" จรีพร จารุกรสกุล " นั่งแท่น CEO WHA Group ปรับผังโครงการองค์กรใหม่ ประกาศตั้งเป้านำบริษัทฯ ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการครบวงจร ด้าน Real Sector ในอาเซียน ชูการเป็นผู้นำ 4 HUBS ( LOGISTIC HUB , INDUSTRIAL HUB , UTILITY & POWER HUB และ DIGITAL HUB )พร้อมตั้งเป้า ภายใน 5 ปี บริษัทฯ จะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 10 -20% และใน 10 ปีเพิ่มเป็น 40%
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า หลังจากที่เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัทฯ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการปรับแผนโครงการองค์กรใหม่ ภายในของ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น เพื่อให้สอดรับกับแผนมาตรฐานการธุรกิจ ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำการให้บริการครบวงจรด้านการดำเนินธุรกิจภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ (Real Sector) ซึ่งนั่นก็หมายรวมถึงการปรับโครงสร้าง ของ บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) ด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับวิสัยทัศน์ และพันธกิจ หลักที่จะทำต่อไปหลังจากนี้ คือบริษัทฯ จะยกมาตรฐานการทำธุรกิจ ให้ก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการครบวงจรด้านการดำเนินธุรกิจReal Sector โดยเบื้องต้น บริษัทฯ วางแผนจะเป็นศูนย์กลาง 4 HUBS ประกอบด้วย LOGISTIC HUB , INDUSTRIAL HUB , UTILITY & POWER HUB และ DIGITAL HUB โดยจะเริ่มเห็นความชัดเจนในการเป็นศูนย์กลาง 4 HUBS ตั้งแต่ในปี 2559 เป็นต้นไป
" บริษัทดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ตั้งเป้าหมายจะขยับขึ้นเป็นผู้ให้บริการด้าน Real Sector ในอาเซียน โดยมีกลยุทธ์หลักคือ การเป็นศูนย์กลาง 4 HUBS ภายหลังจากที่บริษัทฯ ทำคำเสนอซื้อ บริษัทเหมราชพัฒนาที่ดิน แล้วเสร็จ และนำบริษัทดังกล่าวออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ก็จะเร่งปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่อีกครั้ง เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการบริหารจัดการ และมุ่งพัฒนาบุคลากร " นางสาวจรีพร กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของ LOGISTIC HUB และ INDUSTRIAL HUB บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจอยู่แล้ว และเมื่อรวมกับ HEMRAJ ก็จะทำให้บริษัทฯ มีสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาทิ ที่ดินรวมทั้งหมด 45,000 ไร่ ซึ่งคิดเป็นที่ดินคงเหลือ (Gross Land Area) กว่า 14,000 ไร่ เทียบเป็นที่ดินที่สามารถขายได้สุทธิ ( Net Land Area) ประมาณ 11,000 ไร่ โดยรองรับการทำธุรกิจนิคมฯได้ 6-7 ปี
นอกจากนี้ ในส่วนของ UTILITY & POWER HUB เมื่อมีการรวมกับ HEMRAJ แล้ว บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการขยายตัวของธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากน้ำและไฟฟ้า เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ผู้ประกอบธุรกิจจำเป็นต้องใช้ จึงได้แยกหน่วยธุรกิจนี้มาจัดตั้งเป็นบริษัทย่อย รวมถึงมีแผนที่จะนำบริษัทย่อยดังกล่าวเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในลำดับต่อไป
และสำหรับ DIGITAL HUB นับเป็นธุรกิจแห่งอนาคตอย่างแท้จริง เนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุน Digital Economy และภาคเอกชนก็เริ่มเห็นถึงประโยชน์จากการใช้ดิจิตอลเป็นเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ คอนเซปต์ของการเป็น DIGITAL HUB นั้น คือการเสริมบริการด้าน Data Center ให้กับลูกค้าคอร์ปอเรท ของบริษัทฯ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจต่ำลง และมีความคล่องตัวในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ 4 HUBS แล้วเสร็จ จะส่งผลให้บริษัทฯ มีศักยภาพความแข็งแกร่ง แล้ว ก็ตรงกับเป้าหมายที่บริษัทฯ จะก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการด้าน Real Sector ในอาเซียน ทั้งนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายว่าภายใน 5 ปี จากนี้ WHA Group จะมีสัดส่วนรายจากต่างประเทศ 10 -20% และใน 10 ปี จะมีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มเป็น 40% ตามลำดับ
นางสาวจรีพร ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นถึงเมกะเทรนด์ของโลก ซึ่งสะท้อนภาพกระแสเงินลงทุนจะมีการขยายสู่เอเชียตะวันออกมากขึ้นจากการเป็นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ซึ่งมีความโดดเด่นเรื่องจำนวนประชากร แนวโน้มการบริโภคของประชากร และการลงทุนของภาคเอกชนในประเทศแถบเอเชียตะวันออก ซึ่งทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนทางธุรกิจเกิดขึ้น และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI)