กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--กทพ.
ตามที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. มีความจำเป็นต้องขอให้ผู้ใช้บริการทางด่วน 3 โครงการ ประกอบด้วย ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ระบบทางด่วนขั้นที่ 1) ทางพิเศษศรีรัช (ระบบทางด่วนขั้นที่ 2) ยกเว้นช่วงอโศก-ศรีนครินทร์ และทางพิเศษฉลองรัช (ทางด่วนสายรามอินทรา — อาจณรงค์) เป็นผู้รับภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ 7 จากค่าผ่านทาง เช่นเดียวกับการใช้บริการสาธารณูปโภคอื่น ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2544 เป็นต้นไป ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ กทพ. เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2544 นั้น เนื่องจากในปัจจุบัน กทพ. เป็นรัฐวิสาหกิจเพียง แห่งเดียว ที่รับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มแทนประชาชน โดยมีค่าใช้จ่ายถึงปีละประมาณ 600 ล้านบาท และปัจจุบัน กทพ. ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องเป็นอย่างมาก จึงไม่สามารถที่จะรับภาระแทนผู้ใช้บริการต่อไปได้ จากการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ของรถแต่ละประเภทจะมีเศษสตางค์ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาในการทอนเงิน และทำให้การจราจรติดขัดหน้าด่าน ดังนั้น เพื่อให้เกิดความสะดวก จึงจะได้ปัดเศษให้เป็นจำนวนเต็ม โดยเศษสตางค์ที่คำนวณได้ หากมีมูลค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 50 สตางค์ จะปัดลง และเศษที่มากกว่า 50 สตางค์ จะปัดขึ้น และจากการปัดเศษดังกล่าวนี้เอง คาดว่า กทพ. อาจจะมีเงินภาษีส่วนที่เกินมาจำนวนหนึ่ง กทพ. จึงมีความประสงค์ที่จะสอบถามความเห็นของผู้ใช้บริการว่าประสงค์จะให้ กทพ. นำเงินดังกล่าวไปดำเนินการเพื่อ สาธารณประโยชน์อย่างไร โดย กทพ. จะแจกแบบสอบถามจำนวน 50,000 ฉบับ ที่ตู้เก็บค่าผ่านทางของทางพิเศษ ทั้ง 3 สายทางดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2544 เป็นต้นไป และขอรับแบบสอบถามคืนที่ด่านเก็บค่าผ่านทาง ทุกแห่งของ กทพ. ภายใน วันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้--จบ--
-สส-