กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ 8/2558 โดยมีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ร่วมการประชุม ซึ่งที่ประชุมฯ ได้รับทราบความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจภาพรวมทั้ง 7 แห่ง และกำชับให้เร่งแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม ประกอบด้วย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (IBANK) สั่งเจรจาพันธมิตรร่วมลงทุน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจ โดยยังให้กระทรวงการคลังยังคงถือหุ้นใน IBANK ต่อไป พร้อมทั้งให้โอนหนี้ด้อยคุณภาพไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ต้องรายงานความคืบหน้าให้ทราบภายในเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เสนอแผนเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่าย รวม 3,000 ล้านบาท เพิ่มมาตรการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมทั้งพิจารณาสัดส่วนพนักงานให้มีความเหมาะสมกับภารกิจและทิศทางขององค์กร พร้อมมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาแก้ไขปัญหาระยะสั้น (Quick Win) ด้านการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้จัดทำแผนการพัฒนาที่ดินที่ไม่ได้ใช้ในการเดินรถ (Non-Core) รายงานให้ คนร.พิจารณาภายในเดือนนี้ นอกจากนี้ได้กำหนดให้ภาคเอกชนร่วมลงทุน และให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง รวมทั้ง AirportLink แทน รฟท. ให้กระทรวงคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการดังกล่าว ด้านองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เร่งรัดให้จัดทำแผนเพิ่มรายได้ และลดค่าใช้จ่ายเสนอ คนร.ภายในเดือนนี้ กำชับให้คณะกรรมการ ขสมก.เร่งหาข้อยุติการจัดซื้อรถโดยสาร NGV จำนวน 489 คัน และทบทวนแผนการจัดซื้อรถโดยสารทั้งประเภทและจำนวนเหมาะสม นอกจากนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง พัฒนาระบบ E-ticket ให้สอดคล้องกับระบบ E-payment เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมีสิทธิ์ใช้บริการตามนโยบายภาครัฐ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย ส่วนบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกำหนดทิศทางการดำเนินงานของทั้งสององค์กรให้สอดคล้องกับนโยบาย Digital Economy เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป โดยจะประเมินผลรัฐวิสาหกิจกิจทั้ง 7 แห่ง แบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะแรก ภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2558 และระยะที่สองภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2559 ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558