ปลัด พม. จับมือ UNICEFเน้นการพัฒนาเด็กและเยาวชน และการคุ้มครองทางสังคมอย่างเป็นระบบเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ข่าวทั่วไป Tuesday November 10, 2015 10:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อวันที่ ๙ พ.ย. ๕๘ เวลา ๑๓.๐๐ น. นายบิจาญา ราชบันดาริ (Mr. Bijaya Rajbhandari) ผู้แทนกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNICEF) ได้เข้าพบเยี่ยมคารวะและหารือกับ นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปพม.) เพื่อแนะนำตัวและแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง และหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานของ UNICEF กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีนางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เข้าร่วมหารือด้วย ณ ห้องรับรอง ชั้น ๘ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สะพานขาว กรุงเทพฯ นายไมตรี กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และยูนิเซฟเห็นพ้องต้องกันว่า ผลกระทบจากโลกาภิวัตน์ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์อย่างรวดเร็ว โลกถูกย่อขนาดให้เล็กลง การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผ่านสื่อทางสังคมในรูปแบบต่างๆ ปัญหาทางสังคมที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเด็กและเยาวชนก็เพิ่มสูงขึ้นและซับซ้อนขึ้นตามลำดับ เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาล ในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เป้าหมายแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ไปพร้อมกับจัดการปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จึงน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มากำหนดแนวทางในการดำเนินงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อนำทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติให้เป็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ยูนิเซฟยินดีจะให้ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน และการคุ้มครองทางสังคมอย่างเป็นระบบ รวมทั้ง กลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ของกระทรวง การพัฒนาสังคมฯ ด้วย โดยมุ่งเน้นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานในพื้นที่ โรงเรียนและชุมชน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนในการให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นอกจากนี้เมื่อสิ้นสุดแผนงานความร่วมมือฉบับปัจจุบัน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะจัดทำแผนงานความร่วมมือระหว่างกันในอนาคตต่อไป "การหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านเด็กของ UNICEF ประจำประเทศไทยครั้งนี้ โดยเฉพาะเรื่องการคุ้มครองและป้องกันเด็กจากความรุนแรงในครอบครัวและการกระทำทารุณกรรมต่อเด็ก เพื่อเตรียมการสำหรับโครงการปี ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ (Country Programme 2017 – 2021) จะเป็นกรอบการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือที่ดีระหว่างหน่วยงานภายใต้สหประชาชาติและรัฐบาลไทยต่อไป" นายไมตรี กล่าวในตอนท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ