กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--สำนักงาน ป.ป.ช.
ในเดือนที่ผ่านมา มีความคืบหน้าเรื่องกล่าวหาร้องเรียน/ความผิดในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในส่วนกลางและต่างจังหวัดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดและได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัย หรือส่งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีทางอาญา หรือเสนอคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อวินิจฉัยแล้วแต่กรณี ดังนี้
ที่ จังหวัด ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
1 ส่วนกลาง 1.นายชาญชัย สิงโตโรจน์ ร่วมกันขายบัตรโดยสาร - นายชาญชัย สิงห์โตโรจน์ นายทองน้อย
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย สำนักงานสาขาลอนดอน ทองเจือ นายพันธุวัฒน์ โกมารกุล ณ นคร และนายชาลี ภมรมนตรีมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
2.นายทองน้อย ทองเจือ ต่ำกว่าราคาที่กำหนด และ ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยแล้ว
ผู้จัดการทั่วไปประจำ ไม่ควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ทำข้อตกลงให้ตัวแทนจำหน่ายขายบัตรในราคาที่ต่ำกว่าราคา
สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ที่กำหนด
3. นายพันธุวัฒน์ โกมารกุล
ณ นคร ผู้จัดการทั่วไปประจำ
สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์
4. นายชาลี ภมรมนตรี
ผู้จัดการทั่วไปประจำสหราช-อาณาจักรและไอร์แลนด์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
2 ส่วนกลาง พันตำรวจโท กษิดิศ อินทร์เนียม เบียดบังเงินประกันตัวผู้ต้องหา, อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 และเครื่องวิทยุติดตามตัวไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่น พันตำรวจโท กษิดิศ อินทร์เนียม มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสารวัตรธุรการ สถานีตำรวจนครบาลบางยี่เรือ ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
ที่ จังหวัด ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
๓ ส่วนกลาง ๑.นางสาวสาริศา พิชัยฤกษ์ จัดจ้างปรับปรุงอาคารทรงไทยสำนักงานตลาดสาขาบางคล้า นางสาวสาริศา พิชัยฤกษ์ นายสุเมธ รุจนเสรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกจัดหา/พัสดุ จังหวัดฉะเชิงเทรา ในราคาสูงกว่าความเป็นจริงและมีการสมยอมในการเสนอราคา นายศุภกฤต ศักดิ์สัจจาภิรมย์ และนางวัชรี ธิติมุทามีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
๒.นายสุเมธ รุจนเสรี ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง
นายศุภกฤต ศักดิ์สัจจาภิรมย์ และนางวัชรี ธิติมุทา คณะกรรมการจัดจ้าง ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยแล้ว
โดยวิธีพิเศษ
องค์การตลาด
๔ ปราจีนบุรี นางจีรพร เชยประทุม เบียดบังเงินค่ารักษาพยาบาล นางจีรพร เชยประทุม หรือนางนิชาภา
หรือนางนิชาภา หอมชื่น และค่าจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ หอมชื่น มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑4๗ และมาตรา
เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี การเรียนการสอน ไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่น ๑5๗
เทศบาลเมืองปราจีนบุรี ทั้งนี้ ในส่วนของความผิดทางวินัย ต้นสังกัดได้มีคำสั่งลงโทษไล่ นางจีรพร เชยประทุม หรือนางนิชาภา หอมชื่น ออกจากราชการแล้ว
จังหวัดปราจีนบุรี จึงไม่มีเหตุที่จะต้องส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาลงโทษซ้ำอีก แต่แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบสำหรับความผิดทางอาญาได้ส่งสำนวนการ ไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
๕ ราชบุรี นายสมจิตต์ กุ้ยอ่อน ขอใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ที่ขึ้นบัญชีไว้ โดยระบุชื่อและลำดับที่ของผู้สอบแข่งขันได้ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับ ๓ โดยมิชอบ นายสมจิตต์ กุ้ยอ่อนมีมูลความผิดฐานละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตาม พรบ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.๒๕๓๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๙๒ และมีมูลความผิดทางอาญา
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบต.ดอนใหญ่ อ.บางแพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา1๕7
จ.ราชบุรี ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
๖ พระนครศรีอยุธยา นายสกลไกร ขาวบริสุทธิ์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง
เลขานุการนายก อบต.บ้านคลัง กรณีพ้นตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้
อ.บางบาล นายสกลไกรฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา ห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑
๗ สุพรรณบุรี นายศิรวิชญ์ ภู่วงศ์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่ง เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง
นายก อบต.วังยาว อ.ด่านช้าง ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายศิรวิชญ์ฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา ห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙
๘ ฉะเชิงเทรา นายอิทธิพงษ์ วันทะนะ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง
รองนายก อบต.เมืองเก่า ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้
อ.พนมสารคาม นายอิทธิพงษ์ฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑
๙ พิษณุโลก 1.นายไพโรจน์ ทองปลิว เรียกรับเงินจากผู้กล่าวหา 1.นายไพโรจน์ฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือ
นายกเทศมนตรีตำบลป่าแดง เพื่อตอบแทนการจ่ายเงิน แก่ราชการ แต่นายไพโรจน์ฯ พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ถอดถอนอีก แต่ให้ส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ นอกจากนี้ นายไพโรจน์ฯ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา149 และมาตรา 157
2.นายเจริญชัย ภุมรินทร์ ค่าจ้างก่อสร้างถนนหินคลุก 2.นายเจริญชัยฯ มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา
ปลัดเทศบาลตำบลป่าแดง ซอยนครไทย - ชาติตระการ14 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา149 มาตรา 157 และมาตรา 161
3.นายจีระศักดิ์ 3.นายจีระศักดิ์ เงื่อนจันทร์ทอง และนายสนั่น ธรรมรังศรี มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุน นายไพโรจน์ฯ และนายเจริญชัยฯ กระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 และมาตรา 161 ประกอบมาตรา 86 และ มาตรา 265
เงื่อนจันทร์ทอง กรณีมูลความผิดทางวินัย ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัย และกรณีมูลความผิดทางอาญา ได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
4.นายสนั่น ธรรมรังศรี
ราษฎรที่ได้รับแต่งตั้ง
เป็นกรรมการตรวจการจ้าง
อำเภอชาติตระการ
๑๐ พิษณุโลก นายบุญนาค แสงอ่อน เรียกรับผลประโยชน์จากการกำหนดประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (โบนัส) ประจำปี ๒๕๕๓ นายบุญนาคฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ฯ แต่นายบุญนาคฯ พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ถอดถอนอีก แต่ให้ส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ นอกจากนี้ นายบุญนาคฯ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา149 และมาตรา 157
นายก อบต.โคกสลุด ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด
อ.บางกระทุ่ม เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
๑๑ เชียงใหม่ ๑.นายแพทย์จรูญ จิตติวุฒิการ จัดทำใบเสร็จรับเงินค่าเช่าที่พักของผู้เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องสมุนไพรเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแบบครบวงจร อันเป็นเท็จ ๑.นายแพทย์จรูญฯ และนางสิวลีฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง แต่บุคคล ทั้งสองได้เกษียณอายุราชการและลาออกจากราชการตามลำดับแล้ว ซึ่งตาม พรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๑๐๐ วรรคสอง ระบุว่ากรณีที่ผู้นั้นออกจากราชการไปแล้วและผลการสอบสวนปรากฎว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง ให้งดโทษ จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัยอีก
ผู้อำนวยการศูนย์ฯ มาเบิกจ่ายเงินโดยทุจริต ๒.นางสาวอารีรัตน์ฯ ความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ทั้งนี้
๒.นางสิวลี จารุวรรณ์ ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
พยาบาลวิชาชีพ ๗ วช
๓.นางสาวอารีรัตน์
ชาติวุฒานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ๗ วช
ศูนย์บำบัดรักษายาเสพติด เชียงใหม่ กระทรวงสาธารณสุข
ที่ จังหวัด ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
๑๒ เชียงใหม่ ๑.นายสมคิด แสงติ๊บ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง
รองนายก อบต.บ้านแอ่น ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้
อ.ดอยเต่า นายสมคิดฯ และนายพัฒนาฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙
๒.นายพัฒนา คำปวน
รองนายก อบต.บ้านหลวง
อ.แม่อาย
๑๓ เพชรบูรณ์ นางลักษณาหรืออังคณา รังแก้ว เบิกจ่ายเงินเป็นค่าส่งใช้หนี้เงินกองทุนส่งเสริมกิจการเทศบาล แล้วนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว นางลักษณาหรืออังคณาฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง แต่ต้นสังกัดได้ลงโทษไล่ออกนางลักษณาหรืออังคณาฯ ซึ่งเหมาะสมแก่กรณีแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ลงโทษซ้ำอีก
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง แต่ให้แจ้งผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นอกจากนี้ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๔๗ และมาตรา ๑๕๗ และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ๔ เทศบาลตำบลวิเชียรบุรี
๑๔ อุทัยธานี ๑.นายสุนทร พิมพาพร จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง
รองนายก อบต.ระบำ ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้
อ.ลานสัก นายสุนทรฯ และนายธนากรหรือพรามฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑
๒.นายธนากรหรือพราม
ประคำสี รองนายก อบต.ระบำ
อ.ลานสัก
๑5 ขอนแก่น นางสาวปุณย์จิรภา ปลอมเอกสารการเบิกเงินและแก้ไขจำนวนเงินในสมุดคุมเช็คและต้นขั้วเช็ค โดยไม่มีอำนาจ และชำระค่าวัสดุให้กับผู้ขาย นางสาวปุณย์จิรภาฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงแต่ต้นสังกัดได้ลงโทษไล่ออกนางสาวปุณย์จิรภาฯซึ่งเหมาะสมแก่กรณีแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ลงโทษซ้ำอีก
(ปิยฉัตร) ชมชื่น ไม่ตรงเวลาโดยนำเงินไป ช่วยเหลือผู้อื่น แต่ให้แจ้งผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบนอกจากนี้ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑47 มาตรา ๑57 มาตรา 161 มาตรา 264 มาตรา 265 และมาตรา 268 ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานธุรการชำนาญงาน สำนักงานอัยการจังหวัดพล
ที่ จังหวัด ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
๑๖ ขอนแก่น นายไพศาล จิตตะมัย อนุญาตให้ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำและขยายผิวจราจร ปรับปรุง นายไพศาลฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการ
นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเป็ด ภูมิทัศน์ถนนรอบบึงหนองโคตร ฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ฯแต่นายไพศาลฯพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ถอดถอนอีก แต่ให้ส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบนอกจากนี้นายไพศาลฯ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา1๕๑ และมาตรา 157 และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
อ.เมืองขอนแก่น ใช้พื้นที่สาธารณะก่อสร้างที่พักคนงานและขุดดินในพื้นที่สาธารณะไปใช้ในการก่อสร้าง
๑๗ ร้อยเอ็ด ๑.นายพิบูลย์ แพนพา ร่วมกันตรวจรับและเบิกจ่ายเงินค่าซ่อมแซมอาคารที่ว่าการอำเภอและบ้านพักข้าราชการ นายพิบูลย์ฯ นายเดชาฯ และนายสัมฤทธิ์ฯ
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอ รวม ๓ หลัง โดยไม่มีการซ่อมแซมจริง มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา1๔๗ และมาตรา 157
๒.นายเดชา นาใจตรอง ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
ปลัดอำเภอ
๓.นายสัมฤทธิ์ พันทองคำ
เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี ๔
ที่ว่าการอำเภอหนองพอก
๑๘ ชัยภูมิ ผศ.ดร.พิชัย ละแมนชัย ดำเนินการจัดจ้างโครงการ ผศ.ดร.พิชัยฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา1๕๑ และมาตรา 157และตาม พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๒
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ปรับถมดินบริเวณโรงเรียนน้ำพุและบริเวณสนามกอล์ฟ โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบ เป็นเหตุให้ราชการได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
๑๙ ชัยภูมิ ๑.นายบุญเตือน ราคาแพง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง
รองนายก อบต.นางแดด ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้
อ.หนองบัวแดง นายบุญเตือนฯ และนางสมถวิลฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙
๒.นางสมถวิล จงสูงเนิน
สมาชิกสภาเทศบาลเมืองชัยภูมิ
ที่ จังหวัด ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
๒๐ หนองบัวลำภู นายจารุพิษณ์ เรืองสุวรรณ เบียดบังเงินบำรุงการศึกษาไปเป็นประโยชน์ส่วนตน นายจารุพิษณ์ฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา1๔๗
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอศรีบุญเรืองและรักษาการในตำแหน่งหัวหน้าศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอโนนสัง ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
๒๑ หนองบัวลำภู นายสำรองหรือพีรวัส โหม่งพุฒ ขุดดินและลูกรังในบริเวณที่ทิ้งขยะของเทศบาลฯ ไปใช้ในโครงการต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุมัติจากสภาเทศบาล และก่อสร้างถนนลูกรังถนนสายหนองลุมพุก-บ้านศรีบุญเรือง และร่องระบายน้ำถนนศรีอัมพร บ้านศรีวิชัย และถนนศรีวิลาศ บ้านลาดกรุงศรี ไม่ถูกต้องตามแบบรูปรายการ นายสำรองหรือพีรวัสฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ฯแต่นายสำรองหรือพีรวัสฯ
นายกเทศมนตรีตำบลจอมทอง พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ถอดถอนอีก แต่ให้ส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบนอกจากนี้นายสำรองหรือพีรวัสฯมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา1๕๑ และมาตรา 157 และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
อ.ศรีบุญเรือง
๒๒ ศรีสะเกษ ๑.นายประสพ เรียมทอง ซื้อรถยนต์เก่าที่ผ่านการใช้งานแล้ว โดยไม่ได้รับอนุมัติงบประมาณ แล้วจัดทำหลักฐานเท็จว่าเป็นการซ่อมแซมรถยนต์เก่าที่ได้รับบริจาค เพื่อปกปิดความผิด ๑.นายประสพฯ นายเทียนชัยฯ และ
นายก อบต.โคกตาล นายประเดิมชัยฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ฯแต่ทั้งสามรายพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ถอดถอนอีก แต่ให้ส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบนอกจากนี้ทั้งสามราย มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญาโดยนายประสพฯ กระทำผิดตามมาตรา ๑๕๑,๑๕๗,๑๖๒ (๔)
๒.นายเทียนชัย ศรีสิงห์ นายเทียนชัยฯ และนายประเดิมชัยฯ กระทำผิดตามมาตรา ๑๕๗,๑๖๒ (๔)
รองนายก อบต.โคกตาล ๒.นายไชยสิทธิ์ฯ และนางสาวจุฬารัตน์ฯ
๓.นายประเดิมชัย เทาศิริ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา๑๕๑,๑๕๗,๑๖๒ (๔)
รองนายก อบต.โคกตาล ๓.นายณรงค์ชาญฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา๑๕๗,๑๖๒ (๔)
๔.นายไชยสิทธิ์ เตารัตน์ ๔.นายโอกาสหรือวงเดือนฯมีมูลความผิดทางอาญาฐานผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด
ปลัด อบต.โคกตาล ทั้งนี้ ในส่วนของความผิดทางวินัย ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย สำหรับความผิดทางอาญาได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
๕.นางสาวจุฬารัตน์ พิมพ์นนท์
เจ้าหน้าที่พัสดุ อบต.โคกตาล
๖.นายณรงค์ชาญ สุวรรณโชติ
หัวหน้าส่วนโยธา อบต.โคกตาล
๗.นายโอกาสหรือวงเดือน
ลาลุน
อ.ภูสิงห์
๒๓ กาฬสินธุ์ นายทองจันทร์ ด้วงคำจันทร์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง
เลขานุการนายก อบต. ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้
หนองตอกแป้น อ.ยางตลาด นายทองจันทร์ฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑
๒๔ กาฬสินธุ์ นายสมชัย ทิพย์อุทัย จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง
นายก อบต.นาบอน ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยให้นายสมชัยฯ พ้นจากตำแหน่ง และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลฎีกาฯ วินิจฉัย และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙
อ.คำม่วง
๒๕ มุกดาหาร นางกัลยา เมืองโคตรหรือสุพร จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง
นายก อบต.ป่งขาม ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้
อ.หว้านใหญ่ นางกัลยาฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา ห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.๒๕๔๒ ม. ๑๑๙ ประกอบ ป.อาญา ม. ๙๑
ที่ จังหวัด ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
๒๖ สุราษฎร์ธานี ๑.นายเจริญ จันทร์ปาน ทุจริตในการออก น.ส.๓ ก ๑.นายเจริญฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา๑๕๗
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด เลขที่ ๓๙๓๖ ม.๕ ต.แม่น้ำ ๒.นายวิมุขฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
สุราษฎร์ธานี อ.เกาะสมุย ๓.นางวนิดาฯมีมูลความผิดทางอาญา
๒.นายวิมุข อินทร์ดำ ฐานผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด
ผู้ใหญ่บ้าน ม.๕ ต.แม่น้ำ ทั้งนี้ ในส่วนของความผิดทางวินัย ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย สำหรับความผิดทางอาญาได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
อ.เกาะสมุย
๓.นางวนิดา วิชัยดิษฐ์หรือ
วิชัยดิษฐ
๒๗ นครศรีธรรมราช นางนิภา ขอบขำ เบียดบังเงิน ที่ศูนย์พัฒนาเด็ก-เล็กวัดคีรีวรรณา ชำระคืนให้แก่อบต.ช้างกลาง ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน นางนิภา ขอบขำ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนไปยัง
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนการคลัง อบต.ช้างกลาง ผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
อ.ช้างกลาง
๒๘ สตูล นายสุไลหมาน อาดำ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง
รองนายก อบต.เกตรี ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้
อ.เมืองสตูล นายสุไลหมานฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑