กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--Communication and more
"พัฒน์พลัส" ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ความงาม เปิดตัว "คอลลี่ พลัส ไลโคปีน" (Colly Plus Lycopene) คอลลาเจน สูตรใหม่ ที่เพิ่มคอลลาเจน และ ไลโคปีน เทียบเท่ามะเขือเทศ 20 ลูก ใน 1 ซอง ช่วยผิวเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ถูกใจกลุ่มเป้าหมายทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่
ที่สนใจความงาม และการดูแลรักษาผิวพรรณ เผยเป็นศาสตร์ของความงามอันนิรันดร
คว้านางเอกดัง ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ ไอคอนด้านแฟชั่นที่มีความสดใสและสุขภาพดี มาเป็นพรีเซนเตอร์ ก่อนปูพรมการตลาดด้วยงบกว่า 40 ล้านบาท ผ่านทุกช่องทางการตลาด มั่นใจสิ้นปียอดขายกระโดดสูงถึง 200 %
นายพีรพัฒน์ ลิขิตรัตน์เจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พัฒน์พลัส จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้แบรนด์ "คอลลี่" ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมความสวยความงาม ได้เปิดเผยถึงนโยบายการตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี (2558) นี้ว่า ได้เปิดตัวนวตกรรมล่าสุดคือ "คอลลี่ พลัส ไลโคปีน" (Colly Plus Lycopene) สู่ตลาดอาหารเสริมเพื่อความสวยความงาม ซึ่งเป็น คอลลี่ คอลลาเจน สูตรใหม่ เพิ่มคอลลาเจน และ ไลโคปีน 1 ซอง เทียบเท่าการทาน มะเชือเทศ 20 ลูก จึงช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มของวัยรุ่น และผู้ใหญ่ ที่มีความสนใจในเรื่องของความสวยงาม รวมถึงการดูแลผิวพรรณ
สำหรับนโยบายในการทำการตลาดของผลิตภัณฑ์ "คอลลี่ พลัส ไลโคปีน" (Colly Plus Lycopene) ในช่วงแรกบริษัทต้องการสร้างความต่อเนื่องให้กับกลุ่มผู้บริโภคเดิมซึ่งเป็นลูกค้าของคอลลี่ให้ดูแลตนเองมากขึ้นและดื่ม "คอลลี่ พลัส ไลโคปีน" ทุกวัน ขณะเดียวกันก็ขยายตลาดสู่กลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ ให้กว้างมากขึ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้หญิง อายุ ตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป และกลุ่มเป้าหมายรอง คือผู้ชาย ที่ต้องการดูแลผิวพรรณของตนเองให้เรียบเนียน กระจ่างใส ทางด้านช่องทางจัดจำหน่าย เนื่องจากบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งในช่องทางออนไลน์ และโซเชียลมีเดียอยู่แล้ว ดังนั้นในผลิตภัณฑ์ใหม่
ตัวนี้ มีจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อ 7- Eleven สาขาที่ร่วมรายการ ทั่วประเทศ บริษัทฯ จะยังคงเน้นช่องทางออนไลน์ และโซเชียลมีเดียเป็นหลัก พร้อมขยายช่องทางผ่านตัวแทนจำหน่ายหลัก ซึ่งจะเป็นช่องทางขายผ่านไปสู่ ร้านค้า ร้านขายยาต่างๆ ทั้งตามหัวเมืองใหญ่ และต่างจังหวัดทั่วไป รวมถึงตลาดประเทศจีนด้วย "คอลลี่ พลัส ไลโคปีน" (Colly Plus Lycopene) วางจำหน่ายด้วยกัน 2แบบ คือ แบบกล่องบรรจุ3 ซองราคา 99 บาท และแบบกล่องบรรจุ 15 ซอง ราคา 495 บาท สนใจหาซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้
ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดอาหารเสริมสุขภาพเพื่อความสวยความงามมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงมาก มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดมากมาย มีทั้งผู้ประกอบการรายเดิมและผู้ประกอบการหน้าใหม่ๆ ดังนั้นบริษัทพัฒน์พลัสเอง ในฐานะผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ความงาม จึงได้
พัฒนา วิจัย คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทันที
และ "คอลลี่ พลัส ไลโคปีน" (Colly Plus Lycopene) นับเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของบริษัทฯ ด้วยคุณภาพ และราคาที่เหมาะสม โดยได้รับเกียรติจากซุปเปอร์สตาร์สาวสวย "ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่" มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เนื่องจากใหม่-ดาวิกา เป็นดารานักแสดงที่มีผิวพรรณสวย สุขภาพดี สดใส และมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่รู้จัก ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ อีกทั้งคุณใหม่ ดาวิกา ยังเป็นลูกค้าของคอลลี่มานานแล้ว โดยเชื่อว่าการเปิดตัว "ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่" มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ "คอลลี่ พลัส ไลโคปีน" (Colly Plus Lycopene) ในครั้งนี้ จะสามารถสร้างการรับรู้ และจดจำสินค้าได้ง่ายขึ้น
ในส่วนของงบประมาณกิจกรรมการตลาดในช่วงแรกบริษัทตั้งไว้ที่ 40 ล้านบาท ในการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ในวงกว้าง อาทิ สื่อสิ่งพิมพ์ Radio spot Billboard สื่อโฆษณาในสนามบิน TV Digital Viral Clip รวมทั้งการใช้สื่อออนไลน์ เช่น เฟสบุคส์ อินสตราแกรม เว็บไซด์ บริษัทมองว่าการใช้สื่อออนไลน์ต่างๆ จะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมายและสามารถ เลือกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ซึ่งเม็ดเงินค่าโฆษณา ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับสื่อหลักทั่วๆไป นอกจากนี้ยังมีสื่อสนับสนุน เช่นการจัดกิจกรรม Road show ไปตามมหาวิทยาลัย และ ออฟฟิศบิลดิ่ง โดยร่วมจัดกิจกรรมต่างๆ กับคลื่นวิทยุ เล่นเกมส์ จับรางวัล ให้แก่ผู้บริโภค กิจกรรมต่างๆ กับ โมเดิร์นเทรด เป็นต้น
เล็งแผน 2 ลุยตลาดต่างประเทศ ชี้อนาคตสดใส
ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของบริษัทในปี 2558 นี้ไว้ที่ 200 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (2557) โดย "คอลลี่ พลัส ไลโคปีน" (Colly Plus Lycopene) เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในกลุ่มคอลลาเจน ซึ่งได้รับการยอมรับจากลูกค้า ในเรื่องคุณภาพของสินค้า และผลลัพธ์ในเรื่องผิวพรรณเรียบเนียน กระจ่างใส ซึ่งมีการเจริญเติบโตขึ้นทีดีทั้งตลาดในประเทศไทย และตลาดประเทศจีน
ปัจจุบันผู้คนทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น หากดูข้อมูลเชิงสถิติจากกระทรวงพาณิชย์แล้วจะพบว่า ยอดขายสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ ความงาม อาหารเสริมต่างๆ ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ไทยยังเป็นทั้งแหล่งผลิตและนำเข้าสินค้าสุขภาพที่ได้มาตรฐานและมีความเจริญด้านสาธารณสุขในระดับแนวหน้าของภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นโอกาสที่จะขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศจะทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเมื่อเข้าสู่ AEC ซึ่งปีที่ผ่านๆมามีผู้ประกอบการหลายรายที่ไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสินค้าด้านสุขภาพและความงามของไทยเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศใน AEC รวมทั้งลูกค้าชาวจีนด้วย นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย พร้อมกับต้องการที่จะมาใช้บริการทางด้านสุขภาพและความงามไปในตัวอีกด้วย"
นายพีรพัฒน์ กล่าวในท้ายสุด