กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--Worklink PR
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา โชว์รูมจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ภายใต้แบรนด์ "ELEGA" และโชว์รูมจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ภายใต้ลิขสิทธิ์ DISNEY "FINNA HOUSE" เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 3/58 ว่า บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 338.50 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 302.33 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น ประมาณ 11.96% และมีกำไรสุทธิ 22.01 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 21.79 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.03%
ขณะที่งวด 9 เดือน ปี 2558 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 981.77 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 924.19 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น ประมาณ 4.64% และมีกำไรสุทธิ 54.98 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 57.94 ล้านบาท หรือปรับตัวลดลง 5.12%
"ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของบริษัทมีการเติบโตอย่างเนื่อง จากรายได้การจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในประเทศที่เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 11.55% โดยช่องทางโมเดิร์นเทรดมีการเติบโตค่อนข้างสูง และเชื่อว่าธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะยังสามารถเติบโตได้อีก โดยเป็นผลจากผู้บริโภคในประเทศเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ นอกจากนี้บริษัทยังได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าญี่ปุ่นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากช่วง 6 เดือนแรกที่อัตราการเติบโตจากการส่งออกไปญี่ปุ่นติดลบ 8% แต่ในงวดเก้าเดือนยอดส่งออกญี่ปุ่นกลับมามีอัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอีกครั้ง"นายอารักษ์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทมีแผนขยายตลาดต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยบริษัทเริ่มเห็น คำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ทั้งจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย นอกจากนี้เดินหน้าเจรจาเพื่อสร้างช่องทางขยายตลาดลูกค้าใหม่เพิ่มในประเทศสหรัฐอเมริกา จากปัจจุบันส่งออกไปแล้วทั้งหมด 10 ประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น, บาห์เรน, สหรัฐอเมริกา, ไต้หวัน, อินเดีย, ชิลี, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์
จากปริมาณคำสั่งซื้อรวมถึงผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง ซึ่งตั้งแต่เดือนตุลาคมบริษัทได้เริ่มการผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้ลิขสิทธิ์จาก DISNEY ทำให้ช่วงที่ผ่านมาบริษัทต้องพิจารณาหาแนวทางการขยายกำลังการผลิตให้เพิ่มขึ้นจากเดิม เนื่องจากกำลังผลิตที่มีอยู่ใกล้จะเต็มแล้ว ทั้งนี้ตั้งเป้าว่า ส่วนรายได้ของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ภายในปีหน้าจะต้องเติบโตไม่ต่ำกว่า 15%
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมของบริษัทในปีนี้จะเติบโตจากปีก่อนอย่างแน่นอน ทั้งรายได้จากการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว รวมถึงกำลังซื้อในประเทศเริ่มเห็นทิศทางการปรับตัวที่เพิ่มขึ้นแล้ว ซึ่งเห็นได้ชัดจากรายได้จากส่วนของกลุ่มสินค้า DIY ที่จำหน่ายผ่าน Modern Trade เติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าภายในประเทศ 43%และต่างประเทศ 57 %