NCL เปิดสตอรี่เพิ่มทุน-แจกวอร์แรนต์ฟรี 3:1 โชว์แผนธุรกิจปี’59 เน้นขยายฐานลูกค้า-ลุยธุรกิจใหม่ ตั้งเป้าปั๊มรายได้โต 20-30% พร้อมเทิร์นอะราวด์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 13, 2015 10:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--IR network บอร์ด บมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ (NCL)) ไฟเขียวเพิ่มทุนเป็น 140 ล้านบาท รองรับวอร์แรนต์ 140 ล้านหน่วย แจกให้ผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่คิดมูลค่าในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ราคาใช้สิทธิ 4 บาทต่อหุ้น ลุยเปิดตัวธุรกิจใหม่ SOC สานต่อต่อธุรกิจเดิม "กิตติ พัวถาวรสกุล" ระบุเพิ่มทุนครั้งนี้ช่วยหนุนฐานธุรกิจในอนาคต เพิ่มสภาพคล่อง สร้างมูลค่าหลักทรัพย์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมเปิดแผนธุรกิจปี'59 เน้นขยายฐานลูกค้า ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 20-30% ส่วนปี'58 มั่นใจรายได้โตตามเป้า 1,000 ล้านบาท ถึงเวลางบพลิกฟื้นเทิร์นอะราวด์ไตรมาส4/58 หลังยกเลิกให้บริการท่าเรือระนองไปย่างกุ้ง แถมมีรายได้จากบริษัทย่อยที่สิงค์โปร นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (NCL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2558 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 105,000,000 บาท เป็น 140,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 140,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทรุ่นที่1 (NCL-W1) จำนวน 140,000,000 หน่วย ซึ่งจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า โดยกำหนดราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิเท่ากับ 4 บาทต่อหุ้น อายุ 2 ปี พร้อมกันนี้คณะกรรมการบริษัทยังได้อนุมัติให้ดำเนินธุรกิจ Shipper Own Container :SOC เป็นการให้บริการที่ครบวงจรตามแบบสายเรือทั่วไป โดยมีตู้ขนส่งและระวางเรือของบริษัทเอง แต่มิได้มีเรือเป็นของตัวเอง จากปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือเท่านั้น ซึ่งจุดเด่นของบริการใหม่นี้ บริษัทจะให้บริการเรือที่เดินเรือตรงสู่ปลายทางเป็นหลัก ทำให้ลูกค้าไม่ประสบปัญหาการตกเรือยังท่าเทียบเรือ (T/S PORT) อีกทั้งบริษัทยังยังมีระวางตู้จากสายเรือที่ไม่จำกัด สามารถให้บริการ และตอบสนองต่อการขนส่งปริมาณมากๆ ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยมีแผนที่จะขยายปริมาณตู้เพิ่มขึ้นอีกในปี 2559 จากปัจจุบันมีตู้ขนส่งประมาณ 1,000 ตู้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญบริการใหม่นี้สามารถให้บริการที่ครอบคลุมมากถึง 20 ประเทศ และ NCL ถือเป็นรายแรกของประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจโดยมีเจ้าของเป็นคนไทย "บริษัทหวังว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสด เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อขยายกิจการในอนาคต ซึ่งเงินทุนที่เพิ่มขึ้นนี้จะช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นและช่วยเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ในระยะยาวได้อีกด้วย โดยเชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ถือหุ้น"นายกิตติกล่าวในที่สุด สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปี 2559 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20-30% จากฐานลูกค้าเก่าและลูกค้ารายใหม่ๆ ที่มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ส่วนปี 2558 คาดว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งแม้ผลประกอบการในไตรมาส 3/2558 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 ของบริษัทและบริษัทย่อย จะมีผลขาดทุนสุทธิ 36.02 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 252.32 ล้านบาท แต่เชื่อว่าในไตรมาส 4/2558 จะพลิกกลับมามีกำไรได้ เนื่องจาก NCL ได้ยกเลิกการให้บริการขนส่งสินค้าแบบตู้คอนเทนเนอร์จากท่าเรือระนองไปยังท่าเรือย่างกุ้ง ประกอบรายได้ที่เพิ่มเข้ามาจากการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทย่อยที่สิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 (Record Date) ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 1 ธันวาคม 2558 และได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2558 ในวันที่ 15 ธันวาคม 2558 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมบางกอกคลับ ชั้น 28 อาคารสาทรซิตี้ทาวเวอร์ โดยกำหนดชื่อผู้มีสิทธิได้รับจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ NCL-W1 วันที่ 23 ธันวาคม 2558 และปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ วันที่ 24 ธันวาคม 2558

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ