กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--ปตท.
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนของปี 2558 ปตท. และบริษัทย่อย มีปริมาณการขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบที่ลดลงมาก ส่งผลให้รายได้จากการขายจำนวน 1,557,327 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ 23.6 ในขณะที่ มี EBITDA จำนวน 219,079 ล้านบาท ลดลงเพียงร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงอย่างต่อเนื่องถึงร้อยละ 47.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ ปตท. สามารถรักษาระดับการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูได้จากปริมาณการขายที่ยังคงเพิ่มขึ้น ช่วยให้ EBITDA ลดลงเพียงร้อยละ 8.8" นายวิรัตน์ กล่าว
นายวิรัตน์ เพิ่มเติมว่า "เนื่องด้วยราคาน้ำมันที่ลดลงดังกล่าวและมีแนวโน้มที่อาจฟื้นตัวช้า ดังนั้น ปตท.สผ.จึงรับรู้ด้อยค่าสินทรัพย์จำนวน 49,893 ล้านบาท ซึ่ง ปตท. ในฐานะบริษัทแม่ที่ถือหุ้นร้อยละ 65 ทำให้ต้องรับภาระการด้อยค่าทางบัญชี เช่นกัน ทำให้กำไรสุทธิของ ปตท. และบริษัทย่อยในงวด 9 เดือนนี้ มีจำนวน 19,748 ล้านบาท ลดลง 64,737 ล้านบาท หรือลดลง ร้อยละ 76.6 จาก 84,485 ล้านบาทในช่วงเวลาเดียวของปีก่อน ทั้งนี้ผลประกอบการดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานและกระแสเงินสดของ ปตท. โดยหากไม่รวมผลการด้อยค่าทางบัญชี ผลประกอบการของ ปตท.และบริษัทย่อยในงวด 9 เดือนนี้ มีจำนวน 55,891 ล้านบาท ลดลง 29,339 ล้านบาท หรือลดลง ร้อยละ 34 จาก 85,230 ล้านบาทในช่วงเวลาเดียวของปีก่อนในงวดนี้"
ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 ปตท. และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 2,226,180 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,138,407 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 1,087,773 ล้านบาท
คุณวิรัตน์ กล่าวว่า ปตท. ยังคงมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีกระแสเงินสดประมาณ 70,000 ล้านบาท พร้อมพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เพื่อลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในราคาที่เหมาะสม เพื่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศชาติต่อไป