กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2558 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 มีรายได้รวม 1,161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 545.3% จากการรับรู้รายได้การควบรวมกิจการกับ HEMRAJ และการส่งมอบคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงโรงงานระดับพรีเมียมเพิ่มมากขึ้น ด้านผู้บริหาร " จรีพร จารุกรสกุล " สั่งลุย 4 HUBS ประกอบด้วยLOGISTIC HUB , INDUSTRIAL HUB , UTILITY & POWER HUB และ DIGITAL HUB ทันที พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยถึง ผลการดำเนินไตรมาส 3/2558 สินสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 545.3 % เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากการควบรวมกิจการธุรกิจของ บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ ) เพิ่มขึ้น และการส่งมอบพื้นที่คลังสินค้า และโรงงานให้เช่า ให้กับลูกค้าเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม มีผลขาดทุนสุทธิสำหรับไตรมาสนี้ 52.7 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการอ่อนค่าลงของเงินบาทเมื่อเปรียบเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้เกิดการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และส่งผลกระทบในทางลบต่อโครงการเก็คโค่-วัน โครงการห้วยเหาะไทย และโครงการกัลฟ์ เจพี โดยโครงการ เก็คโค่-วัน ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีส่วนแบ่งผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในระหว่างไตรมาส จำนวน 290.7 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ผลขาดทุนดังกล่าวเป็นเพียงผลขาดทุนทางบัญชี (Accounting Loss) ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
" ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้รวม 3,254.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 576.5% และมีผลกำไรสุทธิ 168.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159.9% ตลอด 9 เดือนแรกของปี 2558 โดยสาเหตุที่มีรายได้ที่โตขึ้นอย่างก้าวกระโดดเกิดจากรายได้ค่าเช่า ค่าบริการ และค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้นจาก 382.0 ล้านบาท เป็น 2,130.8 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของพื้นที่ให้เช่าและบริการจากการที่บริษัทฯ และบริษัทเหมราชฯ ได้พัฒนาคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานให้เช่าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้รายได้ในส่วนนี้ยังรวมถึงรายได้ค่าบริการที่เกิดจากการให้บริการสาธารณูปโภคภายในนิคมอุตสาหกรรมอีกด้วย " นางสาวจรีพร กล่าว
นางสาวจรีพร กล่าวเพิ่มว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงโรงงานระดับพรีเมียมเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่แถวบางนา-ตราด แหลมฉบังและลาดกระบัง โดยในปีนี้ตั้งเป้าการขยายพื้นที่ 200,000 ตารางเมตร และส่งมอบให้กับลูกค้าในช่วงไตรมาส 3/2558 แล้วประมาณ 150,000 ตารางเมตร
นอกจากนี้บริษัทฯยังเตรียมแผนยกมาตรฐานการดำเนินธุรกิจ ให้ก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการครบวงจรด้านการดำเนินธุรกิจ Real Sector โดยเบื้องต้น บริษัทฯวางแผนจะเป็นศูนย์กลาง 4 HUBS ประกอบด้วย LOGISTIC HUB , INDUSTRIAL HUB , UTILITY & POWER HUB และ DIGITAL HUB โดยจะเริ่มเห็นความชัดเจนในการเป็นศูนย์กลาง 4 HUBS ตั้งแต่ในปี 2559 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2558 คาดว่ารายได้อยู่ในระดับ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงโรงงานระดับพรีเมี่ยมเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังมีรายได้จากการขายสินทรัพย์ให้กับกองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) มูลค่าประมาณ 4,500 – 4,600 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4 นี้อีกด้วย นอกจากนี้บริษัทฯ เพิ่งจำหน่าย อาคารสำนักงาน SJ Infinite I Business Complex และ อาคารสำนักงาน Bangna Business Complex ให้แก่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ (WHABT) เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และได้ชำระคืนเงินต้นจำนวน 2,075 ล้านบาททันที จนถึงปัจจุบันได้ชำระคืนเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหุ้นของบริษัท เหมราชฯ ไปแล้วทั้งสิ้น 9,374 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลทำให้ดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาส 4 ลดลงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ส่วนการขายสินทรัพย์ให้กับกองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (รีทส์) ในส่วนของ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ HEMRAJ นั้น คาดว่าจะสามารถยื่นขออนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในปลายปีนี้ และจะสามารถดำเนินการเสร็จสิ้นได้ภายในไตรมาส 1/2559 โดยคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท