กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--IR network
บมจ. ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC) โชว์ศักยภาพแกร่ง สวนกระแสเศรษฐกิจ 9 เดือนแรกกำไรสุทธิ 54.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น77.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากกำไรขั้นต้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ "ชัชชวี วัฒนสุข" มั่นใจผลประกอบการ ปี"58 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าขายหุ้นไอพีโอและเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในปลายปี"58
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) ผู้จัดหา ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟรายใหญ่ในร้านสะดวกซื้อ "7-Eleven" เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2558 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 ว่าบริษัทมีรายได้รวม 248.09 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 2.56โดยมีกำไรสุทธิ 15.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 102.72% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.56 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2558 มีรายได้รวม 745.42 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 3.25 โดยมีกำไรสุทธิ 54.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 77.36% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30.61 ล้านบาท รวมทั้งสูงกว่ากำไรสุทธิทั้งปีของปี 2557 ที่มีจำนวน 51.84 ล้านบาท
"สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ในภาพรวมยอดขายจะค่อนข้างทรงตัวตามภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากบริษัทมีนโยบายในการมุ่งเน้นขายสินค้ากลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเพิ่มมากขึ้น และงวด 9 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทฯ มีการผลิตสินค้าจากโรงงานผลิตเครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผงของบริษัทฯ ได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 95.60% ของกำลังการผลิตติดตั้งรวม จึงทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง โดยจะเห็นได้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นในงวด 9 เดือนแรกของปี 2558 ของบริษัทอยู่ที่ร้อยละ 30.53 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 28.20 ในปี 2557 นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยมีการควบคุมงบประมาณการใช้จ่ายต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการขาย ส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.15 ในปี 2557 เป็นร้อยละ 7.28 ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2558 และคาดว่าแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะมีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง"นายชัชชวีกล่าว
หากพิจารณาในด้านฐานะการเงิน จะเห็นว่าบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2558 อยู่ที่ 1.50 เท่า ลดลงจาก ณ สิ้นปี 2557 ที่อยู่ที่ 2.27 เท่า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น หรือ ROE ในระดับสูง โดยในปี 2557 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 93.39 และร้อยละ 66.50 ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอยู่ในระดับที่ดี
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวอีกว่า TACC มีแผนที่จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 168 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท แบ่งเสนอขายต่อประชาชน 159 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ จำนวน 9 ล้านหุ้น โดยจะนำเงินที่ได้ไปใช้ลงทุนในโครงการเครื่องกดเครื่องดื่มแบบอัตโนมัติ (Vending Machine) โดยตั้งเป้าหมายติดตั้ง1,500 ตู้ ภายในปี 2560 และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน คาดว่าจะขายหุ้นไอพีโอ และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปลายปีนี้
TACC ดำเนินธุรกิจจัดหา ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟที่มีเอกลักษณ์และความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยเครื่องดื่มที่สร้างรายได้หลักให้แก่ TACC คือ เครื่องดื่มในโถกดที่เป็นรสชาติหลัก ได้แก่ กาแฟเย็น และชานม ซึ่งจำหน่ายในร้าน 7-Eleven ทุกร้าน นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ เช่น ชาเขียวพร้อมดื่ม ตรา "เซนย่า" กาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม ตรา "วีสลิม" เครื่องดื่มปรุงสำเร็จรูปชนิดผงตรา "ซาซ่า" ตรา "ณ อรุณ" และตรา "สวัสดี" ซึ่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ