กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง
อิมแพ็ค โกรท รีท แข็งแกร่งเหนือเศรษฐกิจซึม โชว์อัตราการบริการพื้นที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมรอบไตรมาสสอง ปี 2558/2559 ทะลุ 52% หนุนรายได้ 506.2 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 267.3 ล้านบาท พร้อม จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.18 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 97% ของกำไรสุทธิ เผย Dividend Yield นับตั้งแต่จัดตั้งกองทรัสต์ฯ แตะ 7.3% สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 6.6%
นางสาววันเพ็ญ มุ่งเพียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท หรืออิมแพ็ค โกรท รีท (IMPACT GROWTH REIT)เปิดเผยว่า กองทรัสต์ อิมแพ็ค โกรท ยังคงสร้างผลการดำเนินงานที่ดี และเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2558/2559 รอบเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2558 รับรู้รายได้รวมเท่ากับ506.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 267.3 ล้านบาท กองทรัสต์ฯ มีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 53% คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานรอบไตรมาสที่ 2 ปี 2558/2559 ในอัตรา 0.18 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 97% ของกำไรสุทธิ รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลกว่า266.8 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 14 ธันวาคม 2558
ทั้งนี้ในรอบไตรมาสที่ 2 ปี 2558/2559 มีรายได้จากการให้บริการพื้นที่จัดแสดงสินค้าและการประชุม500.3 ล้านบาท โดยอาคารที่ทำรายได้และมีอัตราการใช้พื้นที่สูงสุด ได้แก่ อาคารอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ ฮอลล์ 1-8 ที่มีอัตราการใช้พื้นที่ในรอบระยะเวลาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – กันยายน 2558 สูงถึง 68% เพิ่มขึ้นถึง20% จากรอบเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตราการใช้พื้นที่รวมทั้ง 4 อาคาร ประกอบด้วย อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์, อิมแพ็ค ฟอรั่ม, อิมแพ็ค อารีน่า และอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 52% เพิ่มขึ้นกว่า 10% เมื่อเทียบกับรอบเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2558/2559 ระหว่างเดือนเมษายน – สิ้นสุดเดือนกันยายน 2558รับรู้รายได้รวมกว่า 1,004.5 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 533.4 ล้านบาท มีอัตราการให้บริการพื้นที่จัดแสดงสินค้าและการประชุมเฉลี่ย 51%
"กองทรัสต์อิมแพ็ค โกรท ประกาศจ่ายเงินปันผลรวมเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่การจัดตั้งกองทรัสต์ฯ ขึ้นมา และที่ผ่านมา กองทรัสต์ อิมแพ็ค โกรท สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่อยได้สูงกว่าเป้าหมายมาโดยตลอด ซึ่งหากรวมเงินปันผลทั้ง 4 ครั้ง ได้จ่ายปันผลไปแล้วกว่า 0.775 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อหุ้น (Dividend Yield) เท่ากับ 7.3% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่อัตรา 6.6% สำหรับทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลัง ระหว่างเดือนตุลาคม 2558 – มีนาคม 2559 คาดการณ์ว่าอัตราการใช้พื้นที่จะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะจะมีการจัดงานใหญ่ประจำอีกหลายงานทั้งงานบ้านและสวนแฟร์, งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 (Thailand International Motor Expo 2015) และงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เป็นต้น" นางสาววันเพ็ญ กล่าวปิดท้าย