กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--อินโดรามา เวนเจอร์ส
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล ผู้ผลิตปิโตรเคมีขั้นกลางชั้นนำระดับโลก ประกาศลงนามในข้อตกลงซื้อกิจการ Cepsa Química S.A. ("CEPSA Spain") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท Compañía Española de Petróleos S.A.U. ("CEPSA") ผู้ผลิตกรด Purified Isopthalic (PIA), โพลีเอทิลีน เทเรฟทาเลต (PET) และกรดเทเรฟ
ทาลิคบริสุทธิ์ (PTA) ในเมือง Guadarranque-San Roque แคว้นกาดิซ ประเทศสเปน โดยอยู่ในระหว่างรอการอนุมัติทางกฎหมาย
ต่อเนื่องจากการประกาศเข้าซื้อกิจการ CEPSA ในประเทศแคนาดา ที่มีกำลังการผลิต PTA 600,000 ตันเมื่อเดือนมิถุนายน 2558 กิจการแห่งใหม่ที่เข้าซื้อในประเทศสเปนในครั้งนี้ มีกำลังการผลิต PIA 220,000 ตัน, PTA 325,000 ตันและ PET 175,000 ตัน เป็นหนึ่งในไม่กี่โรงงานในโลกที่มีการบูรณาการ PTA, PIA และ PET และมีโรงกลั่นของบุคคลภายนอกตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพื่อจัดส่งวัตถุดิบป้อนเข้าสู่โรงงาน ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จของไอวีแอลในการบูรณาการในแนวดิ่ง การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการเพิ่มความหลากหลายทางภูมิภาค
PIA เป็นเคมีที่สำคัญ โดยครึ่งหนึ่งถูกนำไปใช้ผลิตเม็ดพลาสติก PET ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งถูกนำไปใช้ในการผลิตสินค้าปลายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใช้ในการผลิตสี บริษัท Cepsa Spain เป็นผู้ผลิต PIA เพียงรายเดียวในยุโรปและเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และยังเป็นเจ้าของเทคโนโลยีขั้นสูงและสิทธิบัตร ดังนั้นจึงช่วยสร้างการกีดกันทางการค้าได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีการผลิต PTA ของสเปน นับเป็นกรรมสิทธิ์ ไอวีแอลยังได้บริหารการดำเนินงานของโรงงานย่อยในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดาที่ได้เข้าซื้อก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี 2558 โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิต PET 175,000 ตันต่อปีเป็นโรงงานย่อยของโรงงานของไอวีแอลในเมืองร็อตเตอร์ดัม ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิต 220,000 ตันต่อปี จึงมีโอกาสในการปรับปรุงกำลังการผลิตด้วยต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ PTA ที่เหลือจากการใช้ผลิตภายในยังสามารถจำหน่ายแก่ผู้ผลิต PET ภายในประเทศอีกด้วย
"การบูรณาการ PIA, PTA และ PET ในสเปนนับเป็นโอกาสที่น่าสนใจและช่วยส่งเสริมธุรกิจของเราในยุโรป ยุโรปเองเป็นภูมิภาคที่กำลังผ่านช่วงท้าทายด้วยกำลังการผลิตที่กระจายและไม่มีการควบคุมการนำเข้าจากเอเชียและสหรัฐอเมริกา สินทรัพย์ในสเปนแห่งนี้จะช่วยเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันในยุโรปด้วยการควบรวมสินทรัพย์ PTA และ PET นอกจากนี้ยังมี PIA เพิ่มเติมขึ้นมาอีกด้วย นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม" นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าว "การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะส่งผลให้ไอวีแอลเป็นผู้นำในธุรกิจ PIA ที่มีกรรมสิทธิ์ทางเทคโนโลยี มีกำไรสูงและมีกลไกกีดกันผู้ที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรม เรายังคงมองหาโอกาสอย่างต่อเนื่องในการลดต้นทุนและสร้างความได้เปรียบในผลิตภัณฑ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หลักของเราในอุตสาหกรรมโพลีเอสเตอร์ และการเข้าซื้อนี้จะทำให้เรามั่นใจว่ามีการบูรณาการหลักในแนวดิ่งด้วย โดยมุ่งที่การเติบโตของกำไรเป็นส่วนสำคัญ"