ฟิทช์ประกาศลดอันดับเครดิตหุ้นกู้ค้ำประกันของบริษัท กัลฟ์โคเจนเนอเรชั่นเป็น A-(tha)’; นำอันดับเครดิตออกจากเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 16, 2015 17:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศลดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวของหุ้นกู้ค้ำประกัน ครบกำหนดไถ่ถอนเดือนเมษายน 2559 ของบริษัท กัลฟ์ โคเจนเนอเรชั่น จำกัด หรือ GCC เป็น 'A-(tha)' จาก 'AA-(tha)' และนำอันดับเครดิตดังกล่าวออกจากเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ การปรับลดอันดับเครดิตเป็นผลมาจากการที่ฟิทช์เพิกถอนอันดับเครดิตของผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ หรือ DEPFA Bank เนื่องจากไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะติดตามอันเครดิต ถึงแม้ว่าการค้ำประกันจะยังมีผลบังคับใช้อยู่ ฟิทช์จัดอันดับเครดิตของหุ้นกู้โดยมิได้ไม่ได้พิจารณาถึงการค้ำประกันจาก DEPFA Bank โดยอันดับเครดิตของหุ้นกู้ที่ 'A-(tha)' สะท้อนถึงอันดับเครดิตของ GCC โดยลำพัง ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต กระแสเงินสดที่มีเสถียรภาพ: GCC มีรายได้และกระแสเงินสด ที่มีความต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ โดยประมาณ 85% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท มาจากการขายไฟฟ้าภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ที่ถือหุ้นทั้งหมดโดยรัฐบาลไทยและมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ฟิทช์คาดว่า GCC จะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงเงินทุนหมุนเวียน (Funds flow from operations) สูงกว่า 350 ล้านบาท (ปี 2557: 407 ล้านบาท) ในช่วงสามปีข้างหน้า ความเสี่ยงต่ำจากความผันผวนของความต้องการใช้ไฟฟ้า: ความเสี่ยงจากความผันผวนของความต้องการใช้ไฟฟ้าและราคาเชื้อเพลิง ในส่วนของการขายไฟฟ้าให้ กฟผ. อยู่ในระดับต่ำ เนื่องจาก กฟผ. รับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมดในส่วนนี้ และค่าไฟที่ขายให้ กฟผ. จะครอบคลุมต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของบริษัท โดยโครงสร้างค่าไฟฟ้าที่ขายให้ กฟผ. จะแบ่งเป็นสองส่วน กล่าวคือ ค่าพลังไฟฟ้า หรือ Capacity charge ซึ่งทำให้บริษัทไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของความต้องการไฟฟ้า และค่าไฟฟ้าดังกล่าวจะครอบคลุมถึงการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนและเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น ส่วนที่สองได้แก่ค่าพลังไฟฟ้า หรือ Energy charge ซึ่งครอบคลุมค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด ผลกระทบจากเปลี่ยนแปลงของราคาเชื้อเพลิง: กำไรจากการขายไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม (Industrial users) ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 15% ของรายได้รวมของบริษัท อาจได้รับผลกระทบหากการเปลี่ยนแปลงของค่าไฟฟ้า ไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของราคาเชื้อเพลิง โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาเชื้อเพลิงปรับสูงขึ้น ราคาขายไฟฟ้าที่ขายให้แก่ Industrial users จะอ้างอิงจากราคาขายไฟฟ้าของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และถึงแม้ว่าจะมีกลไกการปรับค่าไฟฟ้าตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่การปรับค่าไฟฟ้าแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน การดำเนินงานที่แข็งแกร่ง: ความเสี่ยงด้านการผลิตไฟฟ้าได้ถูกลดทอนจากการใช้เทคโนโลยีกังหันก๊าซ และเครื่องกำเนินไฟฟ้า ที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า และการที่บริษัทมีมาตรการในการเดินเครื่อง และซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้สัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติระยะยาวกับ บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) (PTT; AAA(tha)/Stable) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าเชื้อเพลิงหลักของโรงไฟฟ้าจะมีเพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้า ความเสี่ยงจากการมีสินทรัพย์เดียว: การที่บริษัทมีสินทรัพย์เดียว โดยไม่มีการกระจายของแหล่งรายได้ เป็นปัจจัยที่จำกัดมิให้อันดับเครดิตของ GCC สูงกว่านี้ รายได้และกระแสเงินสดของ GCC อาจได้รับผลกระทบจากการหยุดเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้วางแผนไว้หรือการที่ประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามสัญญาการบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าระยะยาวกับ General Electric น่าจะช่วยลดทอนความเสี่ยงดังกล่าวลงไปได้บางส่วน อัตราส่วนหนี้สินต่อกำไรที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง: อัตราส่วนหนี้สินต่อกำไรของ GCC ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากการที่บริษัทชำระคืนเงินกู้ โดย ณ สิ้นปี 2557 หนี้สินทั้งหมดของบริษัทลดลงเหลือ 896 ล้านบาท จาก 1,448 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2556 โดยหนี้ของ GCC เป็นหนี้จากหุ้นกู้ทั้งหมด นอกจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ GCC เองแล้ว บริษัทคาดว่าจะได้รับเงินจำนวน 615 ล้านบาทในปี 2557 และ 2558 จากบริษัทผลิตไฟฟ้าอีกสองรายซึ่งถือหุ้น 100% โดยบริษัทแม่ของ GCC หรือ บริษัท กัลฟ์ อิเล็กตริก จำกัด (มหาชน) เนื่องจากเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ บางส่วนได้ปล่อยกู้ให้กับบริษัทผลิตไฟฟ้าดังกล่าว อันดับเครดิตสะท้อนถึงอันดับเครดิตโดยลำพังของ GCC: ฟิทช์พิจารณาอันดับเครดิตของ GCC โดยลำพัง แยกจากอันดับเครดิตของบริษัทแม่ หรือ บริษัท กัลฟ์ อิเล็กตริก จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือหุ้น 100% ใน GCC โดยข้อกำหนด และกลไกการบริหารกระแสเงินสด ภายใต้เงื่อนไขของการค้ำประกันจาก DEPFA Bank ช่วยป้องกันการแทรกแซงของบริษัทแม่ และเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหนี้ของ GCC สมมุติฐานที่สำคัญ สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ - มีการบริหารจัดการประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าได้ตามเป้าหมาย และได้รับ Capacity payment เต็มจำนวนในปี 2557 และ 2558 - Capacity factor ของโรงไฟฟ้าอยู่ที่ 74% ในปี 2557 และ 2558 - เงินลงทุน 3.0 ล้านบาทต่อปี ในปี 2557 และ 2558 ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต ปัจจัยบวก - ฟิทช์คาดว่าการปรับเพิ่มอันดับเครดิตไม่น่าจะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าเนื่องจากอันดับเครดิตถูกจำกัดด้วยขนาดของบริษัทที่เล็ก และบริษัทมีสินทรัพย์ประเภทเดียว ปัจจัยลบ - ผลประกอบการณ์ของบริษัทที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าที่ต่ำกว่าที่คาดซึ่งส่งผลกระทบต่อ Funds flow from operations

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ