กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า อุปสงค์ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างในประเทศไทยจะได้รับแรงกระตุ้นจากแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในช่วงสองถึงสามปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยยังคงมีการฟื้นตัวที่ช้าและน่าจะเป็นปัจจัยที่ชะลอการเติบโตของอุปสงค์ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างโดยรวมในปี 2559
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐจะยังคงเป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นอุปสงค์ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างในช่วงสองถึงสามปีข้างหน้า โดยจะมีการเร่งรัดการก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานทั้งในส่วนของระบบราง ถนน ท่าเรือ และสนามบิน ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท เริ่มก่อสร้างในปลายปี 2558 จนถึงปี 2564 ฟิทช์คาดว่าอุปสงค์ปูนซีเมนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่มีมูลค่าการขายสูงสุด จะสามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นบวกได้ในระดับประมาณร้อยละ 3-5 ในปี 2559
อุปสงค์ปูนซีเมนต์โดยรวมลดลงในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 ชะลอตัวต่อเนื่องมาในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 ถึงแม้ว่าอุปสงค์ในภาคการก่อสร้างของภาครัฐจะเติบโตที่ระดับประมาณร้อยละ 10 ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการหดตัวของอุปสงค์จากภาคที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นภาคที่ครองส่วนแบ่งการใช้ปูนต์ซีเมนต์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 50 ของตลาดรวม จะเป็นตัวฉุดให้อุปสงค์โดยรวมติดลบ ฟิทช์มองว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลในช่วงท้ายปี 2558 จะไม่มีส่งผลมากนักในการกระตุ้นอุปสงค์วัสดุก่อสร้าง โดยถูกบั่นทอนจากภาคที่อยู่อาศัยและภาคการค้าที่ยังคงอ่อนแอ
ฟิทช์คาดว่าอุปสงค์ปูนซีเมนต์ในการก่อสร้างของภาครัฐจะเติบโตในอัตราที่สูงขึ้นในปี 2559 ในขณะที่อุปสงค์จากการก่อสร้างที่อยู่อาศัยน่าจะฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย ถึงแม้ว่าว่ารัฐบาลจะมีการประกาศใช้มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เมื่อเดือนตุลาคม 2558 แต่มาตรการดังกล่าวน่าจะช่วยส่งเสริมการขายอสังหาริมทรัพย์ในมือของผู้ประกอบการมากกว่ากระตุ้นการก่อสร้างใหม่ และที่สำคัญไปกว่านั้น กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังคงอ่อนแอน่าจะมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคมากกว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับจากมาตรการดังกล่าว
บริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์ชั้นนำของประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC, A(tha)/Stable) บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) (SCCC, A(tha)/Stable) และบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL, ไม่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยฟิทช์) น่าจะได้รับผลดีจากการเร่งรัดโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการในปี 2559 ปรับตัวดีขึ้น โดยผู้ผลิตปูนซีเมนต์เหล่านี้รายงานผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง ทั้งรายได้และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ลดลงในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2558 นอกจากนี้ ฟิทช์ยังเชื่อว่าอุปสงค์ในประเทศที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในปี 2559 น่าจะช่วยดูดซับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของ TPIPL จำนวนประมาณสี่ล้านตันต่อปี ที่วางแผนจะเริ่มดำเนินการผลิตในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 หรือช่วงไตรมาสแรกของปี 2559