กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--IR PLUS
PYLON เชื่อไตรมาส 4/58 ผลประกอบการกลับมาสวยทั้งรายได้ กำไร หลัง Backlog ในมือเพิ่มขึ้นทะลุ 800 ล้านบาท หลังได้งานเพิ่มล่าสุด 184.8 ล้านบาท ชี้เฉพาะไตรมาส 4/58 ได้งานเกือบ 400 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้บางส่วนในไตรมาส 4 ปีนี้ สาเหตุหลักจากความล่าช้าในการได้รับใบอนุญาต EIA ของเอกชน ด้าน "ชเนศวร์ แสงอารยะกุล" บอสใหญ่ มั่นใจผลงานปี 58 ทำนิวไฮใหม่ พร้อมเตรียมความพร้อมยื่นประมูลงานใหม่ เพื่อเสริมรายรับในอนาคต
ดร.ชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2558 ว่า ผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวหลังจากการรับรู้รายได้จากมูลค่างานคงค้างในมือมูลค่า 800 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เลื่อนมารับรู้รายได้ในไตรมาส 4 /2558 เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาการได้รับใบอนุญาต EIA ล่าช้า ทำให้ลูกค้าต้องเลื่อนโครงการ และส่งผลกระทบต่อรายได้ กำไรในไตรมาส 3/2558 โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2558 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 32.4 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.3 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 30.63 ขณะที่รายได้อยู่ที่ 253.58 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 69.06 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 21.40 ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 58 มีกำไรสุทธิ 154.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 10.04 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.95 ส่วนรายได้สำหรับงวดเก้าเดือนอยู่ที่ 954.35 ล้านบาท ลงลงจากปีก่อนที่ 42.53 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 4.27
โดยล่าสุดไพลอนได้แจ้งประกาศได้รับงานโครงการก่อสร้างงานเสาเข็มเจาะ สำหรับงานอาคาร ให้กับ โครงการชีวาทัยบางโพ , โครงการ อารียาเรสซิเดนซ์ , โครงการ สำนักงานใหญ่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต, โครงการ Circle สุขุมวิท 31 รวมมูลค่าโครงการกว่า 180 ลบ.
สำหรับการเข้าประมูลงานโครงการ PYLON ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลงานที่ได้ยื่นเสนอไปแล้วช่วงที่ผ่านมา โดยคิดเป็นมูลค่าราว 1 พันลบ.(ไม่รวมงานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ) หวังชนะการประมูลไม่ต่ำกว่า 25% โดยปี 2559 เป็นปีที่ PYLON มีโอกาสในการเข้าประมูลงานจากการผลักดันโครงการเมกกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ อาทิ รถไฟฟ้าสายใหม่จำนวน 3 สาย โครงการส่วนต่อขยายสนามบินสุวรรณภูมิ รถไฟรางคู่ สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมฐานราก มองว่ายังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงมีความมั่นใจว่าภาครัฐจะพยายามผลักดันโครงการต่างๆให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมได้แน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมในปี 59 มีแนวโน้มดีขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าผลงานในปี 58 จะสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) และสามารถเติบโตต่อเนื่องในปี 59 ส่วนมูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทฯ ได้ปรับเป้าเพิ่มอยู่ที่ 800 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 700 ล้านบาท โดยจะสามาถรับรู้รายได้ต่อเนื่องทั้งในปีนี้และปี 59
"ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2558 ปรับลดลงเป็นผลจากงานโครงการต่างๆ ของภาครัฐบาลออกมาล่าช้า และการเลื่อนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมของภาคเอกชน เนื่องจากความล่าช้าในการได้รับใบอนุญาต EIA ของลูกค้า ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายจากการหยุดดำเนินงานของบริษัทย่อย คือ บริษัท เอ็กซิลอน จำกัด เข้ามา ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรลดลง จึงเชื่อว่าในไตรมาส 3/2558 จะเป็นช่วงต่ำที่สุดของปีนี้ แต่ไตรมาส 4/2558 น่าจะเห็นการฟื้นตัวจากงานในมือที่รอรับรู้กว่า 800 ล้านบาท" ดร.ชเนศวร์ กล่าว