กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--24 คูณ 7
เปิดตัว 2 modules เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานแก่ผู้ประกอบการ
เชื่อมั่นระบบไดนาฟลีท จะทำให้เกิดการยกระดับความสามารถของพนักงานขับรถ และประหยัดน้ำมัน
บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายรถบรรทุกหนักวอลโว่ ทรัคส์ รถบรรทุกสายพันธุ์แกร่งจากประเทศสวีเดน แนะนำระบบปฏิบัติการติดตามการเดินรถวอลโว่ ทรัคส์ ไดนาฟลีท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนส่งและลอจีสติคได้เตรียมพร้อมรับกับการเปิดเสรีประชาคมประชาชาติเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ซึ่งจะเริ่มภายในสิ้นปีนี้
นายเทวิน กองจันทร์ดี รองประธานฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าระบบปฏิบัติการติดตามการเดินรถวอลโว่ ทรัคส์ ไดนาฟลีท นี้ จะมีส่วนช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษา รวมไปถึงการติดตามพฤติกรรมการขับรถของพนักงานขับรถได้ในลักษณะ Real Time
"ขณะนี้ เราเหลือเวลาไม่มากที่จะเตรียมตัวเข้าสู่ AEC ซึ่งผู้ประกอบการรายใดที่ยังไม่ได้ปรับตัว ในอนาคตอาจจะมีปัญหาในเรื่องความสามารถในการแข่งขันกับผู้ประกอบการที่จะข้ามเข้ามาให้บริการแก่ลูกค้าของเขาในประเทศไทยก็เป็นไปได้ ในทางตรงกันข้าม หากผู้ประกอบการที่มีการปรับตัวและเตรียมพร้อมแล้ว ก็อาจจะสามารถให้บริการข้ามประเทศได้ด้วยเช่นกัน และเราเชื่อมั่นว่าระบบไดนาฟลีทของเรา จะเป็นตัวช่วยอย่างดีให้กับลูกค้าของเรา" นายเทวิน กล่าว
ระบบไดนาฟลีท เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกออกแบบให้เป็นเครื่องมือช่วยผู้ประกอบการในการลดต้นทุนการดำเนินงาน ด้วยระบบสื่อสารดาวเทียมเชื่อมต่อข้อมูลที่ ระบบควบคุมของรถวอลโว่ ทรัคส์ ที่ติดตั้งระบบไดนาฟลีท กับห้องปฏิบัติการควบคุมการเดินรถ และระบบนี้ยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบด้วยการเชื่อมต่อสัญญาณเข้าสู่ Tablet หรือ Smart Phone ได้ด้วย จึงทำให้ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบข้อมูลที่สำคัญ ๆ ของเดินรถวอลโว่ ทรัคส์ ในแต่ละคัน ได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา
นายเทวิน กล่าวว่าการเปิดตัวไดนาฟลีท ครั้งนี้ เป็นการเปิดตัว 2 โมดูลได้แก่ระบบการติดตามตำแหน่งของรถและระบบรายงานผล ซึ่งบริษัทฯ ได้เริ่มทำตลาดไปแล้ว และได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า
ภายใต้ระบบการติดตามตำแหน่งของรถนั้น ระบบนี้จะมีการ update ตำแหน่งของตัวรถในลักษณะ Real Time ผ่านระบบ Google Map รวมไปถึงการประวัติเส้นทางเดินรถของรถที่ติดตั้งระบบไดนาฟลีท รวมไปถึงสถานะปัจจุบันของรถว่ากำลังวิ่งหรือจอด
สำหรับระบบรายงานนั้น จะเน้นการตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถของพนักงานขับรถ ซึ่งมีผลต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรง โดยจะมีการวิเคราะห์พฤติกรรมของพนักงานขับรถว่าควรจะมีการปรับปรุงอย่างไร นอกจากนี้ ระบบนี้ยังสามารถตรวจการลักขโมยน้ำมันของพนักงานขับรถที่เกิดขึ้นเป็นประจำได้ด้วย
"ผู้ประกอบการสามารถเรียกข้อมูลทั้งในอดีตและปัจจุบันของพนักงานขับรถแต่ละคัน เช่นตลอดเส้นทาง พนักงานขับรถคนดังกล่าวแตะเบรคกี่ครั้ง ปล่อยรถให้ไหลกี่ครั้ง การใช้ Cruise Control การใช้ระบบเบรคเครื่องยนต์ และอื่น ๆ อีก สิ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่มีผลต่อการสึกหรอของรถ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์หรือยางรถยนต์ และผ้าเบรค แต่ที่สำคัญคือมันมีผลโดยตรงต่อการใช้น้ำมัน" นายเทวิน กล่าว
นายเทวิน กล่าวว่าจากรายงานและการประเมินผลการขับขี่ของพนักงานขับรถ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอย่างมากในการพัฒนาและปรับปรุงพฤติกรรมการขับรถของพนักงาน ซึ่งจะมีผลเชื่อมต่อไปยังการฝึกอบรมที่วอลโว่ ทรัคส์ มีความพร้อมในการดำเนินการภายใต้หลักสูตรของวอลโว่ กรุ๊ป โดยเฉพาะ