กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--ทีวี ไดเร็ค
TVD เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3/2558 รายได้รวม 731.06 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 62.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.42 ล้านบาท จากไตรมาสที่ 3/2557 เป็นผลจากธุรกิจค้าปลีกที่มียอดขายลดลงอย่างมาก ตลอดจนการปิดสาขาร้านค้าปลีก TV Direct Showcase จำนวน 8 สาขายังผลให้มีการตัดค่าเสื่อมราคาในครั้งเดียวจำนวนมาก และการตั้งสำรองของสินค้าคงคลังและการตัดจำหน่ายหนี้สูญที่ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินการจนถึงที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าบริษัทจะบริหารค่าใช้จ่ายได้ตามเป้าหมาย แต่สินค้าใหม่ที่จะเข้าทดแทนสินค้าปัจจุบันยังไม่เป็นตามเป้าจึงทำให้ต้นทุนสินค้ายังอยู่ในระดับที่สูงกว่าปกติของบริษัท อย่างไรก็ตามบริษัท ยังมั่นใจยอดขายเข้าเป้า 2,880 ล้านบาท เหตุเพราะธุรกิจ Home Shopping และ Online Shopping เติบโตเกินคาดทั้งยอดขายและผลกำไร
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2558 ปรับตัวลดลง นอกจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยและ กำลังซื้อของ ผู้บริโภคในตลาดลดลงมาก เพราะลูกค้าของบริษัทเป็นลูกค้าต่างจังหวัดมากกว่า 60% อีกทั้งธุรกิจค้าปลีก ยังซบเซาและยอดขายลดลงในอัตราสูงเนื่องจากผู้บริโภคเข้าห้างน้อยลงและพื้นที่ค้าปลีกมีการกระจายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ Community Mall
สำหรับด้านต้นทุนสินค้าที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าปกติเป็นเพราะสินค้าใหม่ที่เตรียมทดแทนสินค้าปัจจุบัน ยังไม่ครบจำนวนตามที่วางแผนไว้ โดยเฉพาะเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากมีกระบวนของการขอใบอนุญาตจากอย. ทั้งสินค้าและการโฆษณาอีกทั้งยอดขายของ Home Shopping มีการเติบโตเกินกว่าเป้าหมาย และธุรกิจ Home Shopping นั้นเป็นการขายสินค้าทั่วไปซึ่งมีต้นทุนมากกว่าธุรกิจ DRTV เดิมของบริษัท จึงมีผลต่อต้นทุนสินค้าที่มีอัตราสูงกว่าปกติ
ในไตรมาสที่สามนี้ บริษัท ฯ ได้ดำเนินการตั้งสำรองสินค้าคงคลังตามนโยบายของผู้สอบบัญชีและเตรียม แนวทางจำหน่ายสินค้าเหล่านั้นแล้ว เชื่อมั่นว่าจะสามารถ Reverse กลับมาได้ไม่น้อยกว่า 80% และเป็น จังหวะที่การดำเนินการฟ้องร้องลูกหนี้หลายรายได้ดำเนินการมาถึงที่สุด จึงตั้งสำรองทั้งหมดสะท้อนงบที่หมดจรด พร้อมสมบูรณ์สำหรับการเติบโตในปี 2016
บริษัทเร่งเดินหน้าตามกลยุทธ์ที่วางไว้ Multiscreen ด้วย 3 ช่องทางหลักได้แก่ 1.Direct Shopping เป็นการขายสินค้าผ่านช่องทางทีวีดิจิตอล ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี แค็ตตาล็อก และไดเร็คเมล์ เป็นต้น ซึ่งยังเป็นช่องทางหลัก 2.Online Shopping เป็นการพัฒนาโมบายแอปพลิเคชั่น และเว็บไซต์ รวมถึงการขายผ่านโซเชียลมีเดียทุกช่องทางตามแนวโน้มผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือที่ขยายตัวต่อเนื่องส่งผลให้สื่อออนไลน์เป็นอีกแพลตฟอร์มหลักเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในยุคนี้ ซึ่งในไตรมาสที่ 3 นั้นออนไลน์เติบโตอย่างมีนัยยะ โดยเฉพาะผลกำไร และ 3.Retail Shopping เป็นการจำหน่ายสินค้าผ่านร้านค้าปลีก TV Direct Showcase ทั้ง 81 สาขา ปรับลด จำนวนสาขาที่ไม่สร้างผลกำไรตลอดจนลดพื้นที่ในบางสาขาและเพิ่มพื้นที่ในสาขาที่ดี อีกทั้งยังเตรียมเปิด สาขาใหม่เพิ่ม 3 สาขา ภายในสิ้นปีนี้
"สำหรับเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้บริษัทคาดว่าจะทำได้ 2,888 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนมี รายได้รวม 2,563 ล้านบาท ตามการขยายตัวของ Home Shopping นอกจากนี้ยังจะเริ่มดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยแบบเต็มรูปแบบที่จะเริ่มเห็นผลในไตรมาส 4/2558 และเน้นพัฒนาสินค้า ที่เป็น House Brand มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทมีแนวโน้มสูงขึ้น" นายทรงพล กล่าวในที่สุด