กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--อาร์เอส
เรียกว่าใช้ชีวิตมาคุ้มสำหรับร๊อกเกอร์รุ่นใหญ่อย่าง "แมว-จิระศักดิ์ ปานพุ่ม" จากชีวิตที่เคย "เสเพล" ทั้งเหล้า ทั้งบุหรี่ และ ยาเสพติด วันนี้เดินทางสู่ทาง "ธรรมมะ" โดยการชักนำของ "คุณแหนว อาจารีย์" ภรรยาคนปัจจุบัน ซึ่งงานนี้เจ้าตัวได้เปิดใจในรายการ "เปิดโปง" ทาง "ช่อง 2" ข่าวลึก บันเทิงร้อน ว่า "เหมือนตายแล้วเกิดใหม่" ทุกวันนี้ละทิ้งสิ่งไม่ดีทุกอย่าง มาตั้งมั่นอยู่กับคำว่า "สติ" ที่ผ่านมาบทเรียนผิดพลาดถือว่าเป็นครู
เปลี่ยนมานับถือพุทธ ?
"สนใจธรรมมะเนี่ยคิดว่าประมาณ 6-7 ปีได้ ก่อนหน้านี้ผมนับถือศาสนาคริสต์นะครับ ที่เปลี่ยนเนี่ยไม่ได้บอกว่ามีอะไรดีกว่า หรือเกิดเรื่องอะไรขึ้น ไม่เกี่ยว บังเอิญว่าเราได้ไปพบเจอแนวทางบางอย่าง ที่เหมือนกับว่าเราค้นหา แต่เราไม่รู้ตัวว่าเราค้นหา แล้วมันได้ไปเจอพอดีเราก็เลยรู้สึกประทับใจตรงนั้น ก็เลยตัดสินใจศึกษาแนวทางนี้มาตลอด ตั้งแต่ 6 ปีที่ผ่านมา"
อะไรทำให้เราเปลี่ยนใจมาศึกษาธรรมะ ?
"สิ่งที่ผ่านมาเนี่ย ผมเป็นคนที่มีอาจารย์ไม่ได้ เรียนอะไรตามโรงเรียนก็ไม่ได้ ดนตรีเป็นสิ่งที่ได้มาด้วยตัวเอง ไปเรียนตามโรงเรียนก็ไฟไหม้(หัวเราะ) ผมไม่ได้ทำอะไรนะครับ(หัวเราะ) มันเหมือนโชคไม่ค่อยดีกับการที่ไปเรียนรู้กับสถาบัน เป็นคนที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง แล้วพอชีวิตมันผ่านมาถึงวัย 30 กว่าๆ ใกล้จะ 40 เนี่ยมันเหมือนเรียนรู้ชีวิตมาความเละเทะ อะไรที่บอกว่าดีมันดียังไงก็ไปศึกษา ไม่ดียังไงก็เข้าสัมผัส เขาบอกเหล้าไม่ดี ยาเสพติดไม่ดีมันจริงเหรอ(หัวเราะ)"
เราก็ลองหมด ?
"ครับ ลองหมดครับ ไม่ฉีดครับไม่ฉีด(หัวเราะ) ไปสัมผัส ไปผ่านแวดวงตรงนั้นแล้วมันทำให้ พอถึงจุดหนึ่งมันทำให้รู้สึกว่าเราโชคดีมากที่เรายังมีโอกาสได้คิดพอแล้วแหละ บางคนไม่มีโอกาสที่จะได้คิดตรงนั้น อาจจะเกิดอะไรขึ้นไปก่อน เสียชีวิตก็ว่ากันไป แต่ผมโชคดี พอคิดได้ว่าเหนื่อยว่ะ เหนื่อยกับการที่ไปปาร์ตี้ ไปเจอเพื่อน ไปอะไรที่แบบมันใช้ชีวิตแบบนั้น ก็เลยได้นั่งคิด แล้วประกอบกับอันนี้ขอพูดเลยผมว่าหลายคนไม่ค่อยกล้าถามเรื่องครอบครัวที่ผ่านมา ความเละเทะของเรามันคือส่วนใหญ่เลยที่ทำให้เกิดความล้มเหลวของครอบครัวในครั้งนั้น ก็เลยทำให้หันมาสู่ทิศทางทิศทางหนึ่ง ซึ่งมีคนชักชวนไป เพื่อนฝูงที่ดีๆ คนรอบข้างที่น่ารักก็พาไปเจอสิ่งนั้น มันทำให้เรารู้สึกว่าเรามีที่ยึดเกาะแล้ว ก็เริ่มจากตรงนั้นก็เลยรู้สึกว่าพบทางที่จะทำให้ชีวิตสว่างขึ้นแล้ว"
ใครเป็นคนนำเรามาสู่จุดเปลี่ยนนี้ ?
"คุณแหนวครับ คุณแหนวคือภรรยาคนปัจจุบัน ตอนนั้นยังเป็นแฟนอยู่พาไปไหนก็ไป(หัวเราะ) พาไปพบกับหลวงตามหาบัว แล้วก็ได้ฟังเทศน์ของท่าน ตัวเองก็ไม่ได้รู้ภาษาของทางพระหรอกนะครับ แต่ท่านเทศน์ด้วยภาษาที่เรียบง่าย เราก็ฟังไปเรื่อย แล้วรู้สึกเย็น นิ่งกับการที่ได้ฟังตรงนั้น แล้วก็รู้สึกอยากมาอีก หลังจากนั้นก็ได้เจอกับพระท่านที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงตาท่านอยู่ที่ราชบุรี หลวงพ่อสงบ ได้ศึกษาเพิ่มเติมกับท่าน"
ได้ข่าวว่าไปแอบบวชมาด้วย ?
"ครับพอหลังจากนั้น หลังจากได้พบกับหลวงตา แล้วก็มาเจอกับหลวงพ่อสงบ ก็ศึกษามาเรื่อยๆ เรารู้สึกว่าเรามองย้อนกลับไป สิ่งที่ผ่านมาที่มันเกิดขึ้นมันคือเรื่องสติอย่างเดียวเลยนะ เพราะว่าเราไม่เคยใส่ใจกับคำว่าสติเลย เหล้ามาสติกระเด็นไปโน้น(หัวเราะ) ยามาสติกระเด็นไปนี่(หัวเราะ) อะไรก็แล้วแต่มันทำลายสติไปหมด เราไม่มีโอกาสได้ใช้มันเลยครับ พอได้มาเจอกับการคุมสติ การโฟกัสมันคือการนั่งสมาธินี่แหละครับ ไม่ได้นั่งให้ไปเห็นอะไร แค่รู้สึกว่าเอาสติตัวเองให้นิ่ง ฝึกไปเรื่อยๆ เราก็มองเห็นภาพความชั่วร้ายของตัวเองเต็มไปหมด(หัวเราะ) ได้เห็นอดีตที่ผ่านมามันคือครูเรานี่เองที่สอนเรา แล้วเราก็เอามาเป็นบทเรียนแล้วอย่าริอาจไปทำอีก"
นานไหมกว่าเราจะเรียกสติกลับมาได้ ?
"3 ปี กับการศึกษาธรรมะ แล้วก็การไปพบกับหลวงพ่อ ฝึกนั่งกรรมฐานไปเรื่อยๆ"
ยากไหมกับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ?
"ยากมากครับ มันไม่ใช่แค่เรื่องของธรรมมะที่เพิ่มเติมเข้ามา มันคือเรื่องของการเปลี่ยนเวลา เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ จากที่นอนเช้า คนอื่นเขานอนกลางคืน มาเปลี่ยนชีวิตเป็นนอนหัวค่ำ แล้วตื่นเช้า เพราะเราเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ เลิกทุกอย่าง มาออกกำลังกาย เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะคุณแหนวบอกไว้ว่าถ้าไม่เลิก เราคงไม่ได้อยู่ด้วยกัน(หัวเราะ) แต่ตอนนั้นก็ยังมีแอบนิดๆ นะครับ งานสังสรรค์ขอไวน์แก้วหนึ่ง แต่คุณแหนวเขาก็มีกุศโลบายพาไปเยี่ยมญาติที่ป่วยเป็นเส้นเลือดสมองแตก แล้วก้หาหนังสือชื่อตีบตันแตกตาย(หัวเราะ) มาให้เราอ่าน แล้วก็พาไปบำบัดจิตด้วยการไปเจอหลวงพ่อ เขาทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เราตรงนี้ ผมเรียกว่าเกิดใหม่แล้วกัน"
ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ "เปิดโปง" ได้ทาง "ช่อง 2" ข่าวลึก บันเทิงร้อน ทุกวัน จันทร์-ศกร์ เวลา 7.00/14.00/22.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 7.00/15.30/22.00 น.และติดตามความเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ที่ facebook.com/thaich2