กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์
คุณอาจเคยเห็นรถฟอร์ด มัสแตงโลดแล่นบนท้องถนน เคยเห็นความคล่องแคล่วของฟอร์ด เฟียสต้า ท่ามกลางการจราจรคับคั่งในเมืองใหญ่ และอาจเคยได้ยินเสียงกระหึ่มของรถฟอร์ด จีที ในสนามแข่ง แต่คุณทราบหรือไม่ว่าภายใต้รูปโฉมที่แตกต่างกัน รถทั้งสามรุ่นนี้มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่ประการหนึ่ง นั่นคือ ขุมพลังแห่งความเร้าใจจากเทคโนโลยีเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ของฟอร์ด
โดยทั่วไปเรามักมีความเชื่อว่า ขนาดของเครื่องยนต์คือเครื่องบ่งบอกประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์นั้น และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเทคโนโลยีอีโค่บูสท์จึงทำให้หลายคนประหลาดใจ เพราะแม้ว่าเครื่องยนต์อีโค่บูสท์จะมีขนาดเล็กกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป แต่สามารถทำงานได้อย่างทรงพลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ และยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างดีเยี่ยม เคล็ดลับที่แฝงอยู่ภายใต้ความทรงพลังของเครื่องยนต์ฟอร์ดอีโค่บูสท์เกิดจากการทำงานร่วมกันของระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง (direct fuel injection) เทอร์โบชาร์จ (turbocharging) และวาล์วแปรผัน (variable valve timing) นอกจากนี้ ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้รถฟอร์ดขับเคลื่อนไปได้อย่างนุ่มนวล นั่นคือซอฟท์แวร์ที่ทันสมัยที่สุดชุดหนึ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่สำคัญเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ยังโดดเด่นในเรื่องการประหยัดพลังงาน และสามารถทำงานได้อย่างทรงประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ทั่วๆ ไป เรียกได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ 'เล็กแต่ทรงพลัง' อย่างแท้จริง
หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญและน่าจดจำที่สุดเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ก็คือ การแสดงสมรรถนะในการขับเคลื่อนรถฟอร์มูล่า ฟอร์ด ที่สนามนูบวร์กริง (Nürburgring) โดยรถที่ได้รับการปรับจูนเป็นพิเศษพร้อมติดตั้งเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ขนาด 1.0 ลิตร ทำสถิติความเร็วสูงสุดได้เป็นอันดับที่ 11 ในประวัติศาสตร์การทดสอบรถบนสนามแข่งระดับตำนานของประเทศเยอรมนี โดยใช้เวลาเพียงแค่ 7 นาที 22 วินาที เอาชนะสถิติของรถอย่างลัมโบกินี อเวนทาดอร์ (Lamborghini Aventador) และเฟอร์รารี่ เอ็นโซ่ (Ferrari Enzo) ไปได้อย่างน่าประทับใจ
ฟอร์ดยังเตรียมนำเครื่องยนต์อีโค่บูสท์กลับมาแสดงศักยภาพในสนามแข่งอีกครั้ง โดยในปี 2016 ฟอร์ดจะนำรถฟอร์ด จีที ซูเปอร์คาร์ รุ่นใหม่ ลงแข่งขันในรายการ แอลเอ็ม จีทีอี โปร คลาส (LM GTE Pro class) บนสนามแข่งเลอ ม็องส์ (Le Mans) เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งชัยชนะของฟอร์ด ในการแข่งขัน เลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง (24 Hours of Le Mans) เมื่อปี 1996 สำหรับรถฟอร์ด จีที ซูเปอร์คาร์ ใหม่ นอกจากจะได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ขั้นสูงและใช้คาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบาเป็นโครงสร้างตัวถังแล้ว รถซูเปอร์คาร์คันนี้ ยังติดตั้งเครื่องยนต์ฟอร์ดอีโค่บูสท์ วี 6 ทวินเทอร์โบ รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งนับได้ว่าเป็นเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ฟอร์ดเคยผลิตเพื่อวางจำหน่าย
สำหรับผู้ที่สนใจอยากทดลองสัมผัสประสบการณ์การทำงานของเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ อันทรงพลัง คุณไม่จำเป็นจะต้องมีรถฟอร์ด จีที ซูเปอร์คาร์ ใหม่ ไว้ในครอบครอง เพราะในปลายปีนี้ ฟอร์ดจะมีเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ติดตั้งอยู่ในรถกว่า 20 รุ่นที่วางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็นรถฟอร์ด เฟียสต้า ไปจนถึงฟอร์ด มัสแตง สำหรับประเทศไทย ฟอร์ดนำเสนอเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ขนาด 1.0 ลิตร ในรถฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่
หากท่านต้องการทราบข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ฟอร์ดและเครื่องยนต์ อีโค่บูสท์ ในประเทศไทย กรุณาคลิกที่ www.ford.co.th