กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--พลัส พร็อพเพอร์ตี้
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เผยผลสำรวจอสังหาริมทรัพย์ จ.ภูเก็ต เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน หลังจากชะลอตัวมากว่า 2 ปี พบคอนโดมิเนียมระดับบนราคา 100,000 บาท/ตร.ม. ยังเติบโตดี ส่วนคอนโดพร้อมอยู่ราคาขยับต่อเนื่องล่าสุดแตะ 89,548 บาท/ตรม. หรือเพิ่มขึ้น 5% ชี้แนวโน้มเป็นขาขึ้น เหตุมีปัจจัยบวกหนุน ทั้งนโยบายภาครัฐเร่งพัฒนาด้านคมนาคมหนุนการท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ อีกทั้งอยู่ในพื้นที่เมืองตากอากาศที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและต่างชาติ แนวโน้มราคาเติบโตดีให้ผลตอบแทนคุ้มค่า
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่าฝ่ายวิจัยของบริษัทได้ทำการสำรวจสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ จ.ภูเก็ต พบว่าภาพรวมขยายตัวในอัตราที่ลดลง อย่างไรก็ตามในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียม พบว่าคอนโดมิเนียมระดับบนที่มีราคา 100,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป ในทำเลติดชายหาดที่มีชื่อเสียงยังเติบโตได้ดี เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อจึงได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมาสินค้าจากผู้ประกอบการรายใหญ่‹ส่วนใหญ่จะได้รับการตอบรับที่ดีกว่าตลาดและยังยืนหยัดอยู่ได้แม้สถานการณ์โดยรวมชะลอตัว โดยผู้ประกอบการรายใหญ่บางราย มีอัตราการดูดซับคอนโดมิเนียมเฉลี่ย 6.47 ยูนิตต่อเดือน ในขณะที่อัตราดูดซับเฉลี่ยรวมทั้งตลาดอยู่ที่ 5.09 ยูนิต จึงสะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังไม่หดตัวตามกระแสเศรษฐกิจ เพียงแต่รอความเชื่อมั่นให้กลับคืนสู่ตลาดเท่านั้น ดังนั้นสถานการณ์ที่ผ่านมาจึงเป็นการชะลอเพียงชั่วคราวเท่านั้น และหากภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นแน่นอนว่าอสังหาฯ จ.ภูเก็ต จะสามารถกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
"ภูเก็ตเป็นอีกเมืองตากอากาศชายทะเลที่น่าสนใจ มีอุปทานคอนโดมิเนียมเสนอขายในตลาด 16,241 ยูนิต พบห้องชุดสร้างเสร็จ 10,452 ยูนิต จาก 53 โครงการ (สัดส่วน 64% ของอุปทานทั้งตลาด) โดยจำนวนอุปสงค์ในคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่เติบโตสูงขึ้นจากรอบก่อน 38% มาอยู่ที่ 7,166 ยูนิต และมีอัตราการตอบรับเฉลี่ย 69% ในส่วนของราคาขายในตลาดคอนโดมิเนียม ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 85,314 บาทต่อตารางเมตร มีการขยายตัวสูงขึ้นจากปีก่อน 4% และในส่วนของห้องชุดสร้างเสร็จพร้อมอยู่พบว่ามีราคาซื้อขายอยู่ที่ 83,110บาทต่อตารางเมตร ซึ่งราคาขายเฉลี่ยของห้องชุดพร้อมอยู่ค่อนข้างใกล้เคียงกับราคาขายเฉลี่ยรวมในตลาด ทำให้ปัจจุบันมีการนำห้องชุดกลับมาขายใหม่ในรูปแบบรีเซลมีราคาปรับสูงขึ้นกว่า 5% จากราคาเสนอขายรวมเฉลี่ยในปัจจุบัน มาอยู่ที่ 89,548 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งระดับราคาเฉลี่ยนี้ ส่งผลให้ราคาขายต่อห้องจะอยู่ที่ 2-3 ล้านบาท เป็นโครงการพร้อมอยู่พร้อมโอนและได้รับอานิสงฆ์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของรัฐ จึงถือได้ว่าเป็นช่วงจังหวะที่ดีของผู้บริโภคเพราะนอกจากมาตรการรัฐแล้ว ผู้ประกอบการต่างพากันจัดแคมเปญต่างๆ ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าจะช่วยดูดซับซัพพลายคอนโดพร้อมอยู่โดยเฉพาะประเภทซิตี้คอนโดที่มีอยู่ในตลาดได้เป็นอย่างดี และคาดว่าภายใน 2-3 ปี หากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ราคาคอนโดฯ พร้อมอยู่ รวมทั้งตลาดรีเซล คาดว่าจะปรับราคาสูงขึ้นอีก"
ปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะเข้ามากระตุ้นให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ของ จ.ภูเก็ต มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นจากปัจจุบันคือนโยบายภาครัฐที่ให้ความสำคัญในการผลักดันให้จังหวัดมีศักยภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่าในแต่ละปีภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศกว่า 6 ล้านคน เป็นจังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) สูงเป็นอันดับที่สามของประเทศ และกำลังดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกว่า 13 โครงการ คิดเป็นมูลค่าราว 42.3 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีหลายโครงการที่ภาครัฐกำลังดำเนินการเช่น โครงการขยายสนามบินภูเก็ต และทางลอดแยกดาราสมุทรที่เปิดดำเนินการแล้วในปี 2558โครงการขยายทุ่นจอดเรือยอชต์ และทางลอดสี่แยกสามกอง-โลตัส เปิดดำเนินการปี‚ 2559 โครงการทางลอดแยกบางคูและห้าแยกฉลอง เปิดดำเนินการปี‚ 2560 ทางลอดแยกสนามบินภูเก็ต เปิดดำเนินการปี‚ 2562โครงการรถไฟฟ้าท่านุน-ห้าแยกฉลอง และโครงการเจาะอุโมงค์ทางด่วนกะทู้Œ- ป่าตอง เปิดดำเนินการปี‚ 2564เป็นต้น อีกทั้งการมีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะยิ่งส่งเสริมให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองตากอากาศเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ที่จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุน และนักท่องเที่ยวจากทั้งในและนอกประเทศต่างหมายตาครอบครองกันเป็นอย่างมาก
"อสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เป็นทำเลที่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศชื่นชอบ ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ อีกทั้งภูเก็ตมีข้อจำกัดในเรื่องที่ดินเพื่อการพัฒนาสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่อย่างจำกัด หากอสังหาฯ เติบโตอย่างรวดเร็วอาจเกิดภาวะขาดแคลนที่ดิน ซึ่งจะผลักดันให้มูลค่าอสังหาฯ สูงขึ้น จึงเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนชาวจีน, ชาวญี่ปุ่น และชาวเอเชีย ตัดสินใจลงทุนในคอนโดฯ พร้อมอยู่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยความคุ้มค่าด้านราคา และผลตอบแทนที่จะได้รับจากการปล่อยเช่าในอนาคต โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นส่งผลให้ยอดจองที่พักในโรงแรมต่างๆเริ่มสูงขึ้น และการขายคอนโดมิเนียมในหาดที่มีชื่อเสียง เช่น หาดป่าตอง หาดลายัน หาดสุรินทร์ และ หาดไม้ขาว ได้รับการตอบรับที่ดี" นายภูมิภักดิ์ กล่าว