กรุงเทพฯ--20 พ.ย.-- ก.ล.ต.
สำนักวิจัย ก.ล.ต.เผยบทวิจัยมีจำนวนบริษัทที่มีศักยภาพที่จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีถึง 2,915 บริษัท และหากนำเข้าจดทะเบียนจะเพิ่มมูลค่าตลาดรวมได้ถึง 1.7 เท่า
สำนักวิจัยและพัฒนาตลาดทุนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)จัดทำบทวิจัยถึงบทบาทในการระดมทุนในตลาดทุนไทยโดยกล่าวว่าการขยายบทบาทการระดมทุนยังมีโอกาสอีกมาก
หากพิจารณาจากเกณฑ์ด้านทุนจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจำนวนวิสาหกิจที่เข้าเกณฑ์ ณ สิ้นปี 2542 มีจำนวนบริษัทที่มีศักยภาพเข้าเกณฑ์ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยมีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 200 ล้านบาท และยังไม่เคยจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวนถึง 2,915บริษัท คิดเป็น 89.4% ของจำนวนบริษัททั้งหมด
ทั้งนี้คิดเป็นทุนจดทะเบียนรวมกันถึง 2,211,418.4ล้านบาท คิดเป็น 62`%ของทุนจดทะเบียนบริษัททั้งหมด
หากนำบริษัทที่มีศักยภาพดังกล่าวทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสามารถขยายมูลค่าตลาดรวมได้ถึงอีก 1.7 เท่าของขนาดในปัจจุบัน
เมื่อมองจากปริมาณทุนจดทะเบียน ภาคธุรกิจที่มีศักยภาพที่จะมาระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯมากที่สุดมากที่สุดอันดับหนึ่งได้แก่ ภาคอุตสาหกรรมคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด อสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง และบริการทางธุรกิจ 20.8% และการค้าส่ง ค้าปลีก 16.8%
หากนับรวมทุนจดทะเบียนของบริษัทที่มีศักยภาพทั้งหมด เข้ากับทุนจดทะเบียนทั้งหมดของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสามารถขยายขนาดของตลาดหลักทรัพย์ฯได้อีกไม่เกิ167.34%หรือประมาณ 1.7 เท่าของขนาดปัจจุบัน โดยมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้นไม่เกิน 3,532,909 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในการวางนโยบายเพื่อขยายบทบาทของตลาดทุนนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ระบบตลาดทุนมีประสิทธิผลอย่างน้อย 2 ประการ คือ ระบบเปิดเผยข้อมูลการลงทุน และความรู้เกี่ยวกับการลงทุนของนักลงทุนในระบบ
นอกจากนั้ยังควรพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการขยายบทบาทของระบบตลาดทุนไปสู่วิสาหกิจที่มีขนาดเล็กลง และในภาคธุรกิจที่มีความหลากหลายกว่าในปัจจุบัน--จบ--
-สส-