กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--กรมการประกันภัย
ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่ายังมีผู้สงสัยว่าการประกันภัยรถภาคสมัครใจและภาคบังคับหรือ พ.ร.บ. มีส่วนซ้ำซ้อนกันหรือไม่? จึงขอชี้แจงว่าไม่มีความซ้ำซ้อนกัน ดังนี้
การประกันภัยรถภาคบังคับ จะให้ความคุ้มครองเฉพาะชีวิตและร่างกายเท่านั้น โดยในกรณีบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 50,000 บาท/ราย และถ้าเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะ จะได้รับค่าสินไหมทดแทน 80,000 บาท/ราย ซึ่งเบี้ยประกันภัยที่กรมการประกันภัยประกาศคือ จะต้องไม่เกิน 920 บาท สำหรับรถเก๋ง และ 1,150 บาท สำหรับรถบรรทุกส่วนบุคคล (ปิกอัพ) เป็นต้น
การประกันภัยรถภาคสมัครใจ ทั้งประเภท 1-3 จะให้ความคุ้มครองทั้งชีวิตและร่างกาย ในส่วนที่เกินกว่าของการประกันภัยรถภาคบังคับหรือ พ.ร.บ. โดยให้ความคุ้มครองไปถึงทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และความเสียหายของตัวรถที่เอาประกันภัยด้วย ดังนี้
ประเภท 1 (การประกันภัยชั้น 1) ให้ความคุ้มครองมากที่สุดคือ
- คุ้มครองชีวิต ร่างกาย ของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ ในส่วนที่เกินจากภาค พ.ร.บ.
- คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- คุ้มครองความเสียหายของตัวรถยนต์คันที่เอาประกันภัย
- คุ้มครองรถหายและไฟไหม้ตัวรถยนต์คันที่เอาประกันภัย
ประเภท 2 (การประกันภัยชั้น 2) ได้รับความคุ้มครอง คือ
- คุ้มครองชีวิต ร่างกาย ของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ ในส่วนที่เกินจากภาค พ.ร.บ.
- คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- คุ้มครองรถหายและไฟไหม้ตัวรถยนต์คันที่เอาประกันภัย
3. ประเภท 3 (การประกันภัยชั้น 3) ให้ความคุ้มครองเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ดังนี้
- คุ้มครองชีวิต ร่างกาย ของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ ในส่วนที่เกินจากภาค พ.ร.บ.
- คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
ในการกำหนดเบี้ยประกันภัยภาคสมัครใจจะคำนวณจากกรณีบาดเจ็บและสูญเสียชีวิตเฉพาะส่วนความคุ้มครองตั้งแต่ 50,001 บาท และ 80,001บาท ขึ้นไปเท่านั้น ตัวอย่างเช่น รถยนต์ TOYOTA SOLUNA (ส่วนบุคคล) ขนาด 1,500 ซีซี ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจประเภท 3 โดยมีความคุ้มครองแยกตามการประกันภัย คือ คุ้มครองชีวิต ร่างกาย ของบุคคลภายนอก ส่วนเกินจาก พ.ร.บ.อีก 100,000 บาท และคุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 200,000 บาท/ครั้ง จะมีการคิดเบี้ยประกันภัยรวมสูงสุดไม่เกิน 2,058 บาท (ไม่รวมภาษีอากร) เมื่อรวมกับการประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.ด้วย จะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยรวมทั้งสิ้น 3,978 บาท (2,058 + 920)
ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร กล่าวเพิ่มเติมว่าในอนาคตอาจจะมีการปรับปรุงให้การประกันภัยรถภาคบังคับให้รวมไปถึงความคุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอกเช่นในต่างประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มของประชาชน โดยกระทรวงพาณิชย์จะกำหนดวิธีการคิดเบี้ยประกันภัย เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชนจนเกินไป
กล่าวโดยสรุป การประกันภัยรถภาค พ.ร.บ. และภาคสมัครใจจะไม่มีความซ้ำซ้อนกันเลยทั้งในแง่ความคุ้มครองและเบี้ยประกันภัย--จบ--
-อน-