กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--IR PLUS
บมจ. โรงพยาบาล ลาดพร้าว หรือ LPH เร่งสปีดบริหารงานภายหลังการเข้าจดทะเบียนใน SET โชว์ผลงานศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 5 ศูนย์ เริ่มสร้างรายได้ "ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช" ซีอีโอ คาดไตรมาส 4/58 รายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 15-20% จากศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ซึ่งมากกว่าเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 15%
ดร. อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทฯ ว่ายังคงยืนเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15% โดยคาดว่าในไตรมาสที่ 4 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นโดดเด่นจากช่วงที่ผ่านมาของปี 2558 โดยมาจากศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 5 ศูนย์ ที่บริษัทฯ ได้ลงทุนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่ารายได้ในไตรมาส 4/2558 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 15-20% ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตสูงขึ้นด้วยจากภาระต้นทุนทางการเงินและต้นทุนด้านบุคลากรที่ลดลงด้วย แต่อย่างไรคาดว่าทั้งปี 2558 กำไรสุทธิจะใกล้เคียงกับปี 2557
นอกจากนี้มีแผนการใช้ประโยชน์บนที่ดินเปล่าซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ ซึ่งอยู่ในซอยลาดพร้าว 126 เนื้อที่รวมกว่า 11 ไร่ ปัจจุบันพื้นที่ส่วนหนึ่งประมาณ 4 ไร่ ให้สถานศึกษาเช่า เพื่อดำเนินกิจการประเภทโรงเรียนสองภาษา คงเหลือพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ ที่สามารถนำมาพัฒนาเพื่อเพิ่มรายได้และผลตอบแทนการลงทุน โดย บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของการพัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพ โดยสร้างสนามกีฬาหญ้าเทียมระดับมาตรฐานสากล, Yoga, Fitness Center, SPA และร้านอาหาร คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติก่อนการลงทุน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการปรับปรุงพื้นที่และก่อสร้างในปี 2559 และสามารถเปิดดำเนินการในปี 2560
"ไตรมาส 4/58 คาดว่าผลประกอบการจะโดดเด่นกว่าทุกไตรมาสที่ผ่านมา เพราะศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ทั้ง 5 ศูนย์ เริ่มสร้างรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยว่า 15-20% ในไตรมาสนี้และทั้งปีคาดว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ร้อยละ 15" ดร.อังกูรกล่าว
ด้านความคืบหน้าในการพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Excellent Center) 5 ศูนย์ ตามแผนงาน ประกอบด้วย 1. ศูนย์โรคตาและศูนย์เลสิคลาดพร้าว ปรับปรุงสถานที่ในส่วนการรับบริการผู้ป่วยนอกแล้วเสร็จ เปิดให้บริการแล้ว พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครบ ทุกสาขาโรคตา อาทิ ผ่าตัดจอประสาทตา น้ำวุ้นตา ด้านกระจกตา ต้อหิน เลสิค (LASIK) พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องมือที่มีศักยภาพในการตรวจวินิจฉัย อาทิ เครื่องตรวจภาพตัดขวางจอประสาทตาและขั้วประสาทตาด้วยคอมพิวเตอร์ เครื่องมือผ่าตัดจอประสาทตา ทั้งนี้ได้ปรับปรุงห้องผ่าตัด ห้องเลสิค ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ ภายในปลายปีนี้ 2. ศูนย์ผิวหนังและความงาม ด้วยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้การรักษาและดูแลด้านผิวหนังและความงามด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยและมีศักยภาพ ปัจจุบันผ่านขั้นตอนการออกแบบและพร้อมสำหรับการปรับปรุงพื้นที่คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในไตรมาสที่ 1/2559 3. ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ มีแผนงานการปรับปรุงพื้นที่ การให้บริการแบบ One Stop Service และเพิ่มทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และครบครันด้วยเครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัย รองรับผู้มาใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น 4. ศูนย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนงานการปรับปรุงพื้นที่ให้ทันสมัย พร้อมทั้งเพิ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ แพทย์เฉพาะทางด้านผ่าตัดข้อ (Arthroplasty) และแพทย์ศัลยกรรมกระดูกด้านการผ่าตัดกระดูกสันหลัง และเพื่อรองรับการให้บริการโรคกระดูกของผู้สูงอายุ เช่น เข่าเสื่อม กระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติด้านกระดูก ข้อ เส้นเอ็น เส้นประสาท และกล้ามเนื้อทุกชนิด รวมทั้งผู้ได้รับการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา โดยมีแผนในการจัดซื้อเครื่องมือสำหรับผ่าตัดส่องกล้องทางกระดูกและข้อใหม่ที่ทันสมัยมากขึ้น โดยจะสามารถนำมาให้บริการได้ภายในไตรมาสที่ 1/2559 5. ศูนย์สมองและระบบประสาท ปรับปรุงพื้นที่ให้ทันสมัย รองรับผู้มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น และมีแผนสรรหาอายุแพทย์ทางระบบประสาทและสมอง และศัลยแพทย์ด้านระบบประสาทและสมอง มาให้บริการเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งจัดซื้อเครื่องตรวจเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์ (CT Scan) รุ่นใหม่ที่ทันสมัยมากขึ้น และจัดซื้อเครื่องตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) โดยมีแผนจะดำเนินการจัดซื้อมาให้บริการได้ภายในไตรมาสที่ 2/2560
นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างพิจารณาความเป็นไปได้ของการขยายศูนย์การแพทย์เฉพาะทางสู่ความเป็นเลิศเพิ่มอีก 3 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์หัวใจ ศูนย์สุขภาพสตรี และศูนย์กุมารเวช เนื่องจากมีอัตราการเติบโตของผู้มาใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการขยายศักยภาพการให้บริการของทั้ง 3 ศูนย์ ดังกล่าว จะสามารถทำให้รายได้ของบริษัทฯ มีการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นในปี 2559 อีกด้วย