กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ด้วยข้อตกลงในการซ่อมบำรุงชิ้นส่วนของฝูงบินโบอิ้ง 777 ซึ่งมีมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ข้อตกลงระยะเวลา 10 ปีนี้ มีผลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป จะทำให้สายการบินเอทิฮัดและพันธมิตรที่สายการบินเข้าถือหุ้นสามารถเข้าถึงแหล่งชิ้นส่วนขนาดใหญ่ทั่วโลกที่ให้บริการโดยของแอร์ฟรานซ์ฝ่ายซ่อมบำรุงของแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ซึ่งคือแอร์ฟรานซ์ อันดัสทรีส์ และ เคแอลเอ็ม เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เมนเทนแนนซ์ (Air France Industries KLM Engineering and Maintenance : AFI KLM E&M) สำหรับเครื่องบินลำตัวกว้างผ่านโครงการ 777 คอมโพเนนท์ เซอร์วิสเซส (Component Services Program : CSP) ซึ่งดำเนินการร่วมกับโบอิ้ง ในตอนนี้สายการบินเอทิฮัดปฏิบัติการด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777 ซึ่งมีทั้งฝูงบินโดยสารแบบบินระยะไกล (Long Range : LR) และแบบขยายระยะการบิน (Extended Range : ER) รวมถึงเครื่องบินขนส่งสินค้า จำนวนรวมทั้งหมด 33 ลำ
ข้อตกลงด้านการซ่อมบำรุงดังกล่าวเป็นบทสรุปล่าสุดของความร่วมมือระหว่างสายการบินเอทิฮัดและแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็มที่เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้าในการใช้เที่ยวบินร่วมบนเที่ยวบินในเครือข่ายการบินทั้งหมดผ่านฐานการบินที่กรุงอาบู ดาบี ปารีส และอัมสเตอร์ดัม ข้อตกลงเที่ยวบินร่วมที่หลากหลายนี้ทำให้สายการบินเอทิฮัดและแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็มสามารถให้บริการเที่ยวบินร่วมสำหรับจุดหมายปลายทางต่างๆทั้งในยุโรป ตะวันออกกลาง เอเชียและออสเตรเลีย
มร. เจฟฟ์ วิลกินสัน รองประธานฝ่ายเทคนิคของสายการบินเอทิฮัดกล่าวว่า "ในบทสรุปล่าสุดของความร่วมมือกับแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็มนั้น เรามั่นใจว่าแอร์ฟรานซ์ อินดัสทรีส์ เคแอลเอ็ม เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เมนเทนแนนซ์ จะสามารถจัดหาชิ้นส่วนสำหรับเครื่องบิน 777 ซึ่งเป็นส่วนสำคัญเหมือนกระดูกสันหลังของฝูงบินที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้ น่าเชื่อถือ และมีประสิทธิภาพทางด้านต้นทุนของเรา
"ความร่วมมือนี้สร้างขึ้นจากข้อตกลงเชิงพาณิชย์อันยอดเยี่ยมที่เราได้ร่วมกับแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็มตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วยเข้ามาเสริมสร้างประสิทธิภาพในระดับสูงตามที่จำเป็นในสภาพล้อมที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน"
มร. ฟรังค์ เทอร์เนอร์ รองประธานบริหารฝ่ายวิศวกรรมและซ่อมบำรุงของ แอร์ฟรานซ์ เคแอลเอ็ม เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เมนเทนแนนซ์ กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สายการบินเอทิฮัดมอบความเชื่อใจในบริการของเรา ข้อตกลงนี้จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันทางด้านการให้บริการชิ้นส่วนเครื่องบินและ ศักยภาพของแอร์ฟรานซ์ อินดัสทรีส์ และเคแอลเอ็ม เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เมนเทนแนนซ์ที่สามารถนำเสนอโซลูชั่นด้านการซ่อมบำรุงได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า"
ข้อตกลงนี้ทำให้สายการบินเอทิฮัดสามารถเข้าถึงเครือข่ายการซ่อมบำรุงชิ้นส่วนที่กว้างขวางของแอร์ฟรานซ์ อินดัสทรีส์ และเคแอลเอ็ม เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เมนเทแนนซ์ รวมถึงบริการอัพเกรดที่สำคัญ ซึ่ง AFI KLM E&M จะยังคงมีคลังที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และที่ต่างๆ ทั่วโลกเพื่อสนับสนุนฝูงบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินเอทิฮัด โดยผ่านเครือข่ายการบำรุงรักษาและซ่อมบำรุงที่มีอยู่ทั่วโลกนอกจากนี้ความร่วมมือจะรวมไปถึงกรอบการทำงานสำหรับความร่วมมือในอนาคตกับสายการบินพันธมิตรของเอทิฮัดและฝ่ายวิศวกรรมของสายการบินเอทิฮัดสำหรับบริการการซ่อมบำรุงเพิ่มเติมในเวลาต่อไป
ทั้งสายการบินเอทิฮัดและแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ให้บริการเครือข่ายการบินด้วยเครือข่ายเที่ยวบินร่วมไปยังจุดหมายปลายทางกว่า 40 แห่ง การเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายในการมองหาความร่วมมือที่เปี่ยมศักยภาพในด้านต่างๆ เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การบำรุงรักษาและซ่อมบำรุงเพื่อลดต้นทุนและบรรลุการประหยัดจากขนาด
คำบรรยายภาพ : มร. เจฟฟ์ วิลกินสัน รองประธานฝ่ายเทคนิคของสายการบินเอทิฮัด (ขวา) กับ มร. ฟรังค์ เทอร์เนอร์ รองประธานบริหารฝ่ายวิศวกรรมและซ่อมบำรุง แอร์ฟรานซ์ เคแอลเอ็ม หลังจากลงนามในข้อตกลงด้านการซ่อมบำรุงชิ้นส่วนเป็นระยะเวลา 10 ปี สำหรับฝูงบินโบอิ้ง 777 ของสายการบิน
แอร์ฟรานซ์ อินดัสทรีส์ และเคแอลเอ็ม เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เมนเทนแนนซ์
แอร์ฟรานซ์ อินดัสทรีส์ และเคแอลเอ็ม เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เมนเทนแนนซ์ (Air France Industries KLM Engineering & Maintenance) เป็นผู้ให้บริการบำรุงรักษาและซ่อมบำรุงหลากหลายประเภท แอนด์เมนเทนแนนซ์ ซ่อมแซม ยกเครื่อง (Maintenance, Repair, Overhaul) ซึ่งมีพนักงาน 14,000 คน แอร์ฟรานซ์ อินดัสทรีส์ และเคแอลเอ็ม เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เมนเทนแนนซ์ให้บริการการสนับสนุนด้านเทคนิคที่ครอบคลุมสำหรับสายการบิน ที่ครอบคลุมตั้งแต่ด้านวิศวกรรมบำรุงรักษาย่อย ไปจนถึงการยกเครื่องเครื่องยนต์ โครงสร้างเครื่องบิน และการสนับสนุนระบบผันกลับแรงขับ (ทรัสต์ รีเวอร์สเซอร์ : Thurst Reversers) รวมถึงกับการบริหารจัดการ ซ่อมบำรุงและจัดหาชิ้นส่วนอากาศยาน ผ่านเครือข่ายโลจิสติกส์ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ แอร์ฟรานซ์ อินดัสทรีส์ และเคแอลเอ็ม เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เมนเทนแนนซ์ มีการให้บริการเครื่องบินอยู่เป็นจำนวนเกือบ 1,500 ลำ ซึ่งปฎิบัติการบินโดยสายการบินนานาชาติรายหลัก และสายการบินภายในประเทศถึง 200 สายการบิน แอร์ฟรานซ์ อินดัสทรีส์ และเคแอลเอ็ม เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เมนเทนแนนซ์ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้บริการบำรุงรักษาและซ่อมบำรุงแห่งปี พ.ศ. 2558 โดยนิตยสารเอวิเอชั่น วีค และผู้ให้บริการบำรุงรักษาและซ่อมบำรุงแห่งปี พ.ศ. 2557 และ 2558 จากแอร์ไลน์ อีโคโนมิคส์