กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--IR network
บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASO) มีเซอร์ไพรส์ตลอด โบรกฯคาดกำไรสุทธิปี"58 ทำนิวไฮ!แตะ 5.4 พันล้านบาท อานิสงส์ยอดขายในประเทศและต่างประเทศพุ่งกระฉูด หลังรัฐบาลในหลายประเทศทุ่มงบลงทุนซ่อมสร้างถนนรองรับการขยายตัวเศรษฐกิจ –กระตุ้นการลงทุนประเทศ แนวโน้มธุรกิจสดใส รายได้-กำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 52 บาท/หุ้น คาดปี"59 มีโอกาสจ่ายปันผล 1-2 บาท/หุ้น มั่นใจภายใน 5 ปีข้างหน้า (2559-2563) ยอดขายยางมะตอยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับปิโตรเลียม แตะที่ระดับ 6 ล้านตัน บุกตลาดโลก เตรียมลุยซื้อกิจการในอินโดฯ-เวียดนาม/ขยายกำลังการผลิตโรงงานในมาเลยฯ/ซื้อเรือเพิ่มอีก 2 ลำ
บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) (TASCO) โดยแนะนำให้ "ซื้อ" ด้วยเป้าหมายปี 2559 ที่ 52 บาท upside 32% อิงจากForward PE ที่ 14 เท่า โดยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างที่ PER 16 เท่า นอกจากนี้ ยังคาดว่า TASCO มีโอกาสจ่ายเงินปันผลในงวดปี 2559 ที่ 1-2 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend yield ที่ 2.5-5%
"เราได้ปรับกำไรสุทธิปี 2558 และ 2559 เป็น 5,401 ล้านบาท (eps 3.5 บาท/หุ้น) และ 5,717 ล้านบาท (eps 3.7 บาท/หุ้น) ตามลำดับ จากปริมาณยางมะตอยที่เพิ่มขึ้นจากการรวบรวมกิจการและการ maximize กำลังการผลิตของโรงกลั่นและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจาก spread ที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง"
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการใน 4/58 คาดว่ากำไรจะทำสถิติสูงสุดของปี 2558 ที่ประมาณ 1,500-1,600ล้านบาท จากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และความต้องการยางมะตอยที่สูง แบ่งเป็นในประเทศ จากการเบิกงบทำถนนปกติ และงบเร่งด่วนของกรมทางหลวงที่ต่อเนื่องจากไตรมาส 3/58 ประกอบกับงบของกรมทางหลวงชนบทที่จะเริ่มเบิกจ่ายในไตรมาส 4/58 นี้ และในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลียที่เป็น high season และประเทศอินโดนีเซียที่รัฐบาลมีนโยบายลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระยะยาวถึงปี 2562 มูลค่ารวมกันกว่า 5 ล้านล้านบาท และคาดว่าในปี 2559 ผลประกอบการของ TASCO ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุด้วยว่า TASCO ประกาศซื้อบริษัท 5 แห่ง มูลค่า 2,213ล้านบาท คิดเป็น P/BV ที่ 1.37 เท่า โดยเราคาดว่าดีลนี้จะสร้างกำไรให้กับ TASCO ประมาณ 300 ล้านบาท/ปี โดยอิงจากปริมาณการขายยางมะตอยในปี 2558 ที่ 2.9 แสนตัน และอัตรากำไรสุทธิที่ 5%
ทางด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ซื้อ" หุ้น TASCOพร้อมกับปรับเป้าหมายราคาใหม่เป็น 45 บาท จากเดิม 38 บาท เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/58 ยังดีต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายในออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย งบกระตุ้นเศรษฐกิจของกรมทางหลวง2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเริ่มเบิกจ่ายในเดือนก.ย. โดยจะเบิกจ่ายจำนวนมากในไตรมาส 4/58 โดยเฉพาะลาดยางผิวพื้นถนน รวมถึงงบทางหลวงชนบทจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท จะเริ่มเบิกจ่ายในเดือนพ.ย. โดยคาดว่ากำไรในไตรมาส4/58 ยังอยู่ในระดับสูงประมาณ 1.4 พันล้านบาท และมีแนวโน้มทำนิวไฮ สร้างเซอร์ไพรส์ต่อ นอกจากนี้ ยังมองว่า การที่ TASCO มีแผนเข้าซื้อกิจการใน 5 บริษัท เพื่อขยายอาณาจักรธุรกิจยางมะตอยจะช่วยเพิ่มยอดขายในปี 2559อีก 15%
ด้านนายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) (TASCO) กล่าวว่า บอร์ดของบริษัทได้อนุมัติการเข้าซื้อกิจการยางมะตอยจากบริษัทในประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งถือเป็นก้าวแรกตามแผนงาน 5 ปี ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นทันทีประมาณ 15% โดยจะเสนอให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในวันที่ 5 ม.ค.2559 และมั่นใจว่ากำไรในปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ และจะต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า
สำหรับ Mission ในปี 2020 (2559-2563) ของ TASCO จะมุ่งสู่การเป็น Globally Integrated asphalt และpetroleum related product โดยได้ตั้งงบลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้า ไว้ที่ประมาณ 8.5 – 10.0 พันล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการขยายกำลังการผลิตโรงกลั่นยางมะตอยในมาเลเซียเพิ่มเป็น 5 หมื่นบาร์เรล/วัน ในปี 2562 จาก 2.5 หมื่นบาร์เรล/วัน ในปัจจุบัน โดยใช้เงินลงทุนในการขยายกำลังการผลิตอยู่ที่ 100 ล้านดอลลาร์ รวมไปถึงใช้สำหรับการซื้อเรือเพิ่มอีก 2 ลำ ลำละ 15-20 ล้านดอลลาร์ และใช้ในการทำดีลควบรวมและการซื้อกิจการ (M&A) บริษัทยางมะตอยในเวียดนาม และอินโดนีเซีย
ส่วน Vision ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปี 2559-2563) คือ จัดจำหน่าย/ส่งมอบ ผลิตภัณฑ์ยางมะตอยและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 6 ล้านตันใน 5 ทวีปหลัก และเน้นความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน