บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) ประกาศผลกำไรไตรมาศ 3 จำนวน 240 ล้านบาท สูงกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ข่าวทั่วไป Monday November 14, 2005 09:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ไมเนอร์ กรุ๊ป
ในไตรมาสที่ 3 ปี 2548 บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)(MINT) ได้ประการผลการดำเนินงานโดยมีรายได้ในไตรมาสนี้ที่ 2,524 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 240 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 32% และ 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาตามลำดับ โดยถึงแม้ว่าจะมีภาวะการณ์ราคาน้ำมันและการปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจ(GDP) ผลกประกอบการของธุรกิจอาหารและโรงแรมสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 9.5% ในไตรมาสนี้เมื่อเทียบกับอัตรากำไรสุทธิที่ 8.4% ในไตรมาศ 3 ปี 2547
รายได้จากธุรกิจอาหาร ในไตรมาสนี้จำนวน 1,295 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโดยในส่วนของ กำไรเบื้องต้นก่อนค่าเสื่อมราคาและค่านิยม(EBITDA) ปรับสูงขึ้น 8% มาอยู่ที่ 234 ล้านบาท การปรับตัวที่สูงขึ้นประกอบด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 4% ของจำนวนสาขาที่มีอยู่ และการขยายจำนวนสาขาใหม่จำนวน 22 สาขา และการเติบโตของรายได้จากค่าแฟรนไชน์ 96% ธุรกิจอาหารของ MINT คาดว่าจะสามารถขยายในรูปแบบของแฟรนไชน์ภายใต้แบรนด์ เดอะพิซซ่า, สเวนเซ่นส์ และซิซเลอร์ ทั้งในและต่างประเทศ ในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขยายตัวในส่วนของการเปิดสาขาใหม่สูงถึง 184% โดยที่การขยายในรูปแฟรน์ไชน์คิดเป็นร้อยละ 13 ของการขยายสาขาที่มีอยู่ทั้งหมด
ในส่วนของรายได้ธุรกิจโรงแรม รายได้ของ MINT ในไตรมาศ 3 จำนวน 1,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% เนื่องจากการเปิดตัวของโรงแรมอนันตรา เกาะสมุยและการจัดทำงบรวมของโรงแรม เจดับเบิลยู แมริออต และโรงแรมโฟร์ซีซั่นกรุงเทพฯ ในไตรมาศนี้ถึงแม้ว่าภาวะการณ์ท่องเที่ยวในไทยไม่เอื้ออำนวย บริษัทสามารถรักษาระดับรายได้ค่าห้องเฉลี่ยต่อคนต่อคืนในอัตราการเช่าพักที่ 2,546 บาทสูงขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)(MINT) เป็นผู้ให้บริการด้านธุรกิจอาหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโดยมีจำนวนสาขาทั้งหมดกว่า 530 สาขา ภายใต้แบรนด์ เดอะพิซซ่า, สเวนเซ่นส์, ซิซซเลอร์, แดรี่ควีน และเบอร์เกอร์คิง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเป็นผู้นำในธุรกิจโรงแรมโดยเป็นผู้ประกอบการทั้งหมด 10 โรงแรม หรือจำนวน 2,100 ห้อง ภายใต้แบรนด์ มาริออต, โฟร์ซีซั่น และอนันตรา ในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ปัจจุบันยังได้ลงทุนร่วมกับกลุ่ม มาริออต อินเตอร์เนชั่นแนล ในด้านธุรกิจ TimeShare ที่จังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีธุรกิจสปา ซึ่งถือได้ว่าบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการที่ใหญ่ที่สุดในแถบเอเชีย แปซิฟิก ด้วยจำนวนสปาทั้งหมด 16 แห่งทั้งในประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้แบรนด์ Mandara, The Spa และ อนันตรา รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.minornet.com
กรุณาติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ปราถนา มโนมัยพิบูลย์ /ประภารัตน์ ตังควัฒนา/จิม ฟราลิค
โทรศัทพ์ (662)381-5151--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ