กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--ซิน คัมปานี
สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน จัดการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อร่วมมือพันธมิตร ผู้ผลิต และผู้จำหน่าย เครื่องใช้ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง หน่วยงานสนับสนุน และภาค SMEs กว่า 60 ราย เร่งส่งเสริมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ในโครงการเผยแพร่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้แผนปฏิบัติการ"รวมพลังหาร 2 เปลี่ยนใหม่ ประหยัดชัวร์" โดย ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และ นายสถิตย์ สุขอนันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการด้านการใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมเสวนาในครั้งนี้
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า อีกหนึ่งภารกิจสำคัญของ สนพ. คือ การเร่งขับเคลื่อนการปฏิบัติตามแผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2558-2579 หรือ EEP 2015 ที่ตั้งเป้าประหยัดพลังงานให้ได้ 30% ในปี 2579 หรือในอีก 20 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการยกระดับความเข้มข้นของแผน สนพ. จึงเดินหน้าโครงการรณรงค์การประหยัดพลังงาน ผ่านกิจกรรม "รวมพลังหาร 2 เปลี่ยนใหม่ ประหยัดชัวร์" ไปยังทุกกลุ่มเป้าหมาย ให้เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง
ดร.ทวารัฐ กล่าวต่อว่า "ผมในฐานะผู้จัดการทีมชาติประหยัดพลังงาน อยากเชิญชวนทุกภาคส่วนให้มาร่วมเป็นทีมชาติประหยัดพลังงาน ร่วมกันใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน และสำหรับผู้ประกอบการที่ขายสินค้าประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายเล็กหรือใหญ่ อยากจะให้ร้านค้าของท่านจัดมุมสินค้าประหยัดพลังงาน ชูจุดเด่นด้วยสินค้าที่ได้รับฉลากเบอร์ 5 โดยทาง สนพ.พร้อมที่จะสนับสนุนและร่วมโปรโมทเพื่อให้กับร้านค้าของท่านผู้ประกอบการทุกรายเกิดโซน "เปลี่ยนใหม่ ประหยัดชัวร์" โดยชูสินค้าฉลากเบอร์ 5 เป็นพระเอกของแคมเปญนี้
"การจัดงานประชุมผู้ประกอบการในครั้งนี้ ต้องการขอความความร่วมมือจากภาคเอกชน ทั้งในส่วนของผู้ผลิต และผู้จำหน่าย เพื่อช่วยส่งเสริมการตลาดหลอดไฟ LED และเครื่องปรับอากาศ ฉลากเบอร์ 5 ที่ผ่านการทดสอบแบบ SEER ให้ประชาชนเกิดการตื่นตัว และอยากขอเชิญชวนคนไทยกว่า 60 ล้านคน มาร่วมเป็นทีมชาติประหยัดพลังงาน ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปิด ปรับ ปลด และ เปลี่ยน อุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานสูง เพื่อให้ประเทศชาติมีระบบไฟฟ้าที่มั่นคงและยั่งยืน" ดร.ทวารัฐ กล่าวเพิ่มเติม
โดยภาคเอกชนที่เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ ต่างก็ให้ความสนใจ และพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลในการรณรงค์ร่วมกันช่วยประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าแม็คโคร หรือ เทสโก้โลตัส ต่างก็เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED 100% ในสาขาที่มีการสร้างขึ้นมาใหม่