กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--stuvik racing project
ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนจาก สิงห์คอร์ปเปอเรชั่น เดอะพิซซาคอมปะนี ดาคอนอินสเป็คชั่น เซอร์วิสเซส การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ราชยานยนต์สมาคมฯ และ การกีฬาแห่งประเทศไทย แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค ลงแข่งขัน GP3 สนามที่ 8 ที่ชากีเซอร์กิต (Sakhir circuit) บาห์เรน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 19-21 พฤศจิกายน) แซนดี้เข้าเส้นชัยอันดับที่ 13 ในเรสที่ 1 ส่วนในเรสที่ 2 เกิดอุบัติเหตุรถพุ่งชนข้างสนาม สภาพรถพังยับ เจ้าตัวปลอดภัย
เรส 1 ท่ามกลางสภาวะอากาศที่ร้อนระอุ เป็นบททดสอบอันท้าทายของทั้งนักขับ เครื่องยนต์และยาง ล้วนแล้วแต่ต้องหาความสมดุลให้ได้ในสภาพอากาศร้อนทะเลทรายของบาห์เรน เป็นที่น่าสนใจมากว่า นักขับแต่ละคนจะเซฟยางพิแรลลี่ได้ดีแค่ไหนที่จะเอาชนะสนามในบาห์เรนแห่งนี้ได้สำเร็จ แซนดี้ออกสตาร์ทจากกริดสตาร์ทที่ 23 และเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 13 ในขณะที่ อับดับ 1-2-3 เป็นของ มาร์วิน เคิร์ชฮอฟเฟอร์ (Marvin Kirchhofer) นักขับเยอรมัน เอมิล เปิร์นสตอร์ฟ (Emil Bernstorff) นักขับอังกฤษ เอสเทอบานโอค่อน (Esteban Ocon) นักขับฝรั่งเศสตามลำดับ แซนดี้ กล่าวว่า "ในสภาพที่ร้อนมากขนาดนี้ หน้ายางเบิร์นไวมาก ตั้งแต่แลปที่2 เป็นต้นมา ผมพยายามรักษายางไว้ให้ได้มากที่สุด แน่นอนนักขับหลายคนไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เท่าไรนัก แต่นั่นก็เป็นโอกาสที่ทำให้ผมขึ้นแซงได้เรื่อยๆ กระเถิบขึ้นมาจากเดิมถึง 10 ตำแหน่ง จบในอันดับที่ 13 ทว่าก็น่าเสียดายที่ยังไม่สามารถขึ้นไปถึงท็อปเท็นได้สำเร็จ"
เรส 2 เป็นการแข่งขันที่จบลงไวมากๆสำหรับแซนดี้ เกิดอุบัติเหตุ รถพุ่งเข้าชนในบาริเออร์ข้างสนาม รถพังไม่สามารถแข่งต่อได้ แต่นักขับปลอดภัย แซนดี้เล่าถึงเหตุการณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "ในแลปแรกของการแข่ง ที่โค้งสุดท้าย รถลื่นไปแตะกับรถของเซบ มอริส (Seb Morris) เพื่อนร่วมทีม ซึ่งอยู่ด้านหน้า ขณะที่กำลังจะผ่านโค้งสุดท้าย รถแซนดี้อยู่วงใน ซึ่งขณะนั้นรถของเซบยังคงบล็อคด้านหน้าอยู่ ขณะนั้นเองล้อของรถแซนดี้ไปชนเข้ากับล้อรถของเซบ และตรงจุดนี้เองที่ไม่ได้เห็นในการถ่ายทอดในทีวี คือรถของแซนดี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักแล้วในตอนนั้น ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นเหตุให้รถไถลไปชนกับรถของมาทีโอ ทัชเชอร์ (Matheo Tuscher) อย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนที่จะพุ่งเข้าชนกับบาริเออร์ข้างสนามด้วยความเร็วสูง แน่นอนว่า ถือเป็นอุบัติเหตุที่หนักที่สุดในชีวิตของแซนดี้ แต่โชคดีที่ว่าไม่ได้บาดเจ็บหรือเป็นอะไรหนัก มีแค่ฟกช้ำนิดหน่อยแค่นั้น" สิ้นสุดการแข่งขัน เจ้าหน้าที่สนามลงมติ เป็นความผิดพลาดของเซบ มอริส ที่เคลื่อนรถแฉลบไปมา พยายามที่จะบล็อคมากเกินไป จนกระทั่งเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้
สิ้นสุดการแข่งขัน อับดับ 1-2-3 เป็นของลูก้า จิออตโต้ (Luca Ghiotto) นักขับอิตาลี เอสเทอบานโอค่อน (Esteban Ocon) นักขับฝรั่งเศส และ แมทธิว พารี่ (Matthew Parry) นักขับอังกฤษ ตามลำดับ
บทบาทสำคัญจะตกอยู่กับทีมที่จะต้องซ่อมรถให้กลับคืนมาในสภาพที่พร้อมลงแข่งภายใน 1 อาทิตย์ เนื่องจากการแข่งขันสนามที่ 9 สนามปิดฤดูกาลจะเกิดขึ้นในวันที่ 27-29 พย นี้แล้ว ที่ยาสมารินาเซอร์กิต (Yas Marina circuit) อะบูดาบี ซึ่งจัดแข่งในรายการเดียวกันกับฟอร์มูล่าวัน