กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลลอยกระทงอย่างเข้มข้น จริงจัง และต่อเนื่อง โดยคุมเข้มการจำหน่ายและการเล่นพลุ ดอกไม้เพลิงให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด จัดชุดเคลื่อนที่เร็วให้พร้อมปฏิบัติการระงับเหตุเพลิงไหม้ รวมถึงบังคับใช้กฎหมายจราจรคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุของผู้ใช้รถใช้ถนน ตลอดจนเข้มงวดกวดขันไม่ให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณสถานที่จัดงานเทศกาลวันลอยกระทง เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ และร่วมสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของเทศกาลวันลอยกระทงให้อยู่คู่สังคมไทยตลอดไป
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เทศกาลวันลอยกระทงเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยจากพลุ ดอกไม้เพลิง เพลิงไหม้ อุบัติภัยทางน้ำ และอุบัติเหตุทางถนนสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยความปลอดภัยของประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น จริงจัง และต่อเนื่อง โดยคุมเข้มการจำหน่ายและการเล่นพลุ ดอกไม้เพลิง ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายจากพลุ และดอกไม้เพลิง พร้อมตรวจสอบเส้นทางสัญจรทางน้ำ โป๊ะท่าเทียบเรือ เรือโดยสาร และจุดเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย รวมถึงสนธิกำลังจัดชุดกู้ภัยทางน้ำ และจัดเตรียมอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางน้ำให้พร้อมใช้งานประจำจุดเสี่ยง ตลอดจนจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว พร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง รถดับเพลิง และอุปกรณ์กู้ภัยให้พร้อมปฏิบัติการระงับเหตุเพลิงไหม้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ให้สนธิกำลังจัดตั้งจุดตรวจ จัดระเบียบการจราจรและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง บังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด พร้อมคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะการขับรถเร็วและเมาแล้วขับ ในส่วนของการป้องกันอุบัติภัยจากโคมลอยได้ประสานจังหวัดประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันอุบัติภัยจากโคมลอย ทั้งอันตราย ผลกระทบ ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงบทลงโทษกรณีกระทำความผิด พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนงดปล่อยโคมลอย โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้แหล่งชุมชน เพื่อป้องกันโคมลอยที่เผาไหม้ไม่หมดตกใส่บ้านเรือน ทำให้เกิดเพลิงไหม้ อีกทั้งไม่ปล่อยโคมลอยใกล้แนวเสาไฟฟ้า สายส่งไฟฟ้าแรงสูง สถานีไฟฟ้าแรงสูง เพราะอาจทำให้ระบบไฟฟ้าลัดวงจร ส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญ ห้ามปล่อยโคมลอยบริเวณพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานในรัศมี8 กิโลเมตร เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการเดินอากาศและเป็นอันตรายต่ออากาศยาน หากมีการกระทำผิดและส่งผลกระทบต่ออากาศยานในระหว่างให้บริการ จนทำให้อากาศยานเสียหายไม่สามารถทำการบินได้ หรือเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 และประมวลกฎหมายอาญา มีบทลงโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15 – 20 ปี และปรับเป็นเงินตั้งแต่ 6 – 8 แสนบาท ตลอดจนเข้มงวดกวดขันไม่ให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณสถานที่จัดงานเทศกาลวันลอยกระทง ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เพื่อป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นได้
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกำลังอาสาสมัครปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัย พร้อมตรวจสอบความปลอดภัยและดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของสถานที่ รวมถึงบูรณาการทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมรับมือและดำเนินมาตรการป้องกันอุบัติภัยในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงให้สอดคล้องกับช่วงระยะเวลาการจัดงานและประเพณีของแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ และร่วมสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของเทศกาลวันลอยกระทงให้อยู่คู่สังคมไทยตลอดไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th