กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--Worklink PR
SMART พุ่งเป้าตลาด CLMV เตรียมคว้าดีลเลอร์กัมพูชาเป็นรายแรกส่วนตลาดในประเทศเดินหน้าขยายฐานลูกค้างานรัฐ จ่อขยายกำลังการผลิตรองรับออร์เดอร์ทั้งในและตปท.คาดปี59 สัญญาณดีพลิกทำกำไรทุ่มงบ 200 ล้านผุดโปรดักส์ใหม่ รองรับตลาดอสังหาฯฟื้น จากนโยบายการกระตุ้นภาคอสังหาของรัฐบาล
นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (SMART) ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง และงานกั้นผนังอาคาร เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนศึกษาตลาดกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าไปยังพม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา มากขึ้น เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวมีการขยายตัวของโครงการก่อสร้างค่อนข้างสูง ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับดีลเลอร์ในประเทศกัมพูชา คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 4/58จากนั้นจะเข้าไปเจรจากับดีลเลอร์ในประเทศพม่าต่อไป
สำหรับตลาดในประเทศยังคงชะลอตัว แต่บริษัทยังเดินหน้าทำตลาดแนะนำผลิตภัณฑ์กับลูกค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นที่กลุ่มโครงการก่อสร้างต่างๆของภาครัฐจากเดิมที่มีสัดส่วนอยู่เพียง 20% ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 50% ซึ่งจากนโยบายของภาครัฐบาลที่จะออกมาสนับสนุนการเดินหน้าโครงการก่อสร้างต่างๆ คาดว่าจะสามารถส่งผลให้บริษัทฯ มีโอกาสในการเข้ารับงานเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ปัจจุบันกำลังการผลิตของบริษัทอยู่ที่ 4.5 ล้านตารางเมตร ต่อปี ปัจจุบันใช้กำลังการผลิตประมาณ 80% หรือประมาณ 3.6 ล้านตรม.ต่อปี ซึ่งหากภาวะการชะลอตัวของตลาดมีทิศทางที่ดีขึ้น และบริษัทดำเนินธุรกิจได้สำเร็จตามที่วางไว้ บริษัทก็มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเป็น 6 ล้านตรม.ต่อปี
ส่วนแผนการดำเนินการในปี 2559 บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 ประเภท โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 1/59 และจะเร่งบุกตลาดโครงการภาครัฐ ซึ่งจะมีการลงทุนในโครงการต่างๆ เช่น รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วขนาดรางกว้าง 1.435 เมตร และ โครงการขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ อีกหลายเส้นทาง ตั้งแต่ต้นปี 2559 คาดว่าจะสามารถปรับสัดส่วนงานภาครัฐ 50% และภาคเอกชน 50% อีกทั้งบริษัทฯ ได้ศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท เวอร์ฮาน เรียบร้อยแล้วและ คาดว่าจะลงทุนภายในไตรมาสที่ 1/59 หากภาวะตลาดรองรับ ซึ่งต้องใช้งบลงทุนครั้งนี้ ประมาณ 200 ล้านบาท
"ในปี 2559 คาดว่าจะมีรายได้เติบโตมากกว่าปี 2558 ประมาณ 10% หรือไม่ต่ำกว่า 420ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการขยายตลาดไปยังตลาด CLMV และ นโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมภาคอสังหาริมทรัพย์ และ ลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งจะกระตุ้นภาคเอกชนในการลงทุน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในตลาดให้ดีขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และผู้ผลิต จำหน่ายวัสดุก่อสร้างโดยรวมและบริษัทผู้รับเหมา ส่วนเป้าหมายรายได้ปี 2558 คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 380 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าปีที่แล้วประมาณ 5 %"นายรังสี กล่าว
ทั้งนี้ ผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/2558 ปรับตัวลดลง โดยรายได้รวมงวดไตรมาส 3/2558 อยู่ที่ 100.35 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.76 ล้านบาทและมีผลขาดทุนสุทธิ 4.35 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือน ปี 2558 มีรายได้ 270.08 ล้านบาท มีขาดทุนสุทธิ 9.21 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของตลาดต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา