กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
ทุ่มกว่า 5 พันล้านสร้าง Sugar Energy Complex เน้นบริหารครบวงจร ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำสู่เป้าหมายองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคมเกษตรกรและผู้บริโภค
บมจ.น้ำตาลครบุรี เผยผลการดำเนินงานประจำปี 2558 และทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2559 ปลื้มยอดขาย "น้ำตาลแบรนด์ KBS" ทะลุพันล้านหลังเปิดตัวเพียงปีเดียว ลั่นเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จในฐานะผู้นำด้าน Food Solution ด้วยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย ภายใต้แนวคิด KBS : Sweet & Smart ความหวานสำหรับคนฉลาดเลือก ล่าสุด เดินหมากกลยุทธ์ระยะยาว โดยมุ่งเน้นการบริหารองค์รวมและสอดประสานระหว่างกลยุทธ์ของฝ่ายต่างๆ ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ด้วยงบกว่า 5 พันล้านเปลี่ยนโรงงานน้ำตาลเป็น Sugar Energy Complex ตั้งเป้าขึ้นเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคมเกษตรกรและผู้บริโภค
นายทัศน์ วนากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเปิดตัวน้ำตาลแบรนด์ใหม่ "เคบีเอส" เมื่อปีที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ยอดขายทะลุเป้า 1 พันล้านบาท เป็นผลจากการใช้กลยุทธ์ Food Solution ที่มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยเข้ามาเป็นเพื่อนคู่คิดที่ช่วยลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย เพิ่มผลกำไรให้มากขึ้น และเป็นเพื่อนคู่ครัวของผู้บริโภคที่ช่วยให้การทำอาหารได้ทั้งคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติที่ดีขึ้น ซึ่งจากกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกพบว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จ อาทิ การมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นทางเลือกให้กับตลาด คือ ผลิตภัณฑ์ KBS 2X double sweet (น้ำตาลหวาน 2 เท่า) มุ่งตอบโจทย์ SME ที่ต้องการรายได้เพิ่มขึ้น
ซึ่งตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าผลิตภัณฑ์ KBS 2X double sweet สามารถช่วยผู้ประกอบการ เช่น ร้านกาแฟ ร้านขนม ลดต้นทุนลงได้กว่า 25-30% และในด้านการจัดเก็บก็สามารถลดพื้นที่การจัดเก็บได้ถึง 50% อีกทั้งยังตอบโจทย์ผู้บริโภคเรื่องสุขภาพด้วยการเป็นน้ำตาลที่ให้พลังงานต่ำ สำหรับผู้ที่มีความกังวลเรื่องสุขภาพ นอกจากนี้ การมีช่องทางการขายที่หลากหลาย รวมถึงในกลุ่ม Modern Trade ก็มีส่วนสำคัญในความสำเร็จครั้งนี้อีกด้วย
นอกจากนี้ นายทัศน์ ยังได้เปิดเผยถึงการกำหนดวิสัยทัศน์ขององค์กร และการวางกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย ว่า "วันนี้บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคมเกษตรกรและผู้บริโภค จึงถือเป็นความท้าทายที่ไม่สามารถทำสำเร็จได้ด้วยการใช้กลยุทธ์ระยะสั้น ต้องเลือกใช้แผนกลยุทธ์ระยะยาวและการมองภาพใหญ่ ซึ่งกลยุทธ์เพื่อก้าวสู่วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ของ KBS เป็นแผนที่เน้นองค์รวม และมีความสอดประสานระหว่างกลยุทธ์ของฝ่ายต่างๆ ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โดยเริ่มจากต้นน้ำ คือ ฝ่ายไร่หรือฝ่ายวัตถุดิบ ต้องเพิ่มความมั่นคงทางวัตถุดิบ โดยจะต้องเป็นคู่คิดให้กับชาวไร่ ส่งเสริมให้ชาวไร่มีผลผลิตที่สูงขึ้น มีรายได้จากการปลูกอ้อยที่ดีขึ้น ชาวไร่ก็จะเป็นผู้ที่ขยายหรือยึดอาชีพปลูกอ้อยได้อย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ KBS สามารถขยายกำลังผลิตหรือลดต้นทุนต่อไป
"กลางน้ำ คือ ฝ่ายผลิต KBS มุ่งเน้นที่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และคุณภาพของสินค้า KBS เลือกใช้โมเดล Sugar Energy Complex ซึ่งจะปรับปรุงโรงงานในปัจจุบันให้มีความทันสมัยและครบวงจร โดยมองถึงการรองรับอ้อยจำนวนมากจากเกษตรกรและมีการผลิตไฟฟ้าและเอทานอลที่เป็นธุรกิจชีวพลังงานอย่างครบถ้วน สุดท้าย ปลายน้ำ คือ การตลาดจะต้องตอบโจทย์ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value added) ของผู้บริโภคให้ได้ โดยมีการสร้างแบรนด์ KBS ให้เป็นที่รู้จัก โดยจะทำควบคู่กันกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้บริโภค โดยจะเน้นคอนเซ็ปท์ของการเป็นFood Solution ซึ่งจะให้น้ำหนักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มี "คุณภาพ" สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค และยังช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ให้มีผลกำไรมากยิ่งขึ้นอีกด้วย" นายทัศน์ กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนการลงทุนต่อเนื่องด้วบงบกว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงงานน้ำตาลครบุรีให้เป็นโรงงานที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย โดยจะเปลี่ยนเป็น Sugar Energy Complex ที่มีความสมบูรณ์และทันสมัยทัดเทียมโรงงานน้ำตาลขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ โดยประกอบด้วย โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล 35 เมกะวัตต์ (ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว) โครงการขยายกำลังการผลิต Production Line C 12,000 ตันอ้อยต่อวัน โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลขนาด 200,000 ลิตร/วัน และโครงการก่อสร้าง Conditioning Silo และอาคารบรรจุผลิตภัณฑ์ใหม่
ด้าน นายภาณุพงศ์ พงศ์ติยะชวางกูล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและขายในประเทศ บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยถึงก้าวย่างต่อไปของแบรนด์และกิจกรรมการตลาดที่จะเกิดขึ้นในปี 2559 โดยกล่าวว่า ความสำเร็จที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นชัดว่าแบรนด์ KBS เดินมาถูกทางแล้ว ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดี ในปีแรก เราวางเป้าหมายลูกค้าเรากว้างทั้งในส่วนธุรกิจ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค แต่จากสัดส่วนยอดขาย ทำให้เราเห็นชัดว่า ลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุด คือ กลุ่มผู้ประกอบการ SME ซึ่งได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ของเราอย่างชัดเจน ดังนั้น ในปี 2559 เราจึงจะเน้นการทำตลาดกลับกลุ่มผู้ประกอบการ SME อย่างเข้มข้นขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์เพื่อเพิ่มยอดขายในกลุ่มผู้บริโภค
สิ่งที่บริษัทจะเน้นในปีหน้า ได้แก่ 1. ผลิตภัณฑ์ เรามีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณสมบัติหวานสองเท่าเช่นเดิม แต่อาจจะมีรูปแบบที่แตกต่างออกไป เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำน้ำตาลไปใช้ในอาหารที่หลากหลายขึ้น 2.ช่องทางการขาย โดยจะขยายช่องทางการขายให้หลากหลายขึ้น เน้นการขายผ่าน Modern Trade เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองและเข้าถึงสินค้าเราได้ง่ายขึ้น และ 3. เครื่องมือส่งเสริมการขาย โดยในปี 59 นี้ เราจะเน้นประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยผลการวิจัยเรื่อง SME & Consumer Behavior พบว่าช่องทางออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลักที่ใช้ต้นทุนน้อยกว่าออฟไลน์ แต่สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้ใกล้และตรงใจมากกว่า
"ปัจจุบันมีการใช้สื่อออนไลน์ในการสื่อสารการตลาดมากขึ้น SME เองก็ใช้ช่องทางนี้ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเช่นกัน อาทิ เฟซบุค ไลน์ อินสตาแกรม และสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ ซึ่งถือเป็นช่องทางการตลาดที่กำลังได้รับความสนใจมาก นอกจากนี้เรายังมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดโครงการสัญจรที่ถือเป็นการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่มSME ขณะเดียวกันก็ให้พวกเขาได้มีโอกาสทดลองใช้สินค้าของเรา โดยเราจะจัดทีมเข้าไปให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างสรรค์เมนูใหม่ การปรับปรุงเมนูให้อร่อยมากขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ความเป็น food solution ของแบรนด์ KBS ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นนั่นเอง" นายภาณุพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย