กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--แบงค์คอก ไรเตอร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส
ททท. ร่วมกับ กทม. จัดงานยักษ์รับศักราชใหม่ "เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ๒๕๕๙" มหกรรมท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ยกเมืองไทยมาไว้ในสวนลุมฯ หนุนปีท่องเที่ยววิถีไทย กระจายรายได้สู่ชุมชน โชว์ไฮไลท์เด็ดทั้งของกิน ของใช้ และการแสดงจาก ๕ ภาค เข้าชมฟรี ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๗ ม.ค. ๒๕๕๙ ขยายเวลาตั้งแต่เที่ยงวันถึงสี่ทุ่ม คาดผู้ชมกว่า ๖ แสน หวังรายได้โต ๒๕%
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดงาน "เทศกาลเที่ยวเมืองไทย" ครั้งที่ ๓๖ ประจำปี ๒๕๕๙ (Thailand Tourism Festival : TTF 2016) ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๗ ม.ค. ๒๕๕๙ งานแสดงสินค้าด้าน การท่องเที่ยวภายในประเทศครั้งยิ่งใหญ่ หลากหลายแง่มุม ทั้งด้านวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และ ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยคัดเลือกของดีของเด็ดจากทั่วทุกภูมิภาค ทุกจังหวัดมารวมอยู่ในงานเดียว ภายใต้แนวคิด "ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร"
การจัดงานในครั้งนี้เพื่อสร้างแรงจูงใจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค มุ่งกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนทั่วประเทศ สร้างการมีส่วนร่วมและตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการเฉลิมฉลองต้อนรับศักราชใหม่อย่างมีความสุข หนุนการท่องเที่ยวตลอดปี ๒๕๕๙
"การจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ ๓๕ ประจำปี ๒๕๕๘ ถือเป็นครั้งแรกที่เลือกสวนลุมพินีเป็นสถานที่ในการจัดงาน ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก และประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานถึง ๖๐๐,๐๐๐ คน สร้างเงินสะพัดทั้งทางตรงและทางอ้อมกว่า ๔๐๕ ล้านบาท และได้สร้างภาพพจน์ของงานให้เป็นที่ยอมรับ บรรลุเป้าหมายตามที่คาดหวัง" นายยุทธศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี ๒๕๕๙ ได้ต่อยอดความสำเร็จจากการจัดงานในปีที่ผ่านมา โดยเลือกสถานที่สวนลุมพินีในการจัดงานอีกครั้ง ภายใต้บรรยากาศสดชื่นและสวยงาม การคมนาคมที่สะดวก พร้อมด้วยไฮไลท์กิจกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการ รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
การจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า ๖๐๐,๐๐๐ คน สร้างเม็ดเงินสะพัดภายในงานต่อเนื่องไปจนถึงการท่องเที่ยวไปยังพื้นที่จริงหลังการจัดงานประมาณ ๕๐๐ ล้านบาท เติบโต ๒๕% จากปีที่ผ่านมา และเป็นงานที่จะจุดกระแสการท่องเที่ยวภายในประเทศตลอดปี ๒๕๕๙ ตามเป้าหมายการท่องเที่ยวภายในประเทศ ๑๕๐ ล้านคน/ครั้ง ก่อให้เกิดรายได้ ๘ แสนล้านบาท
เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ๒๕๕๙ จัดอย่างยิ่งใหญ่ และได้พัฒนาอีกระดับจากครั้งที่ผ่านมา มีการจัดกิจกรรมครบวงจรด้านการท่องเที่ยว ประกอบด้วย ๔ โซนหลัก เริ่มจาก
โซนที่ ๑ พบกับเส้นทาง "๑๒ เมืองต้องห้าม…พลาด Plus" เส้นทางท่องเที่ยวที่เป็นที่สุด.. ห้ามพลาดของ ๒๔ จังหวัดทางเลือกใหม่ ไฮไลท์เด็ดของโซนนี้ ผู้เข้าชมงานจะได้ชมภาพยนตร์ไทยในอดีตที่ หาดูได้ยาก จากโรงภาพยนตร์ย้อนยุค "เขาเล่าว่า" และยังสามารถเลือกซื้อของจากร้าน TAT Shop ที่รวมสินค้าของที่ระลึกจาก ททท. และอนุสาร อสท.
โซนที่ ๒ โซนหมู่บ้าน ๕ ภูมิภาค รวมของดีทั่วเมืองไทยมาไว้ในโซนนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ถึงเอกลักษณ์ของพื้นที่ ใน ๕ ภูมิภาค นำเสนอแลนด์มาร์คของแต่ละภาค การแสดงที่หาดูได้ยาก ของดีของเด็ด ภายใต้สโลแกน "ของแท้ ๑๐๐% การันตีโดย ททท." ด้วยเอกลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของแต่ละพื้นที่ ประกอบด้วย
หมู่บ้านภาคเหนือ ในธีม "เหนือฝันล้านแรงบันดาลใจ" ตอน ผ้าเมืองเหนือของไทย…เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร ที่จะสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการท่องเที่ยว พบกับการจำลองสถานที่และบรรยากาศพระตำหนักดาราภิรมย์ จ.เชียงใหม่ และกิจกรรมไฮไลท์หลากหลาย เช่น การแสดงละครฟ้อนเทิดพระเกียรติ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี นิทรรศการ Hall of Frame จัดแสดง "๕ นางพญาผ้าซิ่นแห่งล้านนา" พระประวัติและพระกรณียกิจของพระราชชายาฯ ที่เกี่ยวกับผ้า
ภายในงานยังมีการจำหน่ายผ้าที่มีชื่อเสียงของแต่ละพื้นที่ในราคาพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ชุดเครื่องนอนก่อนวิวาห์ จ.อุทัยธานี ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากยูเนสโก้ ผ้าหม้อห้อม จ.แพร่ ผ้าตีนจกไหมเงิน-ไหมทอง จ.สุโขทัย ผ้าทอขนแกะนาโน จ.แม่ฮ่องสอน ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดผลงานสุดยอดนวัตกรรมสิ่งทอนาโน ผ้าทอยกดอก จ.ลำพูน ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI พร้อมกับกิจกรรมที่ทุกคนรอคอย รำวงย้อนยุค ถนนคนเดิน จ.พิษณุโลก นอกจากนี้ยังได้รวมสุดยอดของดีจากกาดดังเมืองเหนือ โดยยกกาดมาไว้ที่สวนลุมพินี อาทิ กาดริมยม ๒๔๓๗ จ.สุโขทัย กาดนั่งยองคล้องย่าม จ.ตาก กาดกองต้าจ.ลำปาง และกาดหละปูน จ.ลำพูน
หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในธีม "อีสาน แซ่บนัว" พบกับการจำลองพระธาตุพนมและปราสาทรวงข้าวสูง ๕.๓ เมตร อันเป็นที่เคารพและศรัทธา การแสดงจำลองนาข้าว ประเพณีวัฒนธรรมอีสานที่เกี่ยวกับข้าว เช่น บุญคูณลานและการตักบาตรข้าวเหนียว สาธิตการทำมาลัยข้าวตอกเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ในงานมาฆบูชาจากยโสธร การทำมาลัยไม้ไผ่ในงานบุญข้าวประดับดินกาฬสินธุ์ พร้อมกิจกรรมสนุกสนานที่จะมีขึ้นทุกวัน
เลือกซื้อผลผลิตของแท้ของคนอีสาน กับผ้าอีสานที่ทุกถามหา ทั้งผ้ากาบบัวอุบลราชธานี ผ้าแพรวา กาฬสินธุ์ ผ้าไหมยกทองสุรินทร์ ผ้าหมี่ขิดอุดรธานี และที่ขาดไม่ได้ในโครงการเขาเล่าว่า กับ "ผ้าผิวสวย" ผ้าย้อมคราม จากสกลนครและอุดรธานี พบขบวนผลิตภัณฑ์อาหารทั้ง ข้าวฮาง ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว และอาหารจานแซ่บ…ที่ลือชื่อ ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวส้มตำมีชื่อเสียงจากจังหวัดต่างๆ ไก่ย่างเขาสวนกวาง หมูทุบกาฬสินธุ์ น้ำหมากเม่า ข้าวปุ๋นน้ำแจ่ว หมูยออุบลฯ ปลาส้มยโสธร ผัดหมี่โคราช หม่ำชัยภูมิ เป็นต้น
หมู่บ้านภาคกลาง ในธีม "สุขกลางใจใกล้แค่เอื้อม" ยกบ้านเรือนไทยขนาดมาตรฐาน (คุ้มขุนแผน) พร้อมการสาธิตประเพณีไทยที่สำคัญ เช่น พิธีขึ้นบ้านใหม่ พิธีแต่งงาน พิธีทำขวัญนาคและการบวชนาค ตั้งแต่เวลา ๑๒.๐๐-๑๔.๐๐ น. ของทุกวัน ชมไฮไลท์การแสดงจากศิลปินลูกทุ่งเมืองสุพรรณบุรี ตามรอยราชินีลูกทุ่งพุ่มพวง ดวงจันทร์ กับ "เปาวลี พรพิมล" การแสดงจากแชมป์ลิเกเงินล้านจากอ่างทอง คณะสาวรำวงดีกรีแชมป์จากเมืองเพชรบุรี ละครนอก ละครใน ละครพันทาง และโขนจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กรมศิลปากร หนังใหญ่วัดขนอน จ.ราชบุรี
นอกจากนั้นยังมีการสาธิตศิลปหัตถกรรมภูมิปัญญาชุมชน เช่น การปั้นหัวโขน การปั้นตุ๊กตาชาววัง การทำขนมไทย การร้อยมาลัย การแกะสลักผักผลไม้ รวมถึงพื้นที่จำหน่ายสินค้า OTOP จำลองบรรยากาศตลาด "๑๕ ตลาดบก ๑๖ ตลาดน้ำ" เพื่อนำเสนออาหารและสินค้าท้องถิ่นที่โดดเด่นในภูมิภาค
หมู่บ้านภาคใต้ ในธีม "ปักษ์ใต้…ปักหมุดหยุดเวลา" ชูท่องเที่ยววิถีธรรมกับการรวมพลังศรัทธาจากวัฒนธรรมที่หลากหลาย พบแลนด์มาร์คที่น่าตื่นตาตื่นใจ อาทิ การจำลองศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี พระบรมธาตุไชยา วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหารสุราษฎร์ธานี เจดีย์พระมหาธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และการจำลองเสาชิงช้าซึ่งใช้ในพิธีตรียัมปวาย และตรีปวายของพราหมณ์จากนครศรีธรรมราช พบสินค้าดีอาหารอร่อยในบรรยากาศ ตลาดจำลองย้อนยุคสไตล์ชิโนโปรตุกีส ตลาดการค้าย่านสถานีรถไฟ และตลาดหน้าศาลเจ้า
โซนสาธิตกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การสาธิตของหนังตะลุง "สุชาติ ทรัพย์สิน" ที่มีดีกรีระดับโลก การทำกรงนก การแกะสลักหัวกริช ขบวนสินค้าดีเด่น อย่างผ้าบาติก เครื่องประดับจากมุก เครื่องถม-เครื่องเงินเมืองนครฯ และอาหารอร่อย อาทิ เค้ก หมูย่างของดีเมืองตรัง ข้าวหมก ขนมจีน ข้าวยำ ของดังจากกระบี่ ปลาดุกร้า ข้าวสังข์หยดจากพัทลุง น้ำแคชชูวี่ (น้ำมะม่วงหิมพานต์) จากภูเก็ต กล้วยหินยะลา ข้าวเกรียบปลาปัตตานี ลูกชก ส้มตำสาหร่าย จากพังงา และอื่นๆอีกมากมาย
หมู่บ้านภาคตะวันออก ในธีม "สีสันตะวันออก" กับบรรยากาศแสนสบายสไตล์ท้องทะเล พร้อมการจำลองท่าเทียบเรือยอชท์หรู ยกโชว์อลังการระดับนานาชาติมาไว้ในสวนลุม ได้แก่ อัลคาซ่าร์และมิโมซ่าจากพัทยา พร้อมกิจกรรมสาธิต "ภูมิปัญญาสืบศิลป์ ถิ่นตะวันออก" กับสินค้าเด่นอย่าง ผ้าทออ่างศิลา เสื้อผ้าฝ้ายหมักโคลนทะเล ผ้าทอมือสระแก้ว และเครื่องประดับพลอยเมืองจันทบุรี ขบวนสินค้าของใช้จากภูมิปัญญา อาทิ ยาดมสมุนไพรบ้านช้างทูน ผลิตภัณฑ์จักสานพนัสนิคม เสื่อจันทบูร งอบบ้านน้ำเชี่ยว พลาดไม่ได้กับอาหารทะเลสดๆ โดยเฉพาะกุ้งแม่น้ำเผา ๑๐๐กิโลกรัม/วันพร้อมเสิร์ฟตลอดงาน
โซนที่ ๓ รวมของดีจาก ๕๐ ชุมชนในเขต กทม. มารู้จักกับอาหารอร่อยและสินค้าเด่น ภายใต้มุมมองใหม่ที่หลายคนยังไม่เคยสัมผัส คัดสรรสินค้าเด็ดอาหารดัง จากทุกชุมชนมาไว้ในงานเดียว
โซนที่ ๔ เวทีใหญ่กับกิจกรรมสนุกๆทุกวัน ตั้งแต่ ๑๒.๐๐-๒๒.๐๐ น. พิธีเปิดสุดอลังการกับทัพศิลปินชั้นแนวหน้า พบกับดารารับเชิญ "มาริโอ้ เมาเร่อ" และ จำอวดหน้าม่าน จากรายการคุณพระช่วย การแสดงศิลปวัฒนธรรมที่หาชมได้ยาก คอนเสิร์ตจากศิลปินดังในทุกวันของการจัดงาน อาทิ โจอี้บอย สิงห์เหนือเสือใต้ ก็อท จักรพรรณ์ อาบครบุรี ตูน บอดี้สแลม และ เดอะ พาเลซ เป็นต้น
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ๒๕๕๙ เป็นเทศกาลท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของเมืองไทยจากการรวมศักยภาพแห่งวิถีไทย ผ่านเอกลักษณ์ที่โดดเด่น หลากหลาย ตอกย้ำความพร้อม การท่องเที่ยวของไทยอันเป็นที่ยอมรับและชื่นชมจากทั่วโลก จึงถือเป็นโอกาสที่คนไทยทั่วประเทศ จะมีส่วนร่วมภาคภูมิใจไปด้วยกัน โดย ททท.ได้ยกเอกลักษณ์ความเป็นไทยในแต่ละพื้นที่ รวมทุกภาคมาไว้อย่างครบครัน ทั้งสุดยอดผลิตภัณฑ์อาหาร และสินค้าคุณภาพภูมิปัญญาชุมชนให้ทุกคนได้เลือกซื้อหา ร่วมประสบการณ์ในการเรียนรู้ และรู้จักของดีเมืองไทยในทุกมิติ ตลอดจนหวังให้เกิดการเดินทางไปสัมผัสในแหล่งท่องเที่ยวจริงอย่างต่อเนื่อง
"นอกจากนี้ ททท. มีเป้าหมายในการยกระดับงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยไปสู่ระดับสากล รวมทั้งการให้ความสำคัญในการยกระดับจิตใจด้านการท่องเที่ยว จึงมีแผนรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมผ่านงานนี้ เพื่อให้คนไทยตระหนักถึงการเป็นนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่ทิ้งขยะนอกสถานที่รองรับ ตลอดจนงดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ในพื้นที่จัดงาน พร้อมกระตุ้นให้คนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีส่วนร่วมต่อการพัฒนา สร้างสรรค์ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ก้าวไปสู่ความยั่งยืน มั่นคง เป็นแบบอย่างให้กับกลุ่มประเทศอาเซียน ในฐานะที่ไทยมีความรู้และประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้เป็นอย่างดี"ผู้ว่า ททท. กล่าว
เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ๒๕๕๙ ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๗ มกราคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๒.๐๐-๒๒.๐๐ น. ณ สวนลุมพินี เปิดให้เข้าชมฟรี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยรถประจำทาง รถไฟใต้ดิน MRT สถานีสีลม รถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง รายละเอียดเพิ่มเติมที่ ๑๖๗๒ เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย