กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--IR PLUS
TNP หุ้นค้าปลีกท้องถิ่นไทย มั่นใจผลงาน Q4/58 ดีสุด เนื่องจากเป็นฤดูกาลขาย อีกทั้งเงินที่ได้จากการระดมทุนใช้ก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ คาดแล้วเสร็จ Q3/59 ช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และเตรียมพร้อมการขยายสาขาในอนาคต โดยตั้งเป้าปี 59 ขยายเพิ่มอีก 3 สาขา หนุนรายได้และกำไรเติบโตในอัตราสูงอย่างมีนัยสำคัญ จากสัดส่วนค้าปลีกมีมาร์จิ้นสูงเมื่อเทียบกับค้าส่ง "ธวัชชัย พุฒิพิริยะ" และ "อมร พุฒิพิริยะ" สองแม่ทัพใหญ่ มั่นใจผลงานปี 58 รายได้โต กำไรใกล้เคียงปีก่อน ส่วนปี 59 หลายปัจจัยหนุนผลงานโดดเด่น แถมมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินราคาเหมาะสม TNP ไว้ที่ช่วงราคา 2.20 – 2.50 บาท เชื่อ คุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว สำหรับผลงาน 9 เดือนแรก มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 957.94 ลบ. ส่วนกำไรสุทธิ อยู่ที่ 22.44 ลบ.
นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP เปิดเผยถึงแนวโน้มไตรมาส 4/2558 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี เนื่องจากไตรมาสสุดท้ายเป็นช่วงฤดูกาลเทศกาลที่ผู้บริโภคจะจับ จ่ายใช้สอยและ เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวคึกคักที่สุด มั่นใจว่าผลประกอบการได้ตามเป้าที่วางไว้
หลังจาก TNP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ จะเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ราว 350 ล้านบาท นำไปใช้เป็นเงินทุนก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่เพื่อรองรับการขยาย สาขาอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2559 เข้ามาช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการและด้านโลจิสติกส์ นำมาซึ่งการเติบโตของรายได้และกำไรที่สูงขึ้น ประกอบกับ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายขยายสาขาในปี 2559 อีก 3 สาขา ซึ่งจะเริ่มเห็นประสิทธิผลของการขยายสาขาต่อสัดส่วนรายได้ค้าปลีกที่สูงขึ้น และมาร์จิ้นมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อนหน้า ด้วยปัจจัยเหล่านี้ เชื่อว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการในปี 2559 ธนพิริยะจะสามารถเติบโตอย่างมีนัยสำคัญได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นในอัตรา 40% ของกำไรสุทธิ ไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นทุกท่านผิดหวังแน่นอน
"มั่นใจว่า ในช่วงต่อจากนี้ TNP จะสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ เพื่อผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องในอนาคต และราคาหุ้นจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงได้ในที่สุด เนื่องจาก บริษัทฯ เป็นธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็กที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตสูงและโอกาสในการขยาย สาขาได้อีกมาก ทั้งในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง" นายธวัชชัย กล่าว
เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดประจำ 9 เดือนแรกของบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 957.94 ล้านบาท
จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 890.11 ล้านบาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 67.83 ล้านบาท หรือ 7.62% ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 106.45 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 95.33 ล้านบาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 11.12 ล้านบาท หรือ 11.66% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 22.44 ล้านบาท
"ธนพิริยะเชื่อมั่นว่า จากสาขาใหม่ที่เปิด 3 ในไตรมาส 4 ปี 2557 และอีก 2 สาขาเปิดเพิ่มในปี 2558 จะสนับสนุนให้รายได้ทั้งปี 58 รายได้เติบโตขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ดีขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากสัดส่วนการขายปลีกจะมีสัดส่วนที่สูงขึ้นกว่าการขายส่ง และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นรวมทั้งปี 2558 จะทำได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา และยอดขายและกำไรในไตรมาส 4 ปีนี้ คาดว่าจะทำได้ตามเป้าที่วางไว้แน่นอน" เภสัชกรหญิงอมร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้ประเมินราคาเหมาะสมราคาหุ้น TNP ไว้ที่ช่วงราคา 2.20 – 2.50 บาท โดยมองว่า TNP จะยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนในระยะยาว โดยบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP เป็นผู้ประกอบการค้าปลีกแบบดั้งเดิมในจังหวัดเชียงราย มีจุดเด่นด้านฐานะการเงิน และการบริหารงานซึ่งสามารถแข่งขันกับโมเดิร์นเทรดได้ เศรษฐกิจเชียงรายที่ถูกขับเคลื่อนโดยภาคการท่องเที่ยว การลงทุน และการค้าชายแดน จะเอื้อประโยชน์ต่อการขยายสาขาในระยะยาว ส่วนการเติบโตของกำไรสุทธิ 48% ในปี 2559 และ 34% ในปี 2560 จะมาจากแรงกดดันด้านต้นทุนที่ลดลงหลังปรับปรุงโครงสร้าง บริหารงาน การเปิดสาขาใหม่เพื่อเพิ่มสัด ส่วนรายได้ค้าปลีกเทียบกับค้าส่ง และการเปิดใช้ศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ ทั้งนี้ ประเมินราคาเป้าหมายของ TNP 2.50 บาทต่อหุ้น