กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--กรมประชาสัมพันธ์
จากความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบัน ที่นิยมเลือกซื้อแต่หมูเนื้อแดงและไม่มีมัน ทำให้ผู้เลี้ยงหมูหาวิธีที่จะเลี้ยงหมูให้มีมันน้อยที่สุดและมีปริมาณเนื้อมากที่สุด เพราะจะได้ราคาดี และเป็นที่ต้องการของตลาดผู้บริโภค ดังนั้นผู้เลี้ยงหมูจึงหันมาใช้ยาในกลุ่มเบต้าอะโกนิสท์ เพื่อเร่งเนื้อแดงในหมูและลดไขมัน ซึ่งยานี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว. จึงจัดสัมมนาเรื่อง “หมูปลอดสาร คนปลอดภัย” ขึ้น ที่โรงแรมเอเชีย โดยรองศาสตราจารย์ จุฑารัตน์ เศรษฐกุล อาจารย์คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในฐานะนักวิจัยของ สกว. กล่าวว่า ผลการวิจัยพบว่า หมูที่ได้จากการสำรวจจากโรงฆ่าสัตว์มีปริมาณเนื้อแดงในซากสูงมากผิดปกติ ทำให้เชื่อว่าผู้เลี้ยงหมูของไทยใช้ยาในกลุ่มเบต้าอะโกนิสท์ เพื่อเพิ่มปริมาณเนื้อแดงในหมู ซึ่งผู้บริโภคจะไม่สามารถรู้ได้ว่าหมูแบบไหนจะปลอดสาร แต่มีวิธีหลีกเลี่ยงได้ โดยการบริโภคเนื้อหมูที่มีมันติด
รองศาสตราจารย์ จุฑารัตน์ เศรษฐกุล ยังเสนอแนะให้มีการนำระบบและวิธีการจัดระดับเกรดซากหมูมาใช้เป็นเกณฑ์ ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่จะรับรองหรือรับประกันคุณภาพของซากหมูและตกลงราคา ซื้อขายกันได้ โดยวิธีการนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคในประเทศได้บริโภคเนื้อหมูที่มีคุณภาพดี อย่างไรก็ตาม หากบริโภคเนื้อหมูที่ปนเปื้อนตัวยาดังกล่าว อาจมีผลข้างเคียงทำให้มีอาการกล้ามเนื้อสั่น หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ วิงเวียนและปวดศรีษะ ดังนั้นห้ามใช้กับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ และใช้อย่างระมัดระวังในผู้ที่มี ความดันโลหิตสูงและผู้ป่วยโรคเบาหวาน--จบ--
-สส-