กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--ฮุนได มอเตอร์
รถไฮไลท์ฮุนไดเอลันตราสปอร์ตเอสอี (All-New Hyundai Elantra Sport SE: Special Edition)
รถต้นแบบฮุนไดอินทราโด (Intrado: HED-9)
ข้อเสนอพิเศษสำหรับรถฮุนไดทุกรุ่น
บูธฮุนไดดีไซน์ใหม่
การขยายเครือข่ายศูนย์บริการ และการยกระดับการให้บริการหลังการขาย
รถโชว์ในงาน เอลันตราสปอร์ต (All-New Elantra Sport), เอช-วัน ซีรีย์(H-1 Series),แกรนด์สตาเร็กซ์ (Grand Starex), ทูซอน(Tucson) และ เวลอสเตอร์(Veloster)
บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัวรถรุ่นใหม่ "ฮุนไดเอลันตราสปอร์ตเอสอี (All-New Elantra Sport SE : Special Edition)" นิยามใหม่ของความสปอร์ต หรือ "Sport. Redefined. ที่ถ่ายทอดความสปอร์ตผ่านชุดแต่งที่ถูกออกแบบมาด้วยความปราณีต ผสมผสานอย่างกลมกลืนรอบคัน ด้านหน้าตกแต่งด้วยกระจังหน้า Blackout พร้อมชุดสเกิร์ตรอบคัน ทำให้รถดูมีเอกลักษณ์สปอร์ต สวยสะดุดตา ภายในโดดเด่นด้วยเบาะหนังลายใหม่พร้อมโลโก้ Elantra SE ตัดด้วยสีน้ำเงิน สะท้อนความเป็นรถสปอร์ตได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์ไลฟสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความสปอร์ตแบบพรีเมี่ยมที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา "เอลันตราสปอร์ตเอสอีใหม่" เป็นทางเลือกใหม่ของผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์คอมแพ็คท์ซีดานที่ขับสนุกเต็มสมรรถนะ ปราดเปรียวและคล่องตัว เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัยที่ครบครัน ท้าทายทุกสายตาด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์สปอร์ต โดดเด่นและมีสไตล์อย่างชัดเจน มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Creamy White, Phantom Black, Sleek Silver และ Santorini Blue เปิดตัวด้วยราคาเพียง 996,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ ดังนี้
• ฟรี รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 7 ปี หรือ 180,000 กม.
• ฟรี ค่าบำรุงรักษา ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่นาน 5 ปี หรือ 100,000 กม.
• ซื้อวันนี้ ผ่อนปีหน้า หรือ เลือกดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือนพร้อม ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
• ฟรี ค่าน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท
ความโดดเด่นของ "เอลันตราสปอร์ตเอสอีใหม่"
- ชุดสเกิร์ตสไตล์สปอร์ตรอบคัน (หน้า, ข้าง และหลัง)
- กระจังหน้า Blackout เพิ่มความสปอร์ต ดุดันมากยิ่งขึ้น
- สปอยเลอร์หลัง
- ปลายท่อไอเสียสแตนเลส
- โลโก้ "SE" ที่ฝากระโปรงด้านหลัง
- ล้ออัลลอยลายใหม่ สี Hyper Black ขนาด 17 นิ้ว
- เบาะหนังลายใหม่ พร้อมโลโก้ Elantra SE ตัดด้วยสีน้ำเงิน เพิ่มความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
- พรมปูพื้นพร้อมโลโก้ Elantra SE บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
- แป้นเหยียบสแตนเลส พร้อมแถบยางกันลื่น หรูหรา สปอร์ตกว่าเดิม
อุปกรณ์มาตรฐานที่มีอยู่ใน "เอลันตราสปอร์ตเอสอีใหม่"
- ไฟหน้าอัตโนมัติแบบ HID projector พร้อม LED Light Guide
- ระบบ Smart Entry และ ระบบ Push Start
- เครื่องเสียงวิทยุ CD/DVD แบบ 2 DIN รองรับไฟล์ MP3/WMA/AAC/MP4/DivX/JPG พร้อมหน้าจอระบบสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว
- ระบบแผนที่นำทาง
- กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะ
- ระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control
- ระบบพวงมาลัย Flex Steer
- กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อมที่ดันหลัง
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และระบบปัดน้ำฝนอัตโมมัติ
รถต้นแบบอินทราโด (Hyundai Intrado :HED-9)
"อินทราโด" หรือ เอชอีดี 9 คือรถต้นแบบแนว crossover ที่มาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในอาเซียนที่งาน Motor Expo 2015 เผยถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของแบรนด์ "ฮุนได" ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเดินทางในอนาคตกับการเพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่มากยิ่งขึ้น และตอกย้ำความเชื่อของฮุนไดที่ว่า การนำเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าผสมผสานกับการออกแบบที่ชาญฉลาดนั้น จะทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถใช้ประโยชน์จากรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ซึ่งการออกแบบของ อินทราโด ตั้งแต่ภายในจรดภายนอกนั้น ล้วนแล้วแต่คำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้ทั้งสิ้น โดยจะเน้นการใช้งานเป็นหลัก และยังสามารถนำมาใช้งานจริงกับรถยนต์ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
ชื่อ "อินทราโด" เป็นชื่อของส่วนที่อยู่ใต้ปีกของเครื่องบิน ซึ่งเป็นบริเวณที่ทำหน้าที่ในการสร้างแรงส่งให้เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า การออกแบบ อินทราโด นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินเช่นกัน ซึ่งจะเน้นการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง มีน้ำหนักที่เบาแต่มีความแข็งแรงสูง โดยตัวถังของ อินทราโด ผลิตจากวัสดุ carbon fiber ซึ่งสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 70% เมื่อเทียบกับตัวถังทั่วไป โดยยังสามารถรักษาระดับความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชิ้นส่วนตัวถังภายนอกผลิตจากวัสดุโลหะเทคโนโลยีล้ำสมัย ทำให้รถมีน้ำหนักเบา ทนทาน นอกจากนี้ยังมีการตัดชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อเป็นการลดน้ำหนักและเพิ่มประสิทธิภาพสูงที่สุดให้กับตัวรถ อีกทั้งยังให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นและง่ายต่อการบำรุงรักษา
อินทราโด ใช้เครื่องยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ร่วมกับแบตเตอรี่แบบ Li-ion ขนาด 36 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถวิ่งได้มากกว่า 600 กม. ต่อเชื้อเพลิงหนึ่งถัง โดยใช้เวลาในการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในเวลาเพียงไม่กี่นาที การขับเคลื่อนทั้งหมดนั้น จะไม่มีไอเสียถูกปลดปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม มีเพียงแต่น้ำบริสุทธิ์เท่านั้น นอกจากระยะทางวิ่งที่เพิ่มขึ้นแล้ว อินทราโด ยังมีสมรรถนะที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของ อัตราเร่ง การตอบสนอง และการควบคุม เนื่องจากน้ำหนักที่ลดน้อยลงและระบบขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา อินทราโด ได้รับรางวัล JURY PRIZE จากการประกวด JEC Innovation awards 2015 สำหรับการออกแบบตัวถังโดยใช้วัสดุ carbon fiber ที่ใช้กรรมวิธีและกระบวนการผลิตแบบใหม่ ทำให้มีประสิทธิภาพที่สูงกว่าการผลิต carbon fiber แบบทั่วไป ซึ่งเป็นการพิสูจน์และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและความสามารถของฮุนไดในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับยานยนต์ในอนาคต
แคมเปญพิเศษระหว่างงาน "Motor Expo 2015" (1-13 ธันวาคม 2558)
รถยนต์ฮุนไดเอลันตราสปอร์ต ทุกรุ่น (1.8 GL, 1.8 GLE, 1.8 GLS NAVI และ 1.8 SE)
- ฟรี รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 7 ปี หรือ 180,000 กม
- ฟรี ค่าบำรุงรักษา ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่นาน 5 ปี หรือ 100,000 กม.
- ซื้อวันนี้ ผ่อนปีหน้า หรือ เลือกดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน พร้อม ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- ฟรี ค่าน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท สำหรับรุ่น 1.8 SEและ 10,000 บาท สำหรับรุ่น 1.8 GLS Navi
รถยนต์ฮุนไดเอช-วัน ทุกรุ่น (อีลีท, เดอลุกซ์ และ ลิมิเตด)
- เลือกรับอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง
- ฟรีค่าแรงและค่าอะไหล่นาน 3 ปี หรือ 60,000 กม.
- หรือ ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
รถยนต์ฮุนไดแกรนด์สตาเร็กซ์ ทุกรุ่น (วีไอพี และ พรีเมียม)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
รถยนต์ฮุนไดทูซอน
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% ผ่อนนาน 48 เดือน
- ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- ข้อเสนอสุดพิเศษในงานฯ
รถยนต์ฮุนไดเวลอสเตอร์
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0% ผ่อนนาน 48 เดือน
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- ข้อเสนอสุดพิเศษในงานฯ
บูธฮุนไดดีไซน์ใหม่
ในปีนี้ฮุนไดได้ปรับเปลี่ยนการตกแต่งบูธในงาน Motor Expo ใหม่ โดยเน้นดีไซน์ที่โดดเด่น เรียบหรูและพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น โครงสร้างหลักปรับเปลี่ยนเป็นโทนสีบรอนซ์ ให้อารมณ์ทันสมัย หรูหรา เน้นเส้นสายที่เป็นเหลี่ยมสันและมุมอย่างมีเอกลักษณ์ ทั้งนี้เพื่อมุ่งสร้างความกลมกลืนระหว่างเทคโนโลยีและธรรมชาติให้มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับสโลแกน "New Thinking. New Possibilities." ที่บริษัท ฮุนได มอเตอร์ คอมปานี จำกัด ได้พยายามที่จะยกระดับแบรนด์ฮุนไดให้มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น ทั้งนี้การปรับดีไซน์ของบูธนั้นสอดคล้องกับ มาตรฐานการตกแต่งโชว์รูมใหม่ ที่ฮุนไดได้นำมาใช้ในการตกแต่งโชว์รูมทั่วโลก "Global Dealership Space Identity" (GDSI) ซึ่งในประเทศไทยได้ทยอยปรับเปลี่ยนโชว์รูมตามมาตรฐานใหม่แล้วหลายแห่งด้วยกัน
การขยายเครือข่ายศูนย์บริการ และการยกระดับการให้บริการหลังการขาย
นอกจากเรื่องของการยกระดับแบรนด์ด้วยการปรับดีไซน์ของ corporate identity แล้ว ฮุนไดยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพสินค้าและการบริการไปพร้อมๆกับการขยายจำนวนศูนย์บริการทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างทั่วถึง รวมไปถึงการสร้างความเชื่อมั่น ความมั่นใจ และความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยการยกระดับการให้บริการให้มีความรวดเร็ว มีคุณภาพ โดยช่างที่มีความชำนาญและได้มาตรฐาน และมีคลังอะไหล่ขนาดใหญ่ที่พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น โดยในปีนี้ฮุนไดได้เปิดโชว์รูมศูนย์บริการเป็นแห่งที่ 25 และฮุนไดยังคงมุ่งมั่นขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายต่อไปในอนาคต เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าฮุนได อย่างทั่วถึงที่สุด
รถยนต์รุ่นอื่นๆที่จัดแสดง
รถยนต์ฮุนไดเอลันตราสปอร์ต (All-New Hyundai Elantra Sport)
คือผลงานชิ้นสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากฮุนไดที่ยกระดับรูปลักษณ์และความมีรสนิยมทั้งภายนอก และภายในอย่างชัดเจนด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเพิ่มสมรรถนะมากมาย ฮุนไดเอลันตราสปอร์ต มีทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น 1.8 GL รุ่น 1.8 GLE รุ่น 1.8 GLS Navi และรุ่น 1.8 SE ที่เปิดตัวใหม่ในงาน ทั้ง 3 รุ่นใช้เครื่องยนต์ 1,800 ซีซี พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 178 นิวตันเมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุด 202 กม./ชม. โดดเด่นเหนือใครในระดับ 1,800 ซีซี ที่จำหน่ายในประเทศไทย ทำให้เป็นรถยนต์ที่ขับสนุกเต็มสมรรถนะ และสะดวกสบายเกินความเป็นคอมแพ็คท์ซีดาน จนสัมผัสได้ถึง "ความคุ้มค่าคุ้มราคา"
รุ่น 1.8 GLS Navi เป็นรุ่นสูงสุด มาพร้อมอุปกรณ์ระดับพรีเมี่ยมมากมาย เหนือชั้นกว่าด้วยสมรรถนะ และความสะดวกสบายในการเดินทาง พร้อมระบบความปลอดภัยที่มาอย่างครบครัน อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพ (ESP) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบจัดการเสถียรภาพ (VSM) และอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกอีกมากมาย รวมถึงระบบนำทาง GPS Navigation ที่ช่วยให้คุณไปถึงจุดหมายได้อย่างง่ายดายราคา 976,000 บาท
รุ่น 1.8 SE เป็นรุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเช่นเดียวกับรุ่น 1.8 GLS Navi แต่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งเพื่อเพิ่มความสปอร์ตให้มากขึ้น กับ ชุดสเกิร์ตรอบคัน กระจังหน้าสี Blackout ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วลายใหม่สี Hyper Black ปลายท่อไอเสียสแตนเลส เบาะหนังสปอร์ตตัดด้วยสีน้ำเงินพร้อมปักโลโก้ Elantra SE แป้นเหยียบสแตนเลส พรมปูพื้นพร้อมโลโก้ "Elantra SE"ราคา 996,000 บาท
รุ่น 1.8 GLE เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานมากมายในระดับราคาที่คุ้มค่ามาก มีอุปกรณ์ที่โดดเด่นดังต่อไปนี้ ระบบพวงมาลัยอัจฉริยะ Flex Steer เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และระบบฟอกอากาศ Clean Air เบาะนั่งหนังแท้กึ่งสังเคราะห์ ระบบ Smart Entry และ ระบบ Push Start ระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ แบบ Projector Lens พร้อม LED Light Guide ระบบเครื่องเสียงแบบจอสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังแท้ เบาะนั่งตอนหลังพับได้แบบ 60:40 พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง และถุงลมนิรภัยคู่หน้าราคา 869,000 บาท
รุ่นมาตรฐาน 1.8 GL โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ไฟหน้าแบบ multi-reflector ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มด้วยวัสดุที่ทำจากผ้า และกุญแจแบบพับเก็บได้พร้อมรีโมทในตัวราคา 799,000 บาท
รถยนต์ฮุนไดเอช-วันซีรีย์ (The New Hyundai H-1 Series)
ฮุนไดเอช-วัน มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ที่โดดเด่นและมีบุคลิกมากขึ้น กันชนหน้าหลัง กาบข้างดีไซน์ใหม่ เพิ่มความหรูหราภูมิฐานอย่างมีระดับ เอช-วัน ซีรีย์ มี 3 รุ่นให้เลือก ได้แก่ รุ่น เดอลุกซ์ รุ่นอีลีท และ รุ่นลิมิเตด
อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับฮุนไดเอช-วันทุกรุ่นได้แก่
เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 2.5 ลิตร ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบแปรผัน (VGT) พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 441 นิวตัน-เมตร ถ่ายทอดลงถนนด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sequential Mode
ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
เบาะนั่งในห้องโดยสาร 12 ที่นั่ง หมุนได้ 180 องศา
ประตูห้องโดยสารเปิดสไลด์ 2 ข้าง พร้อมกระจก Flush Glass
ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link พร้อมคอยล์สปริง
รุ่นเดอลุกซ์ (Deluxe) มาพร้อมกับคอนโซลกลางที่ออกแบบใหม่ เพื่อรองรับเครื่องเสียง DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบนำทางใหม่ มีการตกแต่งด้วยลายไม้ใหม่ หน้าจอ LCD ติดเพดานสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และ กล้องมองหลังพร้อม Bird's Eye View เพื่อช่วยในการจอดรถราคา 1,599,000 บาท
รุ่นอีลีท (Elite) เป็นรุ่นเริ่มต้นของ เอช-วัน ซีรีย์ ซึ่งยังคงระดับความสบายเช่นเดียวกับรุ่น เดอลุกซ์ ด้วยเบาะแบบ 12 ที่นั่ง ซึ่งเป็นเบาะหุ้มหนัง มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว และ สัญญาณกะระยะถอยหลังเพื่อช่วยในการจอดรถ เป็นอีกทางเลือกของผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์สไตล์ Luxury MPV ที่เน้นความคุ้มค่าคุ้มราคา ความหรูหราในราคาที่โดนใจ และการใช้งานที่ดีเยี่ยม ราคา 1,449,000 บาท
รุ่นลิมิเตด (Limited) เป็นรุ่นพิเศษสำหรับ เอช-วัน ซึ่งเปิดตัวมาเพื่อเอาใจแฟน เอช-วัน ที่ต้องการความสปอร์ตมากขึ้น รุ่นลิมิเตด มีพื้นฐานมาจากรุ่น เดอลุกซ์ แต่ได้เติมแต่งอุปกรณ์เพื่อเพิ่มความสปอร์ต เริ่มจากสีภายนอกสีขาว Creamy White พิเศษเฉพาะรุ่น ภายในสีเทาแบบ Two-tone พร้อมเบาะหนังสีเทาพิเศษและลายไม้สีเทาเข้ม พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ พรมปูพื้นคุณภาพสูงพร้อมโลโก้ "H-1 Limited" ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สี Hyper Black และ โลโก้ "LIMITED" ที่ฝากระโปรงท้ายราคา 1,639,000 บาท
รถยนต์ฮุนไดแกรนด์สตาเร็กซ์วีไอพี (The New Hyundai Grand Starex VIP)
รถยนต์เรือธง Luxury MPV แบบ 7 ที่นั่ง จากฮุนได ใช้เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 2.5 ลิตร ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบแปรผัน (VGT) พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า และแรงบิด 441 นิวตัน-เมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift
อุปกรณ์มาตรฐานได้แก่
เบาะแบบ VIP พร้อมหมอนรองศีรษะแบบ Butterfly พนักพิงกับที่รองต้นขาปรับด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อความสะดวกสะบายสูงสุด
ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
กล้องมองหลังพร้อม Bird's Eye View เพื่อช่วยในการจอดรถ
คอนโซลกลางใหม่ พร้อมเครื่องเสียง DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
ระบบแผนที่นำทาง
เคานเตอร์บันเทิงบรรจุเครื่องเล่น DVD และเครื่องเสียงจาก Kenwood® พร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 22 นิ้ว แบบ Full HD
ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
กุญแจรีโมทและสัญญาณกันขโมย
ราคา 1,978,000 บาท
รถยนต์ฮุนไดทูซอน (The New Hyundai Tucson)
ฮุนไดทูซอน คือผลงานการพัฒนารถยนต์ที่เป็นการเติมเต็มในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก อุปกรณ์ความสบายต่างๆ และสมรรถนะการขับขี่ ใช้เครื่องยนต์ ขนาด 2,000 ซีซี เทอร์โบดีเซล คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 184 แรงม้า แรงบิด 392 นิวตัน-เมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift Mode ภายนอกโดดเด่นด้วยไฟหน้าใหม่แบบ Projector Lens ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไฟท้ายล้ำสมัยด้วยไฟ LED ที่ออกแบบการส่องสว่างได้อย่างแตกต่างและทันสมัย ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมยาง ขนาด 225/60/R17 เครื่องเล่น DVD พร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว ที่เชื่อมต่อความบันเทิงผ่านช่องต่อ USB/AUX ระบบนำทาง GPS ที่แม่นยำ และให้ความสะดวกในทุกเส้นทาง
อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ได้แก่
ระบบ Smart Entry และ Push Start
ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
ระบบรักษาเสถียรภาพรถยนต์ ESP (Electronic Stability Program)
ระบบช่วยชะลอความเร็วขณะลงทางลาดชัน DBC (Down-Hill Brake Control)
ระบบป้องกันรถไหลขณะขึ้นทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
ราคา 1,690,000 บาท
รถยนต์ฮุนไดเวลอสเตอร์ (The New Hyundai Veloster)
ฮุนไดเวลอสเตอร์ เป็นการปฏิวัติยานยนต์ ด้วยรูปลักษณ์แฮทช์แบ็คแบบ 2+1 ประตู ที่ทำให้ เวลอสเตอร์ มีรูปทรงเป็นคูเป้ แต่มีความสะดวกสบายเทียบเท่ากับรถซีดานทั่วไป ประตูที่ตำแหน่งด้านหลังซ้ายทำให้ผู้โดยสารด้านหลังสามารถขึ้นลงจากรถอย่างสะดวกสบาย โดยที่ไม่ต้องรอผู้โดยสารด้านหน้าดังเช่นรถคูเป้ทั่วไป Veloster มี 2 รุ่นให้เลือกตามชนิดของเครื่องยนต์ 2 แบบคือ เครื่องยนต์ขนาด 1.6L MPI และ เครื่องยนต์ 1.6L ระบบเทอร์โบแบบ Twin Scroll ไดเร็คอินเจ็คชั่น
รุ่นเวลอสเตอร์สปอร์ตเทอร์โบ (Veloster Sport Turbo)
อุปกรณ์มาตรฐานมีดังนี้
เครื่องยนต์ 1.6L T-GDI ให้กำลังสูงสุด 186 แรงม้า พร้อม แรงบิดแบบ flat torque 265 Nm ที่ 1,500-4,500 รอบต่อนาที
เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดพร้อมระบบ Sequential Shift
แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shifters)
ไฟหน้าแบบ Projector Lens พร้อมไฟวิ่งกลางวันแบบ LED
ไฟท้ายแบบ LED
เบาะหนัง พร้อมที่ปรับที่นั่งคนขับแบบไฟฟ้า
เครื่องเสียงหน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบบลูทูธ
ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
หลังคากระจกไฟฟ้าแบบพาโนรามิค (Panaoramic Sunroof)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
ราคา 1,739,000 บาท
รุ่นเวลอสเตอร์ (Veloster)
อุปกรณ์มาตรฐานมีดังนี้
เครื่องยนต์ 1.6L MPI 130 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดพร้อม Sequential Shift
ระบบ Smart Entry และ ระบบ Push Start
เครื่องเสียงหน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบบลูทูธ
ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
สัญญาณกะระยะถอยหลัง
ABS, EBD และ BA
ราคา 1,299,000 บาท