กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
การถือหุ้นรายย่อยเชิงกลยุทธ์ถือเป็นแพลตฟอร์มในประวัติการณ์ที่ช่วยสร้างโอกาสการเติบโตให้กับซีเอฟจีในประเทศจีนและทั่วโลก
ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป มีมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในข้อตกลงครั้งนี้
ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป (ซีเอฟจี) เจ้าของสโมสรฟุตบอลและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรนิวยอร์ก ซิตี้ สโมสรเมลเบิร์น ซิตี้ และเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยของสโมสรโยโกฮาม่า เอฟ มารีนอส ด้วย ได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับสถาบันการลงทุนที่มีชื่อเสียงหลายแห่งจากประเทศจีน นำโดยบริษัทซีเอ็มซี (ไชน่า มีเดีย แคปิตอล) โฮลดิ้งส์ ที่เป็นผู้นำในธุรกิจสื่อ บันเทิง กีฬา และอินเทอร์เน็ต โดยความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างแพลตฟอร์มครั้งประวัติศาสตร์ที่จะนำไปสู่การเติบโตของสโมสรและบริษัทภายใต้ซีเอฟจี ทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก นับเป็นการต่อยอดจากจุดแข็งของซีเอฟจี ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในอุตสาหกรรมกีฬา อีกทั้งยังมีทรัพยากรที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนวงการฟุตบอลของประเทศจีนด้วย
ข้อตกลงดังกล่าวระบุให้ซีเอ็มซี โฮลดิ้งส์ และ ซิติค แคปิตอล ลงทุนเป็นมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นการครองหุ้นของซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป เป็นจำนวนมากกว่า 13% อยู่เล็กน้อยเท่านั้น และทำให้ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป มีมูลค่าถึง 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ข้อตกลงนี้ยังคงต้องรอการอนุมัติตามกฎระเบียบในบางพื้นที่
การประกาศความร่วมมือครั้งนี้เป็นผลมาจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ร่วมทุนเป็นเวลากว่า 6 เดือน เพื่อวางโครงสร้างและกลยุทธ์การบริหารงานร่วมกันที่เหมาะสมที่สุด โดยเงินทุนที่ได้จากผู้ถือหุ้นรายใหม่นี้จะถูกนำไปใช้เป็นงบประมาณเพื่อการเติบโตในประเทศจีน การขยายโอกาสธุรกิจในอนาคตของซีเอฟจีในระดับโลก ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในซีเอฟจีเอง
ความร่วมมือซีเอฟจี/ซีเอ็มซีจะเปิดโอกาสในการสร้างมูลค่าใหม่ๆ สำหรับซีเอฟจีทั้งในประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ด้วยการจับมือกับซีเอ็มซี ซิติค แคปิตอล และอุตสาหกรรมฟุตบอลจีน ซึ่งทางตัวแทนของซีเอ็มซี และ ซิติค แคปิตอล ได้เริ่มร่วมงานกับผู้บริหารของซีเอฟจีแล้ว ควบคู่ไปกับผู้บริหารที่เป็นบุคคลภายนอก ทั้งหมดนี้เพื่อค้นหาและดำเนินงานโครงการที่เหมาะสมใจประเทศจีน สำหรับสโมสรและบริษัทภายใต้ซีเอฟจี
ข้อตกลงนี้จะเป็นการเพิ่มหุ้นใหม่ในซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป ที่นอกเหนือจากที่เป็นกรรมสิทธิ์ของอาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป หรือ เอดียูจี บริษัทด้านการลงทุนและพัฒนาองค์กร ส่วนตัวของชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน ที่ก่อนหน้านี้เป็นผู้ถือหุ้นซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป แต่เพียงผู้เดียว
ทั้งนี้ ซีเอ็มซีจะมีตัวแทนร่วมบริหารด้วย โดยมีนายรุ่ยกัง หลี ประธานซีเอ็มซี เป็นสมาชิกบอร์ดบริหารคนใหม่ของบริษัทซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง ทำให้จำนวนบอร์ดบริหารจากเดิม 6 คน เพิ่มขึ้นเป็น 7 คน
นายคัลดูน อัล มูบารัค ประธานซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป เปิดเผยถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า 'ฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนหลงใหล เล่น และดูมากที่สุดในโลก และสำหรับในประเทศจีนแล้ว วิถีการเติบโตอย่างรวดเร็วของฟุตบอลเป็นสิ่งทั้งโดดเด่นและน่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง เราจึงพยายามหาหุ้นส่วนทางธุรกิจที่เหมาะสม และสร้างโครงสร้างความร่วมมือที่ดี เพื่อรองรับสุดยอดโอกาสทางธุรกิจในประเทศจีน สำหรับซีเอฟจีและวงการฟุตบอลโดยรวม'
นอกจากนี้ นายมูบารัคยังกล่าวด้วยว่า 'หุ้นส่วนของเรามีสถิติที่น่าทึ่งในการสร้างมูลค่าการลงทุน และเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะพาซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป ให้เจริญเติบโตได้ต่อไป เราเชื่อว่าเราได้สร้างช่องทางการเติบโตอย่างไร้คู่แข่งสำหรับซีเอฟจี สโมสร และบริษัท ในประเทศจีนและทั่วโลกขึ้นมาแล้ว และเราจะมุ่งมั่นบริหารงานร่วมกับหุ้นส่วนใหม่ของเรา เพื่อให้ความเป็นไปได้ต่างๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมข้อตกลงครั้งนี้เป็นความจริงขึ้นมาในที่สุด'
ด้านนายรุ่ยกัง หลี ประธานซีเอ็มซี ในฐานะกลุ่มทุนที่เข้ามาลงทุนใหม่ ระบุว่า 'การพัฒนาวงการฟุตบอลจีนกำลังอยู่ในจุดที่น่าสนใจและเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ เราเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตครั้งใหญ่ ทั้งในด้านการพัฒนาของอุตสาหกรรมเอง ในฐานะกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในประเทศ และทั้งในการสร้างแรงบันดาลใจ หลอมรวมผู้คนทุกวัยที่รักในกีฬาชนิดนี้เข้าด้วยกัน ซีเอ็มซีได้ทุ่มเทสร้างโอกาสมากมายในวงการฟุตบอลจีนในทุกแง่มุม ด้วยโครงสร้างธุรกิจที่โดดเด่นและความสำเร็จของซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป อย่างที่ทุกคนรู้จักนั้น จะทำให้เกิดระบบที่แตกต่างในการสร้างองค์ความรู้ด้านฟุตบอล การพัฒนานักเตะ โปรแกรมสร้างนักเตะเยาวชน และความร่วมมือเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมฟุตบอลจีนในหลายระดับ เราและผู้ร่วมทุนอย่าง ซิติค แคปิตอล เห็นว่าการลงทุนครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการร่วมส่งเสริมให้จีนได้เข้าสู่ครอบครัวฟุตบอลระดับโลก'