กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
เสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของเด็กๆ ปนกับเสียงแข่งกันตอบคำถามดังแว่วมาจากอาคารขนาดย่อมสีสันสวยงามภายในบริเวณโรงเรียน เป็นอีกหนึ่งเสียงแห่งความสุขในกิจกรรมเพื่อสังคมที่กรุงศรี ออโต้จัดขึ้นสำหรับเยาวชนโดยเฉพาะ ปัจจุบันเมื่อการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในห้องเรียน สื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียนล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการขยายโอกาสทางการศึกษา อันจะเป็นพื้นฐานในการนำไปสู่การเติบโตที่ดีในอนาคต นี่จึงเป็นที่มาของโครงการ "ห้องสมุดกรุงศรี ออโต้"
โครงการ "ห้องสมุดกรุงศรี ออโต้" เป็นหนึ่งในโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ที่ "กรุงศรี ออโต้" ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ เครือกรุงศรี ได้ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2553 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้โอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียนในชุมชนที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน หนังสือ และสื่อการสอน ให้มีโอกาสทัดเทียมเท่ากับเด็กในชุมชนเมือง ตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนไทยมีนิสัยรักการอ่าน และรู้จักแสวงหาความรู้นอกห้องเรียน
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ธุรกิจด้านสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "กรุงศรี ออโต้ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อยานยนต์ควบคู่ไปกับ การมีส่วนร่วมสร้างความเข้มเข็งให้กับชุมชนและท้องถิ่น ภายใต้แนวปฏิบัติหลักของบริษัทฯ คือการให้สินเชื่อ อย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending: RL) ซึ่งไม่เพียงครอบคลุมเฉพาะการพิจารณาสินเชื่อเท่านั้น แต่รวมถึง การช่วยเหลือสังคมในทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะด้านการศึกษาซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เยาวชนของเรามีความแข็งแกร่งด้านความรู้และทักษะการใช้ชีวิต กรุงศรี ออโต้จึงได้ดำเนินโครงการ "ห้องสมุดกรุงศรี ออโต้" ไปทั่วทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง และในปี 2558 ได้ส่งมอบห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ แห่งที่ 11 ให้กับโรงเรียนบ้านหนองค้ากลางฮุง ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น และห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ แห่งที่ 12 ให้กับโรงเรียนห้วยใหญ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยตั้งแต่ริเริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน กรุงศรี ออโต้ได้ส่งมอบห้องสมุด "กรุงศรี ออโต้" ไปแล้ว 12 แห่ง ทั่วประเทศ นอกเหนือจากการส่งมอบห้องสมุด พร้อมทุนการศึกษา อุปกรณ์การเรียนการสอน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์กีฬาแล้ว เรายังได้รับความร่วมมือจากพนักงานจิตอาสาและคู่ค้าพันธมิตรเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณประโยชน์ภายในงาน อาทิ การปรับปรุงสนามเด็กเล่นและภูมิทัศน์โรงเรียน กิจกรรมสันทนาการ ตลอดจนจัดอบรมโครงการ "70 ปีกรุงศรี 70 โรงเรียนรอบรู้เรื่องเงิน" ให้กับนักเรียน เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนมีวินัยทางการเงินและรู้จักการออมเงินควบคู่ไปกับการเรียนรู้นอกห้องเรียนด้วยเช่นกัน"
ในฐานะผู้บริหารสถานศึกษา นายสุพัฒน์ นริยา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองค้ากลางฮุง จ.ขอนแก่น ได้กล่าวถึงการส่งมอบห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ ว่า "พอได้รับการติดต่อจากกรุงศรี ออโต้ ผมก็รู้สึกดีใจแทนเด็กๆ ที่จะมีแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนที่มีมาตรฐาน ห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ แห่งที่ 11 นี้ ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สอดคล้องกับนโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" ของภาครัฐ ที่ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้ขวนขวายหาความรู้ด้วยตัวเอง และมีความสุขกับการเรียนรู้ นักเรียนสามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่ตนเองสนใจได้ พี่อาจจะสอนน้อง เพื่อนสอนเพื่อน เรียนรู้ไปด้วยกันได้"
นางนิลุบล ประดับพร ผู้อำนวยการโรงเรียนห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี กล่าวว่า "ที่ผ่านมาโรงเรียนของเราไม่เคยมีห้องสมุด เราต้องกั้นห้องแบ่งครึ่งเป็นห้องพยาบาลและห้องเก็บหนังสือ ซึ่งหนังสือส่วนมากเป็นหนังสือที่ได้รับการบริจาคและบางส่วนมาจากงบประมาณที่โรงเรียนจัดสรรมาซื้อหนังสือเพิ่มเติม เมื่อทางกรุงศรี ออโต้มาดำเนินการสร้างห้องสมุดให้ ทางเราดีใจมาก เพราะห้องสมุดถือเป็นแหล่งเรียนรู้ของคนทุกเพศทุกวัย เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับเด็กๆ ที่เขาไม่ค่อยมีโอกาสเท่ากับที่อื่น เด็กที่นี่ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ยากจนและขาดแคลน ครูมั่นใจว่าเราจะได้ประโยชน์สูงสุดจากห้องสมุดนี้ค่ะ"
การสร้างห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ แห่งที่ 11 และ 12 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคู่ค้าของกรุงศรี ออโต้ ที่ดำเนินธุรกิจร่วมกันมายาวนาน โดยนางนันฐิยา สิริกาญธนานันท์ ผู้บริหารเต็นท์รถบ้าน จ.ขอนแก่น กล่าวว่า "เมื่อ 2 ปีก่อน เคยมาร่วมงานส่งมอบห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ ที่โคราชมาแล้ว ครั้งนี้พอมาสร้างห้องสมุดที่ขอนแก่น จึงยินดีอย่างมากที่ได้มาร่วมสร้างโอกาสการเรียนรู้นอกห้องเรียน และปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับเด็กๆ อีกครั้งหนึ่ง และจะร่วมกิจกรรมกับกรุงศรี ออโต้ ต่อไปค่ะ"
ส่วนนายมนต์ชัย ศรีเพชรนัย ผู้บริหาร Mike Car Center จ.ชลบุรี ได้กล่าวว่า "กิจกรรมส่งมอบห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ เป็นกิจกรรมที่ดี เพราะเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับน้องๆ และเป็นการยกระดับการศึกษาของโรงเรียนในพื้นที่ชนบทที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังเข้าไม่ถึง ผมอยากให้กรุงศรี ออโต้ สร้างห้องสมุดต่อไปเรื่อยๆ เพราะการศึกษาเป็นพื้นฐานของการต่อยอดไปสู่อนาคตที่ดีครับ"
การเติบโตของสังคมที่ดีอยู่ที่พื้นฐานของการสร้างบุคลากรที่ดี รากฐานที่ดีของการพัฒนาคนคือการศึกษาและการเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน ดังนั้น การร่วมกันในการปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนไทยมีนิสัยรักการอ่าน และรักการเรียนรู้กับสิ่งที่อยู่รอบตัวถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกหน่วยงานควรให้ความใส่ใจ และร่วมกันผลักดัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพเยาวชนคุณภาพการศึกษา และคุณภาพของสังคมไทยในระยะยาวต่อไป